น้ำตาเทียมแบบขวดยาหยอดตาแตกต่างกันกับแบบหลอดกระเปาะอย่างไรนั้น
1. แบบขวดยาหยอดตานั้น จะมีสารกันเสีย ในขณะที่แบบหลอดไม่มีสารกันเสียผสม (สำหรับบางคนมีโอกาสที่ใช้แล้วทำให้เคืองตาได้)
2. ปริมาณมากกว่า สามารถใช้ได้หลายครั้ง
3. อายุการใช้งานหลังเปิดขวด 1 เดือนเท่านั้น
4. เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งเล็กน้อย
5. สะดวกสำหรับผู้ที่ใช้เป็นประจำ
และจากประสบการณ์ที่เคยใช้แบบขวดมานั้น ขอพูดแค่ 3 แบรนด์ที่เพิ่งใช้ไม่นานนี้นะคะ
♡♡♡ The Best eye drops สำหรับเรา ขอยกให้Alcon systane ultra lubricant eye drops ค่ะ ♡♡♡
เป็นน้ำตาเทียมที่ดีให้ความชุ่มชื้นได้ดีสุดเท่าที่เคยใช้ๆมา
รู้สึกอ่อนโยน เวลาที่เคืองตามากๆ ตัวนี้เวลาหยอดไปแล้ว จะไม่แสบตาหรือเจ็บตาเลยค่ะ
สำหรับน้ำตาเทียมแบบยอดนิยมจากญี่ปุ่น
Rohto lycee eyedrop
ทั่วๆไป จะมี 2 รุ่นคือ รุ่นธรรมดา กับรุ่นสำหรับคอนเทคเลนส์ (ตัวทางซ้ายที่เอามารีวิวค่ะ) ใครอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกไม่เป็นไรค่ะ เวลาไปซื้อ สังเกตจากกล่องได้ กล่องที่มีรูปคอนเทคเลนส์ ก็คือรุ่นสำหรับคอนเทคเลนส์ ถ้าเป็นรุ่นธรรมดาจะไม่มีค่ะ
ระดับความเย็น สามารถดูได้จากตัวเลขมุมล่างซ้ายค่ะ (ในรูปจะเป็นเย็นระดับ 3 เย็นธรรมดาค่ะ)
ตอนไปที่ญี่ปุ่น Rohto lycee eyedrop มีวางขายเยอะมากค่ะ ราคาไม่กี่ร้อยเยน คนไทยชอบซื้อกันมาก
ตัวขวดข้างในน่ารักดี สดใสดีค่ะ เสียดายไม่มีรูป เพราะเราทำหายไปซะแล้ว
Rohto ตัวนี้ไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นเท่าไรเลยค่ะ เหมือนช่วยทำให้เลนส์ใสขึ้นมากกว่า
ข้อเสียทีเจอคือ ตอนที่ตาแห้งเคืองมากๆ ใช้ตัวนี้แล้ว(บางทีนะคะ)รู้สึกแสบตาเล็กๆ
Renu eyedropตัวทางขวานั้น
เป็นตัวที่ใช้แล้วแสบตาที่สุดเท่าที่เคยใช้มา
ตัวนี้บอกเลยว่าไม่เหมาะกับคนตาแห้ง เคืองตา เป็นภูมิแพ้ขึ้นตา และคนที่ใส่คอนเทคเลนส์มานาน
จากที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นความคิดเห็นจากประสบการณ์ที่ใช้มานะคะ บางคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องตาก็อาจจะไม่รู้สึกแบบเราก็ได้
สุดท้ายนี้ก็ขอฝากกันสักนิด
การใช้น้ำตาเทียมพวกนี้ ถ้าครบกำหนดอายุการใช้งาน (นับจากวันเปิดใช้) ควรทิ้งนะคะ เหลือเยอะก็ทิ้งดีกว่า และระหว่างใช้งาน ระวังเรื่องความสะอาด อย่าให้ปลายหลอดน้ำตาเทียมเลอะ หรือไปแตะโดนนะคะ อาจจะปนเปื้อนแล้วพอเราเอามาใช้เดี๋ยวจะมีปัญหา
กระทู้เล็กๆน้อยๆนี้ ไม่ได้รีวิวอะไรมากแต่ก็หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ