วันนี้แยมจะมาแนะนำการกำจัดขนแขนทั้งหมด 3 วิธี มีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
วิธีแรกคือการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งส่วนผสมและอุปกรณ์ที่ต้องใช้มีดังนี้ค่ะ 1.น้ำตาลทราย 7 ช้อนโต๊ะ 2.มะนาว 2 ลูก และ 3.แผ่นผ้าดิบค่ะ โดยเริ่มจากการบีบมะนาวให้เป็นน้ำ แล้วผสมกับน้ำตาลทราย จากนั้นก็เอาไปเคี่ยวในหม้อหรือใส่ไมโครเวฟให้พออุ่นนะคะ โดยระวังอย่าให้ข้นเกินไปจนเหนียวติดหม้อหรือชามค่ะ
วิธีแรกคือการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งส่วนผสมและอุปกรณ์ที่ต้องใช้มีดังนี้ค่ะ 1.น้ำตาลทราย 7 ช้อนโต๊ะ 2.มะนาว 2 ลูก และ 3.แผ่นผ้าดิบค่ะ โดยเริ่มจากการบีบมะนาวให้เป็นน้ำ แล้วผสมกับน้ำตาลทราย จากนั้นก็เอาไปเคี่ยวในหม้อหรือใส่ไมโครเวฟให้พออุ่นนะคะ โดยระวังอย่าให้ข้นเกินไปจนเหนียวติดหม้อหรือชามค่ะ
จากนั้นก็เอาส่วนผสมที่ทำไว้มาทาบนแขนให้ทั่ว ตามแนวเส้นขนที่ขึ้นนะคะ แล้วจึงเอาแผ่นผ้าดิบตัดเป็นสี่เหลี่ยม และแปะทิ้งไว้ที่แขนประมาณ 10-15 นาที พอรู้สึกว่าแห้งแล้ว ก็ทำการแว็กซ์ได้เลยค่ะ โดยดึงผ้าย้อนรอยแนวขนขึ้นไปนะคะ สุดท้ายก็ล้างน้ำให้สะอาดและเช็ดให้แห้งค่ะ วิธีนี้จะไม่ทำให้ขนขุด และยังช่วยทำให้ขนขึ้นช้าด้วยค่ะ แยมแนะนำให้ทำสองเดือนครั้งนะคะ
วิธีที่สองคือการใช้ครีมกำจัดขน ซึ่งในตลาดก็มีหลายยี่ห้อมาก แต่แยมขอแนะนำ Veet ค่ะ ซึ่งถ้าใช้กับแขน แยมแนะนำให้ใช้ตัวสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
วิธีใช้ก็คือ ถ้าเป็นของ Veet ทาครีมทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที แต่ถ้าเป็นของยี่ห้ออื่นก็แล้วแต่ว่าเค้าให้ทาทิ้งไว้กี่นาทีนะคะ และเมื่อเราทาทิ้งไว้จนครบเวลาที่กำหนด เราก็เอาสำลีค่อยๆเช็ดครีมออก โดยเช็ดย้อนรอยขนขึ้นมาค่ะ ขนก็จะหลุดง่ายมาก และไม่เจ็บด้วยนะคะ ซึ่งวิธีนี้ก็ไม่ทำให้ขนคุดหรือเป็นตอด้วยค่ะ
วิธีสุดท้ายคือการใช้เครื่องถอนขนไฟฟ้า โดยมันจะทำงานคล้ายๆแหนบนะคะ คือมันจะค่อยๆดุงเส้นขนไปเรื่อยๆ ซึ่งเราไม่ต้องทาครีมหรืออะไรก่อนเลยค่ะ เพราะตัวเครื่องมันจะช่วยตัดขนเราให้เรียบเนียนด้วยค่ะ แยมขอแนะนำให้ซื้อของแท้มีคุณภาพนะคะ โดยเป็นยี่ห้อของต่างประเทศ เช่น เยอรมันหรืออเมริกาค่ะ
ถ้าใครต้องการกำจัดขนอย่างรวดเร็ว แยมแนะนำเครื่องถอนขนเลยค่ะ รองลงมาก็ครีมกำจัดขนค่ะ ถ้ามีเวลาซักครึ่งชั่วโมง แยมก็แนะนำให้ใช้วิธีแรกเลยค่ะ แต่แยมไม่แนะนำให้ใช้มีดโกนนะคะ เพราะขนที่ขึ้นใหม่มันจะแข็งและหยาบค่ะ แถมยังมีสิทธิ์เป็นขนคุดหรือเป็นตอนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามรีวิวมากๆเลยนะคะ ถ้าใครมีวิธีอื่นๆแนะนำ อย่าลืมมาเม้นท์บอกกันด้วยนะค๊า
| Tweet |
Comment (0)
กรุณา Login เพื่อโพสต์ข้อความ