ห่างหายไม่ได้เจอกันเสียนาน เพราะมัวแต่ยุ่ง ๆ เคลียเรื่องงานอยู่
และแล้ว อั้มก็ หาเวลาว่างมา เขียน Review ครีมกันแดดได้เสียที
ครีมกันแดด ตัวที่จะเขียนในวันนี้่ ทุก ๆ คนคงรู้จักของแบรนนี้เป็นอย่างดี
นั่นก็คือ "Biore" นั่นเองคะ Biore เป็นผลิตภัณฑ์มาจาก Japan นะคะ
ปกติครีมกันแดดตัวนี้ อั้มใช้ประจำอยู่แล้ว แต่ เดือนนี้ ไม่ต้องซื้อคะ
เพราะ ได้มาฟรี จาก Cosme*net
ก่อนจะเข้าเรื่อง เรามาทำความรู้จักกับครีมกันแดดตัวนี้กันก่อนนะคะ
เรามาทำความรู้จักกับ 2 รังสีที่คุ้นหู กันก่อนดีกว่าคะ อาจได้ยินบ่อย ๆ แต่บางท่านยังคงไม่รู้ว่ามันอะไรยังไง
1. UVA คือ รังสีที่สามารถทะลุเข้าถึงชั้นผิวภายในของเราได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผิวร่วงโรย
เหี่ยวบ่นก่อนเวลาอันควร นั่นเองคะ
2. UVB นั้น ถ้าร่างกายของคนเราได้รับรังสีตัวนี้เป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้ผิวอักเสบได้นะคะ
เป็นสาเหตุ ของ ฝ้า กระ และความแห้งกร้าน หรืออาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังด้วยนะจ้ะ
มารู้จักกับอีกสิ่งที่เราได้ยินบ้อยบ่อย นั่นก็คือ SPF และ PA
SPF = Sun Protection Factor คือ ตัวเลขที่บอกความสามารถของครีมกันแดดในการป้องกัน
ผิวจากแสงแดด เช่น เมื่อใช้ครีมกันแดดที่มี SPF15 จะสามารถอยู่กลางแดดได้นาน
ขึ้น 15 เท่า
PA = Protection UVA
คือ ค่ามาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น ดูที่ค่า จะแสดงถึงประสิทธิภาพ
ในการป้องกัน UVA เช่น PA คือ ค่าสูงสุดในการปกป้องผิว
Tips : ดังนั้นควรเลือกครีมกันแดดที่มีทั้ง SPF และ PA ด้วยนะจ้ะ
แพคเกจ :: เป็นหลอดสีเงิน ดูเลิศหรู ตัวภาชนะบรรจะ เป็นแบบหลอดนิ่ม
เพื่อให้บีบเนื้อมูสออกมาได้ง่าย ๆ ปากหลอดมีความแคบ ทำให้ไม่ต้องกลัว
ว่าจะบีบแล้วไหลออกมาเยอะเกิน (แต่ถ้าเยอะเกิน) ก็เอามาทาคอทาตัวได้นะจ้ะ
จุดเด่นของ Biore UV ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่น ?
จริง ๆ แล้ว จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้ก็อยู่ตรง คำโฆษณา นั้นเองคะ
ปกป้องยาวนาน สูตน้ำ สดชื่น เบาสบาย ปกป้องริ้วรอยก่อนวัย Wow !!! ตั้งแต่สัมผัสแรกกับเนื้อมูสนุ่มเบา ราวกับชโลมน้ำบนผิว
แต่ป้องกันแดดเหนือชั้น ยาวนานกว่า 50 เท่า
มาดูเนื้อครีมกันดีกว่าคะ
- เนื้อมูสบางเบา สมคำร่ำรือ
- ปาดไปกับผิวแล้วรู้สึกได้เลยว่าเหมือนมันมีอะไรมาเคลือบผิวอยู่
- ดูจากภายได้เลยคะ จะเห็นว่าเมื่อทากันแดดตัวนี้แล้ว จะทำให้ผิว
บริเวณที่ทา กระจ่างใส หรือ ขาวขึ้นด้วยคะ
ครีมกันแดด Biore จะถูกแพคมากับภาชนะกระดาษ พร้อมติดสติ๊กเกอร์ภาษาไทยด้านหลัง
ดังภาพด้านล่างนี้นะคะ หากแกะแล้ว อยากรู้ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง หรืออยากทราบ
คุณสมบัติ อยากทราบ รายละเอียดต่าง ๆ ของครีมกันแดด
ก็เก็บ ภาชนะนี้ไว้ด้วยนะคะ เพราะถ้าหายไปแล้วจะไม่มีอะไร
ที่เราอ่านออกอีกเลยคะ เพราะที่หลอดนั้น มีแต่ภาษา ญี่ปุ่น หมดเลย
รู้ไหม ทำไมฉันถึงหลงรัก Biore ::::
- เพราะ เนื้อ มูส บางเบา เมื่อสัมผัสกับผิวจะกลายเป็นน้ำซึมเข้าสู่ผิว
และยัง เป็นเมคอัพเบสในตัว ปรับผิวให้เรียบเนียน ขาวกระจ่างใส
- ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น
- ทดสอบกับกระดาษซับมันแล้ว ไม่มีน้ำมันออกมาจากเนื้อครีมเลย
- กันแดดตัวนี้สามารถเก็บกักน้ำหล่อเลี้ยงผิวให้นุ่มชุ่มชื่นด้วย
Hyaluronic Acid ผ่าน Mix Citrus Essence
จาก เกรฟฟรุ๊ต ออเรนจ์ และ เลมอน
- เพราะไม่ระคายเคืองผิวหน้าของฉัน ถึงแม้มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
- เวลาฉันเร่งรีบ ก็ทากันแดดตัวนี้ แล้วตามด้วยแป้งผสมรองพื้นได้เลยคะ
ประหยัดเวลาในการเพิ่มความสวยในเวลาเร่งรีบ << เลิศมากเลยจุดนี้ >>
ส่วนประกอบ :: ตรงนี้สำคัญมาก ๆ เลยนะคะ การอ่านส่วนประกอบก็มีความสำคัญในการเลือกซื้อครีมกันแดด
เหมือนกันนะคะ การอ่านค่าส่วนประกอบ ส่วนผสม/ส่วนประกอบหลัก จะเรียงจากอันดับแรก คือ มากสุด ไปจน
ท้ายสุด คือ น้อยสุด อย่างเช่น Biore UV Aqua Rich Series มี Water อยู่อันดับแรก ก็หมายความว่า
จะมีส่วนผสมของ Water มากที่สุดคะ เขาจะทำการเรียงจากมากที่สุด ไปจนถึง น้อยที่สุด
(เป็นมาตรฐานองค์การอนามัยโลกที่ระบุไว้นะคะ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยา เครื่องสำอางค์ จะต้องบอกส่วนผสมโดยเรียงจากส่วนผสมหลักไปจนถึงส่วนผสมรองคะ)
ส่วนผสมในครีมกันแดดสามารถแบ่งตามสารออกฤทธิ์ได้ดังนี้1. สารออกฤทธิ์กลุ่มสารเคมีที่ป้องกัน UVA ได้แก่ Oxybenzone, Sulisobenzone, Dioxybenzone, Avobenzone, Merxoryl sx
2. สารออกฤทธิ์กลุ่มสารเคมีที่ปัองกัน UVB ได้แก่ Aminobenzoic acid (PABA),
Homosalate, Cinoxate, Octyl methoxycinnamate, Octyl salicylate, Padimate O,
Phenylbenzimidazole sulfonic acid, Trolamine salicylate, Methyl anthralinate
3. สารออกฤทธิ์กลุ่ม Physical เป็นสารกันแดดที่สะท้อนแสงที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB ได้แก่ Titanium dioxide, Zinc Oxide
เม้าส์มอยกันแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนทดสอบประสิทธิภาพของครีมกันแดด เราก็ต้อง
ทดสอบว่ามันกันแดดได้จริงหรือป่าว งั้นมาดูอุปกรณ์ในวันแรกกันก่อนเลยคะ1. ครีมกันแดด / 2. เทปใส / 3. กรรไกร / 4. กระดาษ
พร้อมแล้วคะ ด้วย "มนต์แห่งวีนัส จงสำแดงฤทธิ์ทรา ณ บัดนี้"
อุ้ย !!! นึกว่าตัวเองเป็น เซเลอร์วีนัส
เริ่มทดสอบคะ เอาครีมกันแดดมาทาในช่องตรงกลางไว้ก่อนเลยนะคะ
แล้ว อั้มจะไปนั่งตกปลากับ "ผู้ชาย" อิอิ
จากตอนที่ทาครีมกันแดดแล้วออกไปนั่งตกปลา เวลา 10.35 น.
ถึงตอนนี้ 11.53 น. กระดาษโดนเหงื่อเริ่มเปื่อยแล้ว
และ ก็เริ่มคันตรงจุดที่กระดาษห่อไว้แล้วคะ
แกะกันเลยดีกว่าคะ
สรุปว่า :: ในส่วนที่โดนกระดาษบังไว้ มันขาวกว่าจุดอื่น ๆ เลยคะ
ส่วนตรงที่ทากันแดดนั้น ก็คล้ำลงกว่า ตรงที่โดนกระดาษปิดนิดหน่อย
แต่ไม่คล้ำเท่าตรงจุดอื่น ๆ แสดงว่า มีประสิทธิภาพในการกันแดด
จุดนี้ให้ << ผ่าน >>
ยังไม่หนำใจ กลัวการทดสอบคลาดเคลื่อน เดี๋ยววันนี้ลองทาก่อนออกไป ลั้นลาสักหน่อยดีกว่า
เห็นภาพเลยไหมคะ ทาซะเยอะเลยคะ 5555
ภาพ After ล้างออกไม่สะอาดนะคะ เพราะเอาที่เช็ดเครื่องสำอางค์เช็ดเอา
เลยเว้นช่วงกรอบดำ ๆ ไว้ เพราะอั้มใช้ Eyeliner เขียนคะ ถ้าโดนที่เช็ดเครื่องสำอางค์
กลัวมันจะลบเลือน เดี๋ยวภาพ Before After จะไม่ชัดเจน
สภาพสีแขนแตกต่างกันเนื่องจาก ภาพ Before ถ่ายในห้องน้ำ
ส่วนภาพ After ถ่ายกลางแจ้งคะ
เราทดสอบเรื่องประสิทธิภาพการกันแดดไปเรียบร้อยแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่อั้มเป็นกังวลไม่แพ้กัน
ก็เพราะอั้มเป็นคนหน้ามันมาก ถึงมากที่สุด ก็เลยต้องทำการทดสอบความมันกันซะหน่อย
เริ่มเลยดีกว่าเนอะ ::: อั้มใช้ซับมันแบบแผ่นฟิล์มนะคะ ภาพแรกนี่
เริ่มถ่ายหลังจาก เอาครีมกันแดดลงไปบนแผ่นซับมันเลยนะคะ
ภาพต่อมานี้ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีคะ เป็นไงคะ เห็นความแตกต่างเลยไหมคะ
เห็นแล้วถึงกับตกใจ กับครีมกันแดดที่แสนแพง ที่เราคิดว่ามันดีมาก
จนนาน ๆ ใช้ที แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ราคาเป็นกันเอง
แล้วทาทุกวันดูสิคะ อยากจะกรีดร้องเป็นเพลง ธรณีกันแสง
3 ชั่วโมงผ่านไป ไม่มีอะไรออกมาให้ซับมันดูดเลยหรอเนี่ย ยังงั้นก็ละเลงเนื้อครีมเลยและกัน
พลิกด้านหลังดูบ้างดีกว่า ด้านหน้าดูมาเยอะแล้วเนอะ
อร้าย อยากกรีดร้องอีกรอบ
ให้ดังไปไกลถึงประเทศ ฝรั่งเศส
เห็นถึงความแตกต่างอยากแรงเลยคะ
สถานที่ซื้อผลิตภัณฑ์ :: Watsons , Lotus , Boots และห้างสรรพสินค้าทั่วไปคะ
ปกติอั้มจะเช็คราคา ระหว่าง Lotus กับ Watsons คะ เพราะใกล้และสะดวกที่สุด
แต่อันนี้ได้มาฟรีคะ จาก Cosmenet จริง ๆ ของเก่าก็มีอยู่ แต่จะมารีวิวทั้งที
จัดของใหม่เลยดีกว่าเนอะ
ราคา :: วันที่ 30/11/12
247 บาท Boots
247 บาท Watsons
262 บาท Big C
สรุปการทดสอบความมัน :: อั้มให้ 10/10 เลยคะ เพราะมันไม่ทำให้หน้าอั้มมันเพิ่มขึ้น ทาแล้วซึมไว อีกด้วย แถมแต่งหน้าก็ง่ายขึ้น
คนหน้ามันอย่างอั้ม รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อใช้ Biore UV Aqua Rich ถึงแม้จะมีส่วนผสมของAlcohol
ก็ไม่ได้ทำให้หน้าอั้มรู้สึกแพ้หรือระคายเคืองอะไรทั้งสิ้น
บางคนพอได้ยินคำว่า alcohol ก็กลัว จะขอบอกว่า alcohol บางครั้งมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวเองนะคะ
ถ้ามีส่วนผสมของ alcohol แต่มันก็ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่ทำให้ฤทธิ์ของ alcohol ลดลง และ
อาจเป็นสิ่งดีสำหรับผิวหน้าก็เป็นได้คะ ส่วนกลิ่นหอมในครีมกันแดด Biore UV Aqua Rich
ก็ไม่ได้ทำให้อั้มแพ้หรือระคายเคืองอะไรทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าอั้มจะเป็นคนไม่ชอบน้ำหอมก็ตาม
PS ครีมกันแดด จะดีหรือไม่ดี อาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้า การทา
และ การดำเนินชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลด้วยคะ
จริง ๆ แล้วครีมกันแดด Biore มีหลายตัวนะคะ ถ้าเพื่อน ๆ อยากรู้ว่าตัวเองจะเหมาะกับตัวไหน
มาดูได้จากภาพด้านล่าง ได้เลยนะคะ
และมะเร็ง แม้อยู่ในที่ร่ม หรืออยู่ในออฟฟิต เราก็ควรทาครีมกันแดดนะคะ
ขนาดหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ หลอดไฟในบ้านก็มีรังสีที่ทำร้ายใบหน้าเราได้นะคะ ต้องทาให้เป็นนิสัยเลยนะคะ XoXo
ไปและนะคะ แล้วเจอกันใหม่กับ Review หน้าคะ
ขอขอบคุณทุก ๆ คนที่เข้ามารับชมกันนะคะ เพราะรีวิวนี้ยาวมาก ๆ ยาวจนคนเขียนยังมึน ๆ เองเลยคะ
ต้องขอบคุณจากใจจริง ๆ นะคะ
ก่อนจบ Review นี้ อั้มมี Tips ดี ๆ มาฝากอีกเช่นเคยคะ
ประโยชน์ของครีมกันแดด
ช่วยปกป้องการทำลายเซลล์ผิวหนัง จากรังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดด ซึ่งเป็นต้นเหตุของมะเร็งผิวหนัง
และยังทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง
ในคนเอเชียโอกาสที่จะเกิดมะเร็วผิวหนังมีไม่มากนัก ดังนั้นการใช้ครีมกันแดด
จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกัน การเกิดจุดด่างดำบนผิวหนังมากกว่า
ประเภทของครีมกันแดด
ครีมกันแดดมีทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้คือ
1. Chemical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำหน้าที่ปกป้องแสงแดด
โดยการดูดซับรังสีแสงแดดเข้าไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพ
นั่นคือสาเหตุที่เราจึงต้องทาครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีปริมาณมาก
อาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย
2. Physical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสาร ที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB
ออกไปจากผิวหนัง ซึ่งสารในกลุ่มนี้จะมีผลระคายเคืองต่อผิวหนัง น้อยกว่าสารในกลุ่มแรก
แต่มีข้อด้อยคือ ครีมกันแดดประเภทนี้ไม่สามารถให้ SPF ที่สูงๆ ได้
และเมื่อทาบนผิวหนังแล้ว หน้าจะดูขาวมาก เนื่องจากสารจะเคลือบบนผิวหนังชั้นบน
เพื่อรอแสงกระทบ จึงมีการดูดซึมสู่ผิวน้อย
3. แบบผสม Chemical-Physical Sunscreen เป็นการเสริมข้อดี ลดข้อด้อยในแต่ละส่วน
นั่นคือ ลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง จากสารประเภทสารเคมี และลดความขาวเมื่อทาครีม
และเสริมประสิทธิภาพ ในการป้องกันแสงแดดร่วมกัน
วิธีเลือกใช้ครีมกันแดด
สำหรับคนเอเชีย เช่น คนไทย ซึ่งไม่นิยมผิวคล้ำ และการอาบแดด การป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่ดีที่สุดคือ
การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ในช่วงเวลา 9.00-15.00 น., สวมเสื้อผ้าปกคลุมมิดชิด, แว่นกันแดด, หมวกปีกกว้าง,
หรือกางร่มเสมอ แต่ในกรณีที่ทำงาน หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง, เด็ก หรือการท่องเที่ยวทางน้ำ มีความจำเป็นต้องใช้ยากันแดด ควรเลือกดังนี้
1. ที่มีค่า SPF สูงกว่า 15
2. มีสารเคมีที่กัน UVA ได้ดีอย่างน้อย 2 ชนิด เช่น Oxybenzone TiO2 หรือ Parsol 1789 ZnO เป็นต้น
3. กันน้ำได้ ( water resistance, หรือ water proof)
4. มีการทดลองว่า ไม่สลายจากแสง (photo stable)
ควรทายากันแดดให้หนาเพียงพอ 15 นาที ก่อนอยู่กลางแดด และอาจทาซ้ำทุก 15 นาที
หลังจากทาครั้งแรก หรือทุก 1-2 ชม. ถ้าว่ายน้ำ หรืออยู่กลางแดดจัด เนื่องจากการทายากันแดดซ้ำ
จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการกันแดด ได้อีก 2-3 เท่า เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ มักทายากันแดดในปริมาณน้อยกว่าที่ควร
สำหรับการใช้ยากันแดด ประจำวัน ในผู้ที่ทำงานในร่ม และใช้เวลานอกอาคาร หรือรถยนต์ เฉพาะช่วงเช้า ก่อน 9 นาฬิกา
และหลังจาก 15 นาฬิกา อาจไม่มีความจำเป็น เนื่องจากแสง UVB, UVA สามารถผ่านกระจกรถ ที่ติดฟิล์มกรองแสง ได้น้อยกว่า 5%
และแสง UV ในช่วงเวลาเช้าตรู่ และเย็น มีปริมาณน้อย
วิธีทดสอบการแพ้ครีมกันแดด
ให้ทาครีมกันแดดบริเวณใต้ท้องแขนทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วสังเกตว่ามีอาการบวม แดงหรือไม่
ถ้าปรากฏอาการดังกล่าวแสดงว่าแพ้สารเคมีชนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตามคนบางประเภท (delay sensitivity)
จะใช้เวลานานกว่าจะปรากฏอาการแพ้ ดังนั้นจึงควรรอดูอาการถึง 24 ชั่วโมง หรือ 72 ชั่วโมง จึงจะสรุปได้ว่าไม่มีอาการแพ้จริงๆ
ครีมกันแดดที่กันน้ำได้ เลือกที่มีส่วนผสมของ Silicone หรือระบุในฉลากว่ากันน้ำได้
มีวิธีการทดสอบด้วยตนเองโดยทาครีมให้ทั่วแขนแล้วจุ่มแขนลงน้ำแล้วยกแขนขึ้นมา น้ำจะไหลลงจากแขนไปหมด
โดยไม่มีน้ำเกาะติดกับผิวเหมือนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด
ที่มา http://guru.sanook.com
************************************************
ถ้าอ่านข้อมูลนี้แล้วมีประโยชน์ เม้น ให้กำลังใจเขาบ้างนะคะ
ติดตามอั้ม พบปะแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้นะคะ ยินดีให้บริการคะ
************************************************
อย่าลืมเข้ามา "like Fanpage" เขาด้วยนะจ้ะ
Facebook / AumbellezZa
Tweet |
ขอบคุนค่าา
รีวิวน่ารักมาก เห็นรีวิวแล้วอยากไปลองสอยมา ^^~
ขอบคุณคะ คุณ Pround_lol
รีวิวยาวมาก แต่ดีใจที่มีคนเข้ามาเยี่ยมชม
รีวิวสุดยอดมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับความรู้ดีๆ :D
เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ
อยากทราบอะคะคือตอนนี้อะใช้อยู่จะหมดหลอดแรกแล้ว แล้วทีนี่ไปซื้ออีกหลอดมารอเลยปรากฎว่าพอบีบเนื้อมูสมาแล้วทำไมเป็นสีเหลืองไม่เหมือนหลอดแรกที่ใช้ปกติคือสีขาว ตอนนั้นก็เลยคิดว่ามันเสีย ก็เลยไปซื้ออีกหลอดมาปรากฎว่าเป็นสีเหลืองอีกเหมือนกัน คืออยากทราบว่าถ้าเป็นแบบนี้คือมันเสียจริงๆต้องทำไงคะ หรือว่ามันเป็นแค่ช่วงแรกๆของหลอดคะ
นี่คะ ด้านขวาจะออกเหลือง (อาจมองไม่ชัดนะคะ) ด้านซ้ายเนื้อสีขาวปกติเลยคะ ดมๆกลิ่นดูกลิ่นแตกต่างกันด้วยนะคะ เป็นทั้งหลอดที่2และ3เลยคะ