งานหน้าเงาแบบสาวเกาหลีกับ Laneige BB Cushion SPF50+ PA+++
Room : Tell Us
เพชรไพลิน | ผิวแห้ง | 45-49 Yrs | 54 รีวิว 19/06/2014 10:18     

เกริ่นก่อนว่าก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาหลีเห็นสาวๆที่นั่นหน้าขาวแบบเงาวาวๆเทรนการแต่งหน้าเราเลยเปลี่ยนไปจากที่นิยมแป้งเนื้อแมทเริ่มหันมามองแป้งแบบ Cushion  แป้ง BB Cushion จะเป็นเนื้อน้ำ BB บรรจุอยู่ในรูปแบบฟองน้ำที่อมน้ำไว้จนฉุ่มเวลาใช้ก็แค่เอาพัฟกดลงไปในฟองน้ำ BB จะติดขึ้นมาเราก็กดๆลงไปกับผิวหน้า *(ขอย้ำว่ากดๆ ตบๆนะคะ ห้ามถูโดยเด็ดขาดเคยลองแล้ว งานคราบมาเต็ม เกลี่ยกันไม่ไหวเลยทีเดียว)ก็ตบๆไปจนทั่วหน้า แค่นี้ก็งามเด้งแล้วค่ะที่เกาหลีไม่ว่าจะเป็นครีมหรือรองพื้นพนักงานขายทดลองทาให้เราเสร็จก็จะตบหน้าเราทุกคนค่ะ


หลังจากทา BB Cushion ครั้งแรกเกิดอาการนอยเพราะปรกติเราทาแป้งเนื้อแมทแต่คราวนี้หน้าเรามันเงาเหมือนคนไม่ได้ทาแป้งเลยแอบกังวลนิดหน่อยเพราะที่เกาหลีเน้นว่าตบแป้งBB Cushion แล้วไม่จำเป็นต้องทาแป้งทับแต่พอออกไปข้างนอกเพื่อนๆทักว่าไม่แต่งหน้าแบบนี้ดูเด็กขึ้นตั้งเยอะ ปลื้มเลย(แต่งตั้งนาน!)




และเมื่อวันก่อนมีโอกาสได้ลอง LaneigeBB Cushion SPF 50 PA+++ (ตอนเกาหลีเราใช้ของ Hera) ตัวนี้ทางLaneige ส่งรุ่นตลับขาวมาให้ เราก็เลยหาข้อมูลเพิ่มและตรงไปที่shop ปรากฎว่าจริงๆตัวนี้ทำออกมา 2รุ่น คือรุ่นที่ทาง Laneige ส่งมาให้เราตลับสีขาวสำหรับคนผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง และตลับสีฟ้าเป็นสูตร Laneige BBCushion Pore Control SPF 50 PA+++ เหมาะกับผิว จขกท.คือมันและรูขุมขนกว้าง สำหรับเราใช้เป็นเบอร์ 21 (สีนี้มันเกิดมาเพื่อฉัน)คือคนที่เคยขาวแต่ผ่านการตากแดดมานาน 30 กว่าปี จนกลายเป็นคนผิวสองสี  ขอข้ามมาที่เรื่องสีนิดนึงนะคะ  เราว่า BB Cushion ที่ออกมาตอนนี้เกือบทุกยี่ห้อไม่ว่าจะเป็นLaneige Hera IOPE หรือ Sulwhasoo สีจะยังไม่เหมาะกับคนที่ผิวคล้ำมากๆ(แต่อนาคตอาจจะทำออกมาเพื่อตีตลาดมากขึ้น) มาว่ากันต่อนะคะ 


มาดูของกันนะคะพอเปิดกล่องออกมาจะเจอตลับจริงวางคู่กับรีฟิลให้ 1ชิ้น พอเปิดตลับออกมาจะเจอพัฟ (ตัวพัฟนี้ด้านฟองน้ำจะเป็นสีน้ำเงิน(เท่าที่เจอเป็นสีน้ำเงินเกือบทุกยี่ห้อ) พัฟรุ่นนี้ดีมากเลย ชอบมาก)คือฟองน้ำมันจะไม่อมเนื้อ BB กดมาได้เท่าไหร่ก็ใช้งานจริงเท่านั้นพอตบๆหน้าแล้วจะติดผิวเลย พอเปิดฝาที่วางพัฟขึ้นจะเจอกระดาษซีลปิดไว้เพื่อบอกว่าของใหม่นะจ๊ะ เราก็ดึงกระดาษมันออกมาเลย  แท่น แทน แท๊น.........เจอละคะ ฟองน้ำเก็บ BBลองดมซะหน่อย กลิ่นหอมอ่อนๆใช้ได้ พอทดลองแตะเนื้อน้ำเงาวาวดีค่ะแต่สูตรตลับฟ้า Pore Control ความเงาจะสู้สูตรธรรมดาไม่ได้นะคะจะดูแมทกว่านิดหน่อย พอลองทากับหน้าเรียบเนียนดีค่ะ ให้ลุคตามคำโปรย คือเงาฉ่ำ แลดูใสๆถ้าเทียบความฉ่ำกับแบรนด์อื่น Laneige เนี่ยนฉ่ำดีค่ะ

หลังการทดลองใช้มาจนถึงเที่ยงวัน คนผิวมันแบบจขกท. ก็ยังไม่ต้องเติมแป้งแต่อย่างใด แต่พอบ่ายคล้อยก่อนเลิกงาน (น่าจะสัก 3-4โมงเย็น) แอบใช้กระดาษซับมันไป 1 แผ่นแต่เนื่องจากลุคนี้ดูหน้าฉ่ำวาวเวลามันนิดมันหน่อยดูไม่ค่อยออกหรอกค่ะพอเอามือไปแตะๆเพิ่งถึงบางอ้อ อ้าวน้ำมันนี่หว่า แต่บอกก่อนว่า BB Cushion การปกกิดจะไม่มากเท่าไหร่คนผิวดีนี่เหมาะควรค่ามาก แต่คนที่มีปัญหาผิวแนะนำว่าให้ใช้เบสปรับสภาพผิวก่อนแล้วค่อยลงตัวนี้ทับอีกทีจะดีกว่าส่วนตัวเราลองมา 3 แบรนด์ การปกปิดพอๆกันค่ะ (มี Hera สูตรC จะปิดได้มากหน่อยแต่ความหนาก็มากกว่าเป็นเงาตามตัวดูไม่ค่อยธรรมชาติ) 

รูปด้านบนเป็น Laneige No.21สีที่เหมาะกับ จขกท. มาก ทาแล้วเนียนเข้ามาก 1.จะเป็นผิวเรา2.จะเป็นตอนเพิ่งลง BB  3.เมื่อเกลี่ยเรียบร้อย(สังเกตุว่าจะเนียนมาก แต่เงากว่าตำแหน่งที่ 1


คำโฆษณาของตัวนี้ 6 in 1  คือ 1.ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น (อันนี้ผ่านค่ะเป็นตามนั้น)  2. สดชื่นสบายผิวลดอุณภูมิผิวลง4C  (อันนี้ส่วนตัวยังไม่รู้สึกว่าเย็นลงแต่ตอนลง BB จะเย็นๆนิดหน่อย)  3. SPF50+PA+++  (อันนี้ไม่รู้จริงไหมแต่ก็ปลื้มอยู่เพราะแดดบ้านเรา สาวๆน่าจะเข้าใจ) 4. ปราศจากคราบเหงื่อ 12ชม. (ส่วนตัวเราอยู่แต่ห้องแอร์ ให้ผลตามนั้น แต่ถ้าเดิน JJ 12ชม.อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ)  5. สีผิวดูสวยเนียนสม่ำเสมอ(อันนี้ตรงหน้าผาก จขกท. ให้ผลตามนั้นค่ะ แต่ตรงร่องรอยอารยธรรม อันนี้ให้ 7/10)  6. มอบความชุ่มชื่นยาวนานตลอดวัน(อันนี้จริงตามอ้าง เพราะชุ่มกว่านี้แมลงวันเกาะไม่อยู่แล้วค่ะ)


รูปด้านบนเป็นวันที่เราแต่งหน้าเบาๆไปก้มหน้าก้มตาทำงานนะคะ รูปแรกลงครีมบำรุงเสร็จกระโดดขึ้นรถเลย No make upรูปที่ 2 แค่ลง Laneige ระหว่างรถติดรูปที่ 3 ถึงลานจอดพอดี (ระหว่างทางมีเติม Lip Tintกับปัดมาสคาร่า และคิ้ว) รูปสุดท้ายกระแดะอยู่ที่โต๊ะทำงานแล้วค่ะสังเกตุที่คางเรารอยสิวยังคงเห็นอยู่นะคะ แต่ที่หน้าผากผิวเราไม่มีปัญหาใดๆดูเรียบงามอยู่ 


มาดูในเรื่องของราคากัน ราคาเคาน์เตอร์อยู่ที่ 1,500แพงนะ แต่!!! เดี๋ยวก่อน 1,500 บาทกับขนาด 15 กรัม แต่มีรีฟิลให้อีก 15 กรัม(แอบถามราคาว่าหมดซื้อเฉพาะตัวรีฟิลขาย 700 บาท)บางช่วงมีลด 15% คำนวณดูแล้วก็ไม่แพงนะคะ เคยซื้อ Hera ที่เกาหลีก็ราคาประมาณ1,200-1,300 (แต่ศักดิ์ศรี Hera สูงกว่า)แต่คุณภาพเราว่าใช้แทนกันได้ ไม่น่าเกลียด จบละคะรีวิวแรกในชีวิตเราเลย ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ






Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -