ยืนหนึ่งเรื่องรักษ์โลกกับ LHAMOUR และ Facial Oil ตัวเด็ด
Room : Review
benzsocute | ผิวผสม | 35-39 Yrs | 0 รีวิว 25/10/2019 15:49     

LHAMOUR (ลา-มอร์) แบรนด์ออร์แกนิคสกินแคร์จาก Mongolia เบนซ์ได้เห็นแบรนด์นี้ผ่านตามาบ้างทั้งใน Facebook และรีวิวต่างๆ หลายคนชอบ Facial oil และป้ายยากันสุด ตัวเองก็แอบเล็งมานานอยู่เหมือนกัน จนในที่สุดได้เห็นแบรนด์นี้โปรโมทเคาท์เตอร์แรกที่ Siam Discovery โซน ECOTOPIA ชั้น 4 วันนี้เบนซ์เลยจะพาทัวร์เคาท์เตอร์ LHAMOUR กัน


“หลังจากขึ้นบันไดมาโซน ECOTOPIA เดินไปทางขวาแล้วเลี้ยวขวา เดินมาอีกนิ้สก็จะเห็นเคาท์เตอร์ละ ตกแต่งโทนสีขาวพร้อมทั้งมีขวดแก้วโหลใหญ่ๆ 5 ใบตั้งอยู่เด่นชัดมาก” 

LHAMOUR เป็นแบรนด์จากมองโกเลีย ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์นี้คือส่วนผสมที่สำคัญอย่าง Sea Buckthorn พืชที่เติบโตในภูมิอากาศเรียกได้ว่าโหดร้ายสุดๆ หนาวสุด แห้งสุด ผลของ Sea Buckthorn จากมองโกเลียได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีสารอาหารที่เยอะมาก เพราะสภาพภูมิอากาศทำให้ต้น Sea Buckthorn ต้องเก็บสารอาหารเอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อการอยู่รอดในช่วงอากาศที่หนาวสุดๆ เพราะฉะนั้นจึงเป็นส่วนผสมที่สำคัญในผลิตภัณฑ์ของ LHAMOUR ซึ่งมีทั้งออยล์ เซรั่ม สบู่ และบาล์มทาผิว

นอกจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติแล้วนั้น ทางแบรนด์ยังให้ความสำคัญต่อการผลิต คือทุกขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเก็บเกี่ยวไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ทุกอย่างคือทำด้วยมือ ไม่มีเครื่องจักรเลย ถือเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้หญิงมองโกเลียด้วย  สินค้าทุกตัว MADE In Mongolia จ้า


#ยืนหนึ่งเรื่องรักษ์โลก

ทาง LHAMOUR มีจุดบริการให้เติมรีฟิลออยล์ ตอนแรกเบนซ์คิดว่าคงต้องเฉพาะคนที่เคยซื้อสินค้าเค้าไปแล้วถึงมาเติมรีฟิลนี้ได้แน่เลย แต่เบนซ์ได้อินบ็อกซ์ไปถามในเฟสบุค เค้าตอบมาว่า “สามารถนำขวดเปล่ายี่ห้อใดก็ได้มาเติมรีฟิลออยล์ได้เลยค่ะ ยินดีรับทุกขวดและทุกแบรนด์” เลิศไปอีกน้า In trend รักษ์โลกไปอีก Reuse ขวดเก่าๆได้อีก โลกต้องรักเราค่ะ และคิดราคาเป็นกรัม จะมีการชั่งขวดเปล่าก่อนว่าน้ำหนักเท่าไหร่ ไม่เอามารวมกับออยล์นะจ้า แฟร์ขั้นสุด ราคาจะถูกกว่าประมาณ 20%

ผลิตภัณฑ์ของ LHAMOUR ที่ดังสุดๆคือ Facial Oil และ Body Oil 


Facial Oil มี 2 อย่างคือ Anti-Pollution Facial Oil (ช่วยฟื้นฟูผิวและป้องกันผิวจากมลภาวะ) และ Rosehip Facial Oil (ช่วยเรื่องความกระจ่างใส)

ส่วน Body Oil มี 3 อย่างคือ Revitalizing (ลดริ้วรอยผิวกาย และเพิ่มความกระจ่างใส), Sensitive (เพิ่มความชุ่มชื้น และเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายมีส่วนผสมเข้มข้นจาก Sea Buckthorn) และ Cool Breeze (เนื้อออยล์เย็นๆ เหมาะสำหรับนวดหลังออกกำลังกาย หรือนวดเวลาเมื่อยล้า)

เบนซ์เอาขวดเก่าไปเติม 2 ขวด เบนซ์อยากลองตัว Anti-Pollution Facial Oil และ Body Oil Revitalizing เพราะสองตัวนี้คนป้ายยาเยอะสุด

ขวดเล็ก Anti-Pollution Facial Oil ออยล์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูผิวและแก้ปัญหาของผิว มีส่วนผสมเข้มข้นจาก Sea Buckthorn ที่มีสารอาหารสำคัญเช่น วิตามิน A C E และ Omega 3,6,7,9 ซึ่งนอกจากเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอยแล้วยังช่วยฟื้นฟูผิวและแก้ปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผดผื่นเห่อขึ้นหน้า หน้าแห้งลอก หน้าไหม้จากแสงแดด เอาเป็นว่าถ้าหน้าพังใช้ตัวนี้ จบ!!!  เรียกได้ว่าตัวนี้คือยาสามัญประจำโต๊ะเครื่องแป้ง


ขวดใหญ่ Body Oil Revitalizing มีส่วนผสมของ Avocado Oil, Olive Oil, Soybean Oil ช่วยบำรุงผิวกายให้ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ผิวกระจ่างใส และที่สำคัญที่เบนซ์ชอบมากๆคือกลิ่น เป็นกลิ่น Lemongrass Oil ซึ่งหอมมากๆ ตอนแรกได้ยินว่าตะไคร้ เอาละสมองนึกถึงกลิ่นตะไคร้ไล่ยุง แต่พอลอง ต๊าย!!! กลิ่นตะไคร้หอมมาก ไม่ใช่กลิ่นแบบไล่ยุงนะเธอว์ มันมีคลาสกว่านั้นเยอะค่ะ ผ่อนคลายสุด 


“แอบเม้า คืนแรกเบนซ์ที่ซื้อมา เบนซ์ลองตัว Anti-Pollution Facial Oil ก่อนเลย เพราะผิวแห้ง แดงจากยาสิว วันรุ่งขึ้นอาการแดงๆลดลงเลยนะ ผิวดีขึ้น แต่ยังมีบางจุดที่ยังแห้งลอกอยู่ แต่โดยรวมมัน Work จริง” 

แวะไปกันได้ที่เคาท์เตอร์ LHAMOUR ที่ Siam Discovery ชั้น 4 โซน ECOTOPIA นะค้า นำขวดเปล่าไปด้วยน้า แนะนำสำหรับ Facial Oil ให้หาขวดปั้มหรือขวดเซรั่มที่มีดรอปเปอร์ ส่วน Body Oil ขวดปั้มดีสุด สะดวกเวลาใช้งาน และที่สำคัญ!!!!! ล้างขวดมาก่อนและเช็ดข้างในให้แห้ง แนะนำจริงจัง อยากให้ทุกคนได้ลอง ราคาไม่แพงด้วย




Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -