มีหลายคนเลยนะคะที่เป็นสิว แต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นสิวประเภทอะไร เลยไม่รู้จะรักษายังไง แยมก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ คือเป็นคนที่เป็นสิวง่าย และเคยมีสิวเยอะมาก แยมเลยไปหาหมอ เสียเงินให้เค้าวิเคราะห์สิวและทำทรีทเม้นท์ต่างๆให้ ตอนเอายามาทา สิวก็หาย แต่พอยาหมด สิวก็เห่ออีก แยมจึงตัดสินใจรักษาสิวด้วยตัวเองค่ะ
ก่อนอื่นเลย เราต้องรู้ว่าเราเป็นสิวอะไรบ้าง ทั้งสิวผด สิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวหัวช้าง สิวหัวหนอง หรือสิวอื่นๆนะคะ โดยแยมจะมาเล่า ว่าแยมเคยเป็นสิวอะไรบ้าง โดยเท่าที่จำได้ คือแยมเป็นสิวผด สิวอุดตัน และสิวอักเสบค่ะ แล้วมันขึ้นทั้งบนหน้าผากและบนแก้มเลยนะคะ แยมจึงใช้ Benzac 5% ตัวนี้ค่ะ
แต่แยมจะบอกว่า Benzac มันมีทั้ง 5% และ 2.5% โดยเราดูได้จากตรงนี้เลยนะคะ เขียนอยู่ในกรอบค่ะ ถ้าใครยังไม่เคยใช้ แยมแนะนำเป็นตัว 2.5% ก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้นมันจะแรงไปค่ะ
โดยเจ้าตัว Benzac หรือ BP = Benzoyl Peroxide มันจะช่วยในเรื่องสิวอุดตันกับสิวอักเสบค่ะ ทาช่วงเช้าและช่วงเย็นนะคะ เริ่มด้วยการใช้สำลีชุบน้ำและเช็ดหน้า จากนั้นก็ใช้ทิชชู่ซับหน้าให้แห้ง เสร็จแล้วก็ทา Benzac ให้ทั่วหน้า แรกๆก็ทิ้งไว้ 5 นาทีก่อนค่ะ เพราะถ้าทิ้งไว้นาน หน้าจะแดง แสบ และคัน ด้วยความที่หน้าเรายังไม่ชิน หรือใครที่ทาทิ้งไว้แล้วรู้สึกแสบๆ ก็รีบไปล้างออกเลยนะคะ คือแรกๆแยมจะค่อยๆเพิ่มเวลาไปทีละนิด โดยตอนนี้แยมก็ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาทีต่อครั้งค่ะ
เนื้อของมันจะเป็นสีขาวข้น ไม่เหลวนะคะ เวลาใช้เราก็ใช้นิ้วทาปกติค่ะ ไม่ต้องทาเยอะนะคะ แล้วก็ทิ้งไว้ค่ะ ช่วงแรกๆมันอาจจะทำให้สิวเห่อนะคะ โดยมันจะขับสิวอุดตันออกมาด้วย แล้วก็ทำให้สิวอักเสบแห้งลงค่ะ แยมใช้อยู่ประมาณ 3 เดือน กว่าที่แยมจะเห็นว่าหน้าเริ่มเกลี้ยง คือสิวขึ้นน้อยลง แต่เราไม่ควรใช้ต่อเนื่องนานมาก เพราะมันจะทำให้หน้าเราแห้งค่ะ อาจจะใช้แค่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ คือต้องลองดูตามความเหมาะสมของแต่ละคนนะคะ
ตัวต่อมาเป็นของ Differin ค่ะ ตัวนี้จะช่วยเรื่องสิวอุดตันและสิวผด มันดีพอๆกับเรตินเอเลยนะคะ โดยตัวนี้ใช้ก่อนนอนค่ะ ตื่นมาก็รู้สึกว่าหน้าใสขึ้นเลยค่ะ
ตัวนี้เนื้อมันเป็นเจลสีขาว เนื้อจะใสกว่า Benzac ค่ะ และตัวนี้ทาแล้วไม่ต้องล้างออกนะคะ ช่วงแรกๆที่ใช้ก็สิวเห่อบ่อยค่ะ แต่หลังจาก 3-4 เดือน ก็เห็นผลดีเลย
ขอบคุณที่ติดตามรีวิวค่ะ ใครใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง อย่าลืมมาเม้นท์บอกกันด้วยนะคะ
| Tweet |
Comment (1)
กรุณา Login เพื่อโพสต์ข้อความ