อยากตัวหอม เร่เข้ามา!! เปิดกรุ ครีมทาผิวหอมๆ ใช้แล้วตัวหอมจนแฟนทั

เฮลโหลสาวๆทุ๊กค้นน

 เราเชื่อว่าสาวๆในนี้ทุกคนต้องมีโลชั่นทาตัวคู่ใจกันอยู่แล้วแต่ๆๆๆวันนี้เราจะขอมารีวิวโลชั่นทาผิว ที่ทาแล้วฟันธงว่าทำให้ตัวหอมมากๆๆๆ  หรือที่บางคนเรียกว่าโลชั่นน้ำหอม ในคลังแสงของเราทั้งหมดให้ได้ชมกัน  จากการลองผิดลองถูกมาเยอะ หมดไปก็หลายบาทแล้วขอเอามารีวิวเป็นข้อมูลเผื่อเพื่อนๆคนไหนกำลังมองหาโลชั่นน้ำหอมกันอยู่นะจ๊ะ

 ผู้ร่วมทดลองครั้งนี้เหรอ คือคุณแฟนของเรานั่นเองเราจะเปลี่ยนกลิ่นที่ใช้ไปเรื่อยๆ ทุกวันตามอารณณ์ (เป็นคนบ้าโลชั่นมาก เฮ่อๆๆ)วันไหนใช้แล้วแฟนทักว่าหอม คือดีย์ 555 ออกตัวก่อนเลยว่าเราจะไม่ค่อยได้ใช้น้ำหอมนะจ๊ะส่วนมากจะใช้แค่โลชั่นอย่างเดียว แบบอยากให้กลิ่นมันหอมอ่อนๆทั่วๆตัวไม่ใช่หอมเป็นจุดๆเช่นตามข้อพับ หรือจุดที่สาวๆเราพรมน้ำหอมกันอีกอย่างคือเราแพ้น้ำหอมด้วย อย่างเวลาฉีดที่ต้นคอ หลังใบหูหรือข้อพับนี่มันจะคันๆเป็นผื่นแดงๆเวลาเหงื่อออก ก็เลยเลือกที่จะใช้โลชั่นแทน(เข้าใจว่ามันคงจะอ่อนโยนกว่า เพราะทาแล้วไม่คัน...) และนี่คือ โฉมหน้าของโลชั่นน้ำหอมที่เราใช้อยู่จ้า

1. Victoria’s Secret : BOMBSHELL  (1,390 บาท)  

ขึ้นชื่อเรื่องความเซ็กซี่ต้องยกให้เจ้าแม่วิคตอเรีย ซึ่ง BOMBSHELL เป็นโลชั่นน้ำหอมกลิ่นที่ขายดีที่สุด(พนักงานเค้าว่างั้นนะ)กลิ่นหอมเซ็กซี่แต่ก็มีความหวานเจือปน ด้วยกลิ่นของแพชชั่นฟรุต ส้ม กล้วยไม้และดอกไม้ป่านานาพรรณ ทาแล้วรู้สึกเหมือนเป็นนางฟ้าบนรันเวย์ ยังไงยังงั้น(มีจินตนาการสูงส่งค่ะ) กลิ่นหอมรุนแรงช่วง 1-2 ชั่วโมงแรกที่ทาเดินผ่านที่ไหนจะมีแต่คนทักเยอะว่าหอมจัง แต่หลังจากนั้นกลิ่นจะค่อยๆจางไปค่ะบ่ายๆก็หมดละ

2. Bath & Body Works : Mad AboutYou (690บาท)

แบรนด์นี้ดังมากๆๆๆในอเมริกา และเข้าไทยมาซักพักแล้ว กลิ่นMadAbout You ถือว่าเป็น Signature ของ Bath and Body Works เลยก็ว่าได้ กลิ่นออกเเนว ผลไม้ มะม่วงๆ ผสมดอกได้ หอมๆหวานๆมีความเป็นสาวหวานเเรกเเย้มสุดๆ มีทั้งเเบบโลชั่น(แบบขวดเหมือนในรูปที่เเนบ) กับเเบบBodyButter (แบบหลอด)ที่เหมาะคนผิวเเห้งมากๆๆ  เพราะทาเเล้วจะค่อนข้างเหนอะๆนิดๆเหมาะกับการทาก่อนนอนในห้องเเอร์เป็นประจำ

3. Malissa Kiss : Lost in PARADISE (BodyMist 199 บาท, โลชั่น289 บาท)

แบรนด์น้องใหม่ของไทยเรานี่เอง ไปเจอในร้านวัตสันค่ะมีทั้งโลชั่นเเละบอดี้มิสต์ที่เป็นกลิ่นคู่กัน เค้ามีหลายกลิ่นนะเเต่เราชอบกลิ่นนี้มากๆ  กลิ่นหอมเเบบผู้ใหญ่ๆหน่อยคือไม่ออกหวานมาก เเต่หอมเเบบเซะซี่ๆ เย้ายวนๆหน่อยๆ กลิ่นติดผิวค่อนข้างดีค่ะ

ทาโลชั่นตอนเช้าๆไปทำงานน้องที่ทำงานทักเลยว่าใช้น้ำหอมอะไร กลิ่นหอมดีจัง ^^ 

ที่สำคัญคือ ราคาย่อมเยาว์เป็นมิตรมากๆ ทาได้ทั้งตัวไม่ต้องกลัวเปลือง บีบออกมานิดเดียวทาได้ทั้งเเขนเพราะเนื้อโลชั่นเค้าเกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ

ส่วนBody Mist เราจะพกมาไว้ฉีดช่วงเที่ยงๆ หลังออกไปทานข้าวเเล้วเเบบเหงื่อออก ตัวเหนียว ฉีดเเล้วมันหอมสดชื่น กลิ่นไม่ตีกันเพราะเป็นกลิ่นเดียวกับโลชั่นที่ทาตอนเช้า 

4. Givency : Very Irresistible 

อันนี้เป็นโลชั่น กลิ่นเดียวกับน้ำหอม Very Irresistible ขวดสีชมพูยาวๆคือเค้าขายเป็นเซ็ทคู่กัน ที่DutyFree ตอนไปเที่ยวฝรั่งเศส

กลิ่นหอมติดผิวขั้นสุด หอมยาวนานไม่อาบน้ำกลิ่นไม่หลุดกันเลยทีเดียว ประมาณว่าทาเเล้วใส่เสื้อคลุมเสื้อคลุมยังหอมไปด้วย เเทบไม่ต้องพรมน้ำหอมกันเลย

เเต่ข้อเสียคือ.... มันไม่มีขายเดี่ยวๆ ไม่มีขายทั่วไปเพราะเป็น Limited Set อยากได้อีกเเต่หาซื้อไม่ได้อีกเลย.. แง่ว >_<

(ใช้โลชั่นจนหมดหลอดส่วนน้ำหอมยังเหลืออยู่ตรึม...เพราะไม่ค่อยได้ใช้เลย)

5. Lancome : Miracle 

อันนี้เป็นโลชั่น กลิ่นเดียวกับน้ำหอม Miracleค่ะ ขายเป็นเซ็ทคู่กันเซ็ทนี้จะหาซื้อได้ง่ายหน่อย ที่KingPower มีให้เห็นบ่อยๆ ไม่ต้องบินไปซื้อกันไกลๆถึงต่างประเทศ

กลิ่นหอมติดผิวในระดับนึง ควรทาเเต่น้อยๆ เพราะกลิ่น Miracle นั้นเราคิดว่ามันจัดว่าค่อนข้างฉุน(เเต่ก็อาจจะเเล้วเเต่คนชอบอ่านะคะ)

ก็เป็นอีกทางเลือกนึงเวลาอยากให้ตัวหอมเเบบรวดเร็ว(เเต่ไม่กล้าทาเยอะค่ะ แอบเเพง...)

6. DAVIDOFF : Cool Water

อันนี้เป็นโลชั่น กลิ่นเดียวกับน้ำหอม Davidoff Cool Water 

กลิ่นหอมเย็นๆ ออกเเนวสปอร์ตเกิร์ล กลิ่นหอมเเบบอ่อนๆ เนื้อบางเบามากๆๆกลิ่นไม่ค่อยติดผิวมากนัก หลอดนี้เราได้มาฟรี เพราะเพื่อนให้มา อิอิ

7. DKNY : BE DELICIOUS สีชมพู

อันนี้เป็นโลชั่น กลิ่นเดียวกับน้ำหอม BE DELICIOUS สีชมพู

หาซื้อได้ง่ายค่ะ ตามร้านขายน้ำหอม มักเอามาขายเเยก ที่King Powerก็ มีให้เห็นบ่อยๆ

กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกเเนวฟรุตตี้ๆ เหมาะกับวันเบาๆที่ต้องการความรีเเล็กซ์ เพราะกลิ่นนี้ทำให้รู้สึกสดชื่นมากๆค่ะ

อาจจะไม่ค่อยติดผิวมากนัก เเต่ให้ความสดชื่นหลังทาดีค่ะ

โลชั่นแบรนด์ไทย อันเก่าเเก่ของเรานี่เอง

มีขายครบเซ็ททั้งShower Gel / โลชั่น /บอร์ดีมิสต์ / แป้งหอม ราคาย่อมเยาว์ เราใช้ตั้งเเต่สมัยเรียนจบใหม่ๆ(อย่าถามนะว่าจบมากี่ปีเเล้ว ขี้เกียจนับ ฮ่าๆๆ)

กลิ่นเเอปเปื้ลเขียว หอมสดชื่นมากหลังทาเสร็จคือโลกทั้งใบคือสวนเเอปเปิ้ล

เเต่ข้อเสียคือกลิ่นไม่ค่อยติดผิวมาก(คือเมื่อก่อนเราก็ว่ามันหอมนานในระดับนึง เเต่ระยะหลังๆแบรนด์อื่นทำออกมาได้หอมนานกว่า) ข้อเสียอีกอย่างคือ ต้องหาซื้อในShopของ OrientalPrincess เท่านั้น ซึ่งเหมือนจำนวนShopเค้าลดลง หาซื้อได้ยากขึ้น

9. Johnson and Johnson : Rice MilkBody Lotion (169 บาท)

โลชั่นแบรนด์อินเตอร์ ที่ใครๆก็รู้จัก มีความMass มากๆๆๆ ราคาย่อมเยาว์ หาซื้อได้ง่ายตามซุปเปอร์ทั่วไป กลิ่นหอมน้ำนมข้าว ผสมเเป้งเด็ก ข้อดีคือมันอ่อนโยนดีค่ะเราเคยใช้ตอนที่ผิวเเพ้ ตอนนั้นเเพ้ฝุ่นตอนไปเดินห้างฯที่เปิดใหม่ผิวเเดงเเละคันมากๆ ใช้โลชั่นอะไรไม่ได้เลย โดยเฉพาะเเบบที่มีน้ำหอมมันคันเเละเเดงไปหมด เเต่ใช้โลชั่นของจอห์นสันขวดนี้เเล้วไม่เเพ้เลย ผิวชุ่มชื้นเนื้อบางเบาเกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ

จะไม่ได้หอมติดผิวมากมายเหมือนพวกโลชั่นน้ำหอมนะคะเเต่เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับยามที่ผิวเราบอบบาง เเต่ยังต้องการความหอมให้ชุ่มชื่นใจ (ก็ผู้หญิงอะเนอะ ขอหอมๆนิดนึงน่า)

หมดเเล้วจ้าาาาา (จิงๆมีเยอะกว่านี้นะเเต่ที่ใช้เเล้วประทับใจจนอยากแชร์ให้คนอื่นได้ลอง มีประมาณนี้)

เราก็ใช้ๆสลับๆกันไปตามอารมณ์ ตามสไตล์การเเต่งตัวเเละกิจวัตรในเเต่ละวัน มันเพลินดีคะเป็นความสุขอย่างนึงเวลาทาอะไรหอมๆเเล้วดมตัวเองหรือเวลาลมพัดมาเเล้วเราได้กลิ่นหอมๆของตัวเอง

ใครอยากเป็นสาวตัวหอมก็ลองใช้กันดูนะคะ โลชั่นเป็นตัวเลือกนึงที่ดีมากๆๆๆจ้าาาเพราะช่วยให้ผิวนุ่มนิ่มด้วย หอมด้วยเนาะ

อ้อๆๆๆสำหรับคนที่เเพ้ง่าย ก่อนใช้โลชั่นทุกชนิด ลองเรามาทาที่ท้องเเขนดูก่อนนะคะว่าทาเเล้วมีอาการคันเเดงหรือเปล่าเพราะโลชั่นบางตัวที่เค้าใส่น้ำหอมเเรงๆผิวของบางคนอาจจะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่เเตกต่างกันไป