รื้อโต๊ะเครื่องแป้งของสาวขี้แพ้...ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาชนะ!
สวัสดีค่ะ สาวๆ ที่มีผิวผสม ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่ายทุกคน วันนี้เราจะมาเปิดกรุโต๊ะเครื่องแป้งของเราที่เคยใช้ดี ถูกใจ ถูกกับผิวผสมอย่างเรา ให้กับเพื่อนๆ ที่ประสบปัญหาเหมือนกัน ซึ่งเราใช้เองทุกตัว แล้วเห็นผลการใช้งานดีงามมากกกกก จนอยากจะมาบอกต่อ เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับฟื้นฟูผิวกันค่ะ
จากเดิมเราเป็นคนที่มีผิวผสมมีลักษณะผิวมันบริเวณทีโซน (T-Zone) ของใบหน้า ทั้งบริเวณจมูก หน้าผาก ทำให้เป็นสิวบ่อยๆ ด้วยนะ อีกทั้งเวลาที่เราแต่งหน้า เครื่องสำอางก็ไม่ค่อยติดทนนาน แต่หลังจากที่เราทดลองใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนที่ผิวผสมมาหลายตัว ก็มีแบรนด์เหล่านี้ ที่เราอยากให้ทุกคนมาลองใช้กันดูนะ
2. Laneige White Dew Emulsion
ตัวต่อมาเป็นมอยส์เจอร์ไวท์เทนนิ่งอิมัลชั่น ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ เราสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้น ไม่ต้องรอให้แห้ง ทาครีมหรือแต่งหน้าต่อได้เลย ใช้ 2 หยดก็พอนะ เห็นเราหน้าใหญ่แบบนี้ ทาได้ทั่วทั้งหน้าและลำคอเลยจ้าาา ใช้ได้เช้า - เย็นเลย ก่อนจะทาเซรั่มบำรุ'ผิว ใครที่อยากผิวกระจ่างใสตัวนี้ก็นับว่าเป็นคำตอบที่ดีเลยทีเดียว แต่ระหว่างวันหลังจากทาเสร็จมาหลายชั่วโมง ก็อาจมีความมันนิดหน่อย บริเวณจมูกและหน้าผาก แต่โดยรวมแล้วช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้ดีนะ
"Laneige White Dew Emulsion"
3. Innisfree aloe revital sleeping packมาส์กข้ามคืนสูตรเนื้อครีมโดยใช้ทาก่อนนอนเนื้อครีมจะมีส่วนผสม ของอโลเวร่า (สารสกัดจากว่านหางจระเข้) 78% ตัวนี้จะช่วยกู้ผิวหลังจากผิวไหม้เกรียมจากแสงแดดให้เราได้ดีช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้านหลังจากใช้ผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์
โดยเนื้อครีมจะมีลักษณะเป็นเจลสีขาวใส ทาแล้วซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว มีกลิ่นอ่อนมากๆ ไม่เหนอะหนะใบหน้าอีกด้วย ทั้งยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างดีเลยค่ะ วันไหนเจองานมาหนัก กำลังเพลียๆ ก่อนนอนนี้จัดตัวนี้เลยนะ ผ่อนคลายและสบายผิว หลับสบายสุดๆ เลย
"Innisfree aloe revital sleeping pack"
4. kiehl's clearly corrective dark spot solutionต่อมาเป็นเซรั่มอีกตัวที่เราใช้แล้วรู้สึกว่าผิวสว่าง กระจ่างใส ซึ่งจากที่เราใช้ เรารู้สึกได้เลยว่ามีคนทักในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ว่าหน้าใสขึ้น สว่างขึ้นนะ ตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่เป็นรอยแผลเป็นจากสิว เพราะทำให้รอยหลุมสิวจางลงอย่างรวดเร็ว เราชอบตัวนี้ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี และที่สำคัญไม่มีสารกันเสีย ไม่มีน้ำหอม ไม่แพ้แน่นอน ขวดนี้จะเป็นเจลน้ำสีใสๆ ไม่เหนียว แต่เวลาที่ใช้ จะใช้ยากนิดหน่อยนะ ต้องคอยระวังไม่ให้หลอดแก้วโดนปากขวด ไม่งั้นเลอะ เสียดายแย่
"kiehl's clearly corrective dark spot solution"
5. Aesop In Two Minds Facial Toner นอกจากจะเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ถูกพูดถึงมากในกลุ่มคนที่มีผิวผสมและผิวแพ้ง่ายแล้ว
รวมถึงเราที่เคยลองและหลงรัก Aesop B&C Facial Balancing Gel มาก่อนแล้ว ส่วนผสมหลักๆ ของโทนเนอร์ขวดนี้ คือ Niacinamide ที่เคลมว่าช่วยให้ผิวมีสมดุล คงความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองได้ นอกจากนี้ยังมี Salicylic Acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้แบบอ่อนสุดๆ แล้วก็ยังมี สารสกัดจากใบชา ส่วนผสมของน้ำมันสกัดลาเวนเดอร์ เสจ รวมไปถึงPanthenol และโรสแมรี่ ช่วยแต่งกลิ่น โดยทั้งหมดเนี่ยจะช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และต้านแบคทีเรียได้
แล้วที่เลิฟสุดๆ เราใช้เพียง 1 สัปดาห์ ก็เห็นผลแล้วนะ เรารู้สึกได้ถึงผิวหน้าที่ดูสมดุลมากขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลย คือ ช่วยปรับสภาพความมันบริเวณทีโซน (T-Zone) ให้กลับมามีสภาพผิวปกติส่วนกลิ่นจะอ่อนโยน สัมผัสได้ถึงการเช็ดทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน รู้สึกได้ถึงความเป็นธรรมชาติสุดๆ
"Aesop In Two Minds Facial Toner"
6. Aesop in two minds Facial Cleanserเราขอปิดท้ายด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Aesop อีกหนึ่งตัวละกัน ตัวนี้เราซื้อมาเพราะเป็นซี่รี่เดียวกับโทนเนอร์ (Aesop In Two Minds Facial Toner) โดย Cleanser ตัวนี้มีส่วนผสมของ Salicylic Acid เหมือนกัน ช่วยในการช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดสิ่งอุดตันในรูขุมขนด้วย เราใช้แล้วรู้สึกสะอาดหมดจด ไม่ระคายเคืองผิว ตอบโจทย์คนผิวผสมอย่างเราได้อย่างดี ช่วยลดความมันส่วนเกินได้อย่างชัดเจน รู้สึกได้ทันทีหลังการใช้งาน อีกทั้งช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวในส่วนที่แห้ง ทำให้ผิวไม่มัน ไม่อุดตัน ลองแล้วรู้สึกเลยว่าเห็นผลได้จริง แตกต่างจากตัวอื่นที่เคยใช้มา แล้วยังมีกลิ่นอ่อนๆ สะอาดชื่นใจ เป็นธรรมชาติ โดนใจเราเลยนะ
"Aesop in two minds Facial Cleanser"
สำหรับใครที่มีความรู้สึกว่ามีผิวผสม ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ยังไงก็อย่าลืมที่จะหยิบตัวช่วยที่เราแนะนำไป เป็นหนึ่งในการกอบกู้ผิวกันนะคะ ซึ่งการที่ผิวคนเราจะมีสภาพที่ดีขึ้นได้ส่วนหนึ่งก็เกิดจากสภาพผิวที่แตกต่างของแต่ละบุคคลด้วยนะ โดยข้อมูลรีวิวดังกล่าวนี้ก็เกิดจากการใช้งานจากสภาพผิวเราคนเดียวเท่านั้น ใครใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง อย่าลืมมาเล่าให้ฟังกันนะคะ