สวัสดีครับผมกันอีกครั้งนะครับกับการรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ผมได้ซื้อมาแล้วชอบมากมาก นั้นก็คือ SK II : Treatment Essence For Men (ของผู้ชาย) ซึ่งวันนี้ผมได้ทำรีวิวมาให้เพื่อนๆได้ดูกันครับในสภาพที่ตัดผมมาใหม่ซึ่งไม่ค่อยมั่นใจเลยเพราะออกกล้องแล้วหน้าบานมาก(แงแง)ทั้งแบบคลิปวิดิโอ และ รูปภาพให้เลือกชมครับ(แต่ดูวิดิโอหน่อยก็ดีนะครับเค๊าตั้งใจทำให้ทุกทุกคนเลย และ ทำเป็นHD ให้เพื่อนๆได้ดูแล้วนะอิอิ)
VIDEO
ซึ่งเอสเซ๊นตัวนี้จะคล้ายๆกับเอ๊สเส๊นขวดสีขาวหรือน้ำป้าเจี๊ยบที่โด่งดังกันมากในห้องแป้ง แต่มีแพ็กเก็จจิ้งและส่วนผสมที่แตกต่างกันอยู่ซึ่งวันนี้ผมจะมาพูดถึงเพกเกจ ส่วนผสม วิธีใช้ สรรพคุณรวมถึง รีวิวหลังการใช้ว่ามันเป็นอย่างไร บอกก่อนผมไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์หรือผู้รอบรู้ในเรื่องสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของตัวเอสเส๊นนี้ ดังนั้นข้อมูลเหล่านี้ที่ผมเกล่ามาจึงมาจากกูเกิ้ล และอ้างอิงจากเว็ปไซค์ต่างๆนั่นเองนะครับ งั้นเราไปดูกันเลยละกันนครับว่าแพกเกจจิ้งของมันเป็นอย่างไร
Packaging : ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงแพกเกจจิ้งก่อนเลยนะครับ SK II Treatment essense for men ตัวนี้ถูกออกแบบมาเป็นขวดสีดำสนิท ลักษณะเรียว ยาว เป็นทรงกระบอกหากนำไฟส่องเข้าไปจะสังเกตได้ว่าขวดนี้สามารถเรืองแสงออกเป็นสีแดงแดง ได้เหมือนสีเลือด ดูสวยและเป็นศิลปะมากเป็นสิ่งที่ทำให้ผมชอบและซื้อมันมาเหมือนกัน ส่วนน้ำเอสเส๊นด้านในเป็นสีใสใสเหมือนขวดสีขาว ไม่ใช่สีแดงหรือดำอย่างที่คิดเอาไว้ และ เอสเส๊นมีสองขนาดได้แก่ 75ml 2800(สามเดือน) = 150ml 4600 บาท(ครึ่งปี)นั่นเอง เราสามารถสังเกตของแท้ได้จาก สติกเกอร์ที่แปะตรงฝาขวดครับว่ามีหรือเปล่าซึ่งของแท้ก็ต้องมีติดไว้แน่นอนครับต่อไปเราไปดูส่วนผสมหลักหรือ active ingredient กันเลย
Active Ingredient : เอาหล่ะเรามาดูส่วนผสมหลักๆของเอสเคทูกันเลยนะครับ จากข้างกล่องจะมีส่วนผสมดังนี้
Galactomyces ferment filtrate หรือเรียกอีกอย่างนึงว่าพิเธร่า ซึ่งพิเธร่าคือสารที่เกิดขึ้นจากกระบวนการหมักยีสที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ในระดับที่เหมาะสมแก่ความต้องการของผิว ซึ่งในขวดนี้ทางSK II ได้บอกมาว่ามีพิเธร่าถึง 90%ด้วยกันมิน่ากลิ่นแรงเชียว ซึ่งเป็นกลิ่นที่เฉพาะตัวของพิเธร่านั่นเองครับ และนอกจากเอ๊สเส้นแล้วSK IIก็ได้ใส่พิเธร่าลงไปเนส่วนผสมในผลิตภันทุกตัวของเอสเคทูเลยครับ นอกจากพิแธร่าแล้วยังมีสารที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวเหมือนกับขวดสีขาวแต่ที่เพิ่มขึ้นมาในFormen ก็คือเมนทอล ซึ่งเมนทอลจะให้ความรู้สึกที่เย็นและสดชื่นในขณะที่ใช้เพื่อความผ่อนคลายแต่ข้อเสียของมันคือามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้เช่นกันครับ ดังนั้นถ้าใครอยากจะซื้อมาใช้กรุณาลองก่อนที่เคาเตอร์นะครับจะได้ไม่เปลืองเงิน
ไหนไหนก็ไหนไหนเราก็จะมาใช้ให้ดูกันครับเริ่มจากหยดเอสเส้นลงบนฝ่ามือแล้วนำมาตบเบาเบาเข้าใบหน้าครับก่อนที่จะบำรุงในขั้นตอนต่อไป ซึ่งทางเอสเคทูเคลมมาว่าหลังจากใช้ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน, เพิ่มความกระชับ, ฟื้นบำรุงและลดเลือนริ้วรอย, เพิ่มความกระจ่างใส, ลดเลือนจุดด่างดำ ภายใน 14วัน
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันดีจริงนะครับตั้งแต่ที่ผมใช้ตั้งแต่ขวดขาวมาก็เดือนกว่าแล้วจนถึงตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ขวดดำ และไม่เกิดอาการแพ้อะไรทั้งสิ้นรู้สึกได้เลยว่าผิวดูเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้น และรอยสิวจางลงได้อย่างชัดเจนครับ พิสูจน์มาแล้วว่ามันดีเลยอยากมาแนะนำเพื่อนๆว่ามันใช้และได้ผลจริงจากคนมีสิว มีรอยด่างดำ สีผิวคล้ำไม่สม่ำเสมอก็เปลี่ยนมาดูดีขึ้นภายในหนึ่งเดือนส่วนตัวชอบมากและเป็นแบรนด์แรกที่ผมใช้แล้วเห็นผลอย่างชัดเจนก็ขอบคุณเอสเคทูที่ทำให้ผมได้กลับมาหน้าใสเหมือนแต่ก่อนนะครับ
โดยสรุปแล้วเอสเคทูที่ผมได้ลองมาไม่ได้ช่วยเรื่องขาวนะครับแต่จะช่วยฟื้นฟูหรือ recovery หน้าเราให้กลับสู่สภาพปรกติที่ควรจะเป็นดังนั้นใครที่อยากขาวโอโมพลัสก็ไม่แนะนำเอสเคทูนะครับ แต่เอสเคทูจะเหมาะกับผิวที่ถูกทำลาย หรือเสื่อมโทรม ให้กลับมาสู่สภาพที่ดีเหมือนเดิมที่ไม่เคยเป็นอะไรนั่นเองครับ วันนี้ขอบคุณนะครับที่ติดตามรีวิวผลิตภัณฑ์ของผมไงเป็นกำลังใจให้ผมและอย่าพึ่งเบื่อกันนะครับ จุ๊บุ จุ๊บุ >^<