ซึ่งเป็นคลีนซิ่งแบบน้ำที่เราใช้มาได้ซักพักแล้ว และปลื้มปริ่มมากๆๆ เพราะไม่แพงแต่คุณภาพดี
ไม่เพ้แบรนด์อื่นๆที่ราคาสูงกว่าเลยทีเดียว
แถมเป็นคลีนซิ่งที่ได้รางวัลชนะเลิศ จาก Cleo Beauty Hall Of Frame มาด้วยนะ
จะรอช้าอยู่ไย มาชมกันเลยค่า
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
อยู่ที่นวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า A.P.S. Complex หรือ Anti Pollution System
ทำความสะอาดเครื่องสำอาง ครีมกันแดด และสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด
สารบำรุงหลัก
A.P.S. Complea เป็นสารสกัดจากพืชและสาหร่ายทะเลน้ำลึก ช่วยจับเมคอัพ และบำรุงผิวที่ถูกทำลายจากมลภาวะ ให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย
Hyaluronic Acid ช่วยเติมเต็ม ลดริ้วรอยร่องลึกจากผิวหนังสู่ภายนอก ให้ผิวชุ่มชื้นอ่อนโยน
Vitamin E สารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว เพิ่มความยืดหยุ่นและชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิว พร้อมปกป้องผิวจากรังสี UVA
เป็นสูตร Oil Free ปราศจากน้ำหอม สี และแอลกอฮอล์
ผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าอ่อนโยนต่อผิว
ไม่จำเป็นต้องล้างน้ำซ้ำ
แพ็คเกจที่เรานำมารีวิวเป็นขนาดทดลองค่ะ ขวดกะทัดรัด เหมาะแก่การพกพา
ขนาด 50 ml ราคา 95 บาท
ขวดใหญ่ที่เป็นหัวปั๊ม
ขนาด 200 ml ราคา 350 บาท
หาซื้อได้ที่ Watsons / ร้าน Pure / เซเว่น / ซุเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และร้านขายยาทั่วไป
เนื้อผลิตภัณฑ์
เป็นน้ำใสๆคล้ายน้ำเปล่า ไม่มีสี แต่มีกลิ่นเล็กน้อย ซึ่งคงเป็นกลิ่นจากส่วนผสมของเขานั่นแหละ
เราว่ามันไม่เหม็น แต่ก็ไม่ถึงกับหอมนะ
มาทดลองใช้จริงกันเลย!
วันนี้แต่งหน้ากลางๆ เริ่มด้วยด้วย ccครีม คอนซีลเลอร์ เขียนคิ้วแบบฝุ่น
ที่ตาลงอายชาโดว์ อายไลเนอร์แบบฟิล์ม และมาสค่าร่ากันน้ำ
ลงไฮไลท์ดั้ง-หัวคิ้ว และเฉดดิ้งสันจมูก ปัดแก้มเล็กน้อย และจบด้วยปากสีแจ่มๆค่ะ
หยดคลีนซิ่งลงบนสำลีให้พอชุ่ม
(เน้นว่าต้องชุ่มนิดนึงนะคะ เพื่อประสิทธิภาพที่ดี และสำลีจะได้ไม่เสียดสีกับผิวมากเกินไปด้วย)
โดยเราจะเริ่มเช็ดตาก่อน โปะสำลีบนเมคอัพทิ้งไว้ 1-2 นาที คลึงเบาๆ แล้วค่อยๆรูดลงตามแนวขนตา
ตามภาพค่ะ
ส่วนผิวหน้า เราจะเช็ดออกตามแนวรูขุมขน โดยเริ่มเช็ดจากด้านในไปด้านนอกตามลูกศร
ส่วนปากเราจะโปะไว้ก่อนซักพัก (เหมือนตอนเช็ดตา) และค่อยๆเช็ดออก
อย่าลืมใช้สำลีทั้งสองด้านด้วยนะ เพื่อความประหยัด ^^
เช็ดไปเรื่อยๆจนสำลีขาว แสดงว่าไม่มีเมคอัพเหลืออยู่แล้วค่ะ
เปรียบเทียบความแตกต่างอีกที หลังจากที่เช็ดจนเครื่องสำอางออกจนหมดแล้ว
จะเห็นได้ว่าเช็ดออกไปได้อย่างเกลี้ยงเกลา ซะจนความผุพังอย่างชัดเจน จ๊ากๆๆ
ใครสยองต้องขออภัยด้วยนะคร้าาา =_=
สรุปผลลัพธ์กันดีกว่า
ประสิทธิภาพในการทำความสะอาด :
ทำความสะอาดเมคอัพสีอ่อนๆหรือพวกรองพื้นได้เกลี้ยงมาก เราใช้สำลีเพียงสองแผ่น
ก็เช็ดได้สะอาดหมดแล้ว แต่ถ้าเมคอัพหนักๆ เช่นมาสคาร่ากันน้ำ หรือลิปสีสดๆ
อาจต้องเช็ดย้ำหน่อยค่ะ ถ้ากลัวเปลือง ในการเช็ดครั้งที่สองก็ใช้คอตตอนบัด
เช็ดแทนก็ได้ จะได้ใช้น้ำยาน้อยลง
ใครที่แต่งหน้าแน่นมากๆ เช่นแสดงโชว์ ไปออกงาน ถามว่าล้างด้วยตัวนี้อย่างเดียวได้มั้ย?
เราว่าก็พอได้นะแต่ต้องใช้เยอะ ฉะนั้นใช้ออยล์อาจจะสะดวกกว่า
แต่ถ้าแต่งหน้าเล็กน้อยถึงปานกลางอย่างในชีวิตประจำวัน ตัวนี้ตัวเดียวสบายเลยค่ะ
ความชุ่มชื้น :
ส่วนตัวไม่รู้สึกชุ่มชื้นมากมาย แต่ก็ชอบตรงที่หน้าไม่แห้ง แถมไม่ทิ้งคราบเหนอะหนะ จึงให้ผ่าน
เพราะเราเคยเจอยี่ห้ออื่นที่เช็ดแล้วหน้ามันๆเหนียวๆ ทำให้รำคาญผิว ไม่ชอบอย่างแรงค่ะ
ความอ่อนโยน :
เรื่องความอ่อนโยนต่อผิว เขาการันตีด้วยสูตรอยู่แล้ว ว่าเป็นสูตร
"oil-free ปราศจากสี กลิ่น และแอลกอฮอล์"
จึงน่าจะใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย ส่วนตัวใช้มาได้ซักระยะแล้วก็ยังไม่แพ้ หรือก่อให้เกิดสิว
แต่ถ้าใช้กับดวงตาอาจต้องระวังนิดหน่อย เพราะเข้าตาแล้วจะแสบค่ะ
ส่วนเรื่องที่แบรนด์เคลมว่า"ไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ" ตอนแรกบอกเลยว่าไม่กล้า เป็นคนหน้ามันมาก
กลัวสิวขึ้น พอจะทำรีวิวเลยลองค่ะ ผลปรากฏว่า เออ!! ไม่เป็นไรแฮะ
ลองมาแล้วสองรอบ สิวไม่ขึ้นซักรอบ ซึ่งไม่น่าเชื่อ
เพราะปกติหน้าเราถ้าล้างไม่ดีนิดเดียว สิวก็จะขึ้นง่ายมากๆๆ
แต่จุดนี้เราว่าเอาตามความสบายใจดีกว่าเนอะ หลายคนคงชอบล้างหน้าซ้ำมากกว่า อิอิ
สรุปจากที่พูดมาทั้งหมด ให้คะแนน 9/10 ค่ะ หักนิดนึงตรงที่ เวลาล้างเมคอัพหนักๆจะต้องใช้เปลืองไปหน่อยส่วนเรื่องอื่นๆชอบหมดเลยค่า ทั้งคุณภาพและราคาอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว ^^
รีวิวจบแล้วค่า สุดท้ายขอย้ำว่าสภาพผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์ก็อาจแตกต่างกันไป
ดูรีวิวแค่เป็นไกด์ไลน์ ถ้าสนใจอาจซื้อขนาดทดลอง มาใช้ดูก่อนก็ได้จ้า
ขอบคุณสำหรับการรับชม หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างน้าาา
"ร้อนๆอย่างนี้อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดกันนะคะทุกคน"
Bye Bye ヽ(*≧ω≦)ﾉ
| Tweet |