สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เกลอยากจะมาเเชร์ Skincare ที่ใช้อยู่เป็นประจำ
และที่กำลังจะติดใจ !!!
สภาพผิวหน้าแอร์โฮสเตสอย่างเกลจะค่อนข้างขาดน้ำนะคะ
ยิ่งช่วงนี้บ้านเราอากาศเปลี่ยนแปลงมาครบทั้งสามฤดูก็มีบ้างที่ใต้ผิวจะขาดความชุ่มชื้น
แล้วยิ่งเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวชั่วโมงบินแอร์ฯสาวก็พุ่งเอาๆ
และแน่นอนค่ะหน้าโทรมเเน่ๆถ้าขาดการบำรุง
เกลแต่งหน้าเกือบทุกวันเพราะฉะนั้นต้องยิ่งบำรุงให้ล้ำลึก และต้องล้างให้สะอาดเพราะสิวจะบุกเอาได้
เกลขอเริ่มต้นจากการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนเลยนะคะ
ผิวจะสวยได้ ต้องเริ่มจากความสะอาดนะคะบวกกับไม่ขี้เกียจค่ะ
“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะผิวสวย
Threecleansing oil
น่าจะเป็นตัวโปรดของใครหลายๆคนเลยค่ะ
เพราะทำความสะอาดได้ดี กลิ่นหอม และอ่อนโยนต่อผิว
เกลเพิ่งได้ลองใช้เจ้าตัวนี้นะคะ เพราะคนแนะนำมาเยอะมากๆ
เนื้อออยนุ่มเนียน ไม่บาดผิวหน้า เวลาทาลงไปบนหน้าก็นวดๆวนๆเบาๆจนเครื่องสำอางเริ่มละลาย
ตอนเครื่องสำอางละลายบนหน้าก็จะน่ากลัวนิดหน่อยค่ะ
เเต่ล้างออกปุ๊บจะได้เผยผิวจริงของเรา
Bifesta
อันนี้กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าใช้มาเกิน 40 ขวด!!!
อ่านไม่ผิดค่ะ เพราะเกลใช้อย่างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว
ตั้งเเต่เป็นแอร์อยู่ต่างประเทศก็ต้องกลับมาขนมาแบกเจ้า Bifesta นี้ใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วย
ใช้มาแล้วทุกสูตรค่ะ ที่ชอบที่สุดคือ ขวดสีม่วง สำหรับผิวกระจ่างใส
และถ้าช่วงไหนมีสิวบุก แนะนำสีขาว-เขียว สำหรับสิวเลยค่ะ
ที่สำคัญเค้ามีโปรโมชั่นบ่อยมากๆ ทั้งลดและเเจกจ้าาา
ข้อเสียหนึ่งอย่างคือเปลืองสำลีค่ะ ฮ่าาาาา
เห็นเป็นน้ำใสๆแบบนี้ เช็ดได้สะอาดหมดจดเลยนะคะ
จะบลอคตาดำ หรือลิปสติกสีชัดเเค่ไหนก็เอาอยู่ค่ะ
เป็นใช้ค่อนข้างเปลืองเพราะอยากให้สะอาดหมดจดจริงๆ
เจ้าตัว Bifesta นี้เป็นน้ำไร้สีไร้กลิ่นที่เริ่ดจริงๆ
ACNEaid
สบู่ล้างหน้าของ acne aid มีทั้งแบบสบู่ก้อนเเละเเบบเหลว มีทั้งหมดสองสีค่ะ
สีแดง สำหรับผิวธรรมดา ช่วยป้องกันการเกิดสิวผดผื่นต่างๆ รวมถึงช่วยรักษาด้วยค่ะ
สีฟ้า สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายใครกลัวว่าสีแดงจะแรงไปก็องสีฟ้าก่อนก็ได้นะคะ
เกลใช้สีแดงแบบเหลวนะคะ เพราะรู้สึกว่ามันเข้มข้นล้ำลึกดี
ชอบความรู้สึกหลังล้างที่ไม่แห้งตึง และผิวสะอาดพร้อมลงบำรุงขั้นต่อไปค่ะ
ที่สำคัญช่วงใกล้มีประจำเดือนที่สิวจะบุกก็ยังรู้สึกว่าสิวน้อยลงอีกด้วย
น้ำเกลือ Klean& Kare
ทุกคนอ่านไม่ผิดค่ะ
เกลใช้แทนโทนเนอร์นะคะ เพราะติดใจจากช่วงที่ผิวแพ้น้ำที่ต่างจังหวัด
แล้วน้ำเกลือช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวสะอาดมากถึงมากที่สุด
ผดผื่นและสิวที่เกิดจากการแพ้เลยหายเร็วขึ้น
เกลซื้อทั้งเเบบขวดใหญ่ไว้ที่บ้าน
เเละแบบผ้าเปียกเพื่อพกพาเวลาไปต่างจังหวัดเลยค่ะ
แบบผ้าเปียกก็จะคล้ายทิชชู่เปียกของหลายๆยี่ห้อนี่แร่ะค่ะเเต่เป็นสูตรน้ำเกลือ
ตัวเเผ่นทิชชู่เองก็หนานุ่ม ไม่ขาดยุ่ยง่ายด้วยค่ะ
ClarinsDouble Serum
ยังคงเป็นเซรั่มลูกรักที่ใช้ตามคุณแพรี่พาย
ใครเค้าว่าดี เราจะรอช้าอยู่ใยค่ะ!
เกลใช้ขนาดใหญ่ 50ml. นะคะ ทาทั้งเช้าและก่อนนอน
พออายุมากขึ้นเป็นสาว 20 ตอนปลายก็เริ่มใช้ Skincare ที่มีคำว่า anti agingได้แล้วค่ะ
นี่กลัวสิวไม่พอ ยังกลัวแก่ด้วยนะคะ
ก่อนที่เค้าจะปรับสูตรเกลก็รักมากแล้วตอนนี้ปรับสูตรใหม่ดีกว่าเดิมอีกค่ะ
ทั้งซึมง่าย ทาปุ๊บทิ้งไว้ซักนิดก่อนลงบำรุงตัวอื่นผิวจะเด้งๆฟูๆแข่งกับก้นเด็กเลยค่ะ
เนื้อเซรั่มจะเป็นสองสีปั๊มออกมาปุ๊บก็วอร์มเนื้อผลิตภัณฑ์ซักหน่อย แล้วชโลมที่ผิวได้เลยค่ะ
หลายๆคนจะกลัวว่าเนื้อของเซรั่มดูเป็นน้ำมันสาวผิวมันจะใช้ได้มั้ย
ขอตอบค่ะ ว่าได้ J
เพราะเนื้อเซรั่มจะซึมไวไม่ได้ทิ้งความมันเหมือนเราทาออยทั่วไปนะคะ
Clarins Hydra-Essentiel bi-phase Serum
เราคงคุ้นเคยกับโปรดักซ์สีแดงแรงฤทธิของ Clarins กันใช่มั้ยคะ
ล่าสุดเกลเดินผ่านเค้าเตอร์แบรนด์นี้เเล้วสะดุดตากับผลิตภัณฑ์สีฟ้าที่ดูสดชื่นของเค้าค่ะ
แล้วยิ่งเป็นช่วงที่อากาศบ้านเราเปลี่ยนแปลงบ่อย
จากร้อนกลายเป็นหนาว และแห้งมาก
ทั้งที่เวลาไปทำงานเกลก็เจออากาศแห้งจากเครื่องบินอยู่เเล้วนะคะเเต่ตัวนี้เอาอยู่ค่ะ!
Clarins เค้าออกแบบให้เจ้าเซรั่มตัวนี้ช่วยทั้งเติมและล็อคความชุมชื่นให้กับผิวของเรา
หลังจากทดลองใช้ Hydra-Essentiel bi-phase Serum ผิวเกลที่ขาดน้ำดูไม่สดใส ไม่เปล่งปลั่ง ก็กลับมามีสุขภาพดีได้อย่างเห็นได้ชัดค่ะ และที่ติดใจคือทำให้เกลแต่งหน้าติดทนนานมากขึ้นด้วย
ซึ่งเกลอยากให้ทุกคนเข้าใจนิดนึงนะคะว่าสาวคนไหนที่ผิวมันก็ขาดน้ำได้เหมือนกัน
บางครั้งผิวของสาวๆอาจจะขาดน้ำจากภายในค่ะอาจจะเพราะดื่มน้ำน้อยไป
หรือบำรุงไม่ถึงชั้นผิว กลายเป็นหน้าเรายิ่งเร่งการผลิตน้ำมันบนหน้าออกมา
หน้าก็มันไปกันใหญ่ ตัวนี้เลยตอบโจทย์คนผิวขาดน้ำได้ดีเลยค่ะ
Clarins Hydra Essential Cream
ยังคงอยู่กับไลน์สีฟ้าสดใสเเบรนด์สุดที่รักแบรนด์เดิมค่ะ
หลังจากลงเซรั่มไปแล้ว เรามาต่อด้วยเนื้อครีมเพื่อเก็บความชุ่มชื้นไว้ที่ผิวกันค่ะ
ตัว Hydra Essential Cream ถูกพัฒนาเพื่อผู้หญิงเอเชียอย่างเราโดยตรงเลยค่ะ
เนื้อครีมเข้มข้นแต่เบาสบาย มีกลิ่นหอมอ่อนๆอีกด้วย
หลังจากใช้เกลรู้สึกว่าผิวอิ่มน้ำมาก และรู้สึกสดชื่นตั้งเเต่ครั้งเเรกที่ลงครีมบำรุงเลยค่ะ
และเเน่นอนค่ะ พอผิวสดชื่นเเล้วเราจะรู้สึกว่าหน้าตาดูอิ่มเอิบขึ้นทันที
วันที่เกลเริ่มใช้วันเเรกเป็นวันที่กรุงเทพฯมีอากาศเย็น อุณหภูมิอยู่ที่ 21องศาเองค่ะ
ไม่พอนะคะ ยังเป็นวันที่ต้องบินไกลและนานด้วย
เเต่ผิวหน้ากลับดูสดชื่นตลอดวันเลยค่ะ !
Kiehl’s : Ultra light daily UV defence SPF 50++++
ครีมกันเเดดเนื้อครีมสีขาว ซึมเร็ว เนื้อละเอียดค่ะ
จริงๆแล้วเเบรนด์นี้มีครีมกันเเดดหลายรุ่นนะคะ เเต่ที่เลือกใช้ตัวนี้
เพราะสามารถทาได้ทุกวัน และSPF เยอะดีค่ะ
BA เองก็แนะนำว่ารุ่นนี้เป็น Top 10 ของเเบรนด์
หลังจากลงครีมกันเเดดไปแล้ว เกลแนะนำให้ทิ้งไว้สักพักปล่อยให้เนื้อครีมซึมทั่วหน้า
เเล้วค่อยเริ่มของขั้นตอนการแต่งหน้าค่ะ
อยากมีผิวสวยใส ก็เริ่มกันเลยค่ะ
เช็ตสภาพผิวหน้าของเรา และเลือกให้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
“ขอให้ผิวใสจงสถิตอยู่กับทุกคน!”