วันนี้ผมแวะมารีวิวน้ำหอมตัวใหม่ของทาง CK หรือ Calvin Klein ที่เพิ่งออกมาเมื่อต้นปี 2020 นี้เอง หรือก็คือ CK Everyone นั้นเอง พร้อมกับลุคเมคอัพใส ๆ พร้อมกับการเริ่มชีวิตวัยทำงานอย่างจริงจังครับ
ตั้งแต่เริ่มต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้เริ่มงานครั้งแรกในชีวิตอย่างจริงจัง ทีนี้เลยหาน้ำหอมที่สามารถใช้เป็น Everyday Fragrance และก็ให้ความรู้สึกที่ไม่ masculine จนเกินไป ซึ่งผมก็ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆมาว่าลอง CK Everyone ดูซิ เขาเคลมว่าเป็น Genderless Fragrance นะ เป็นน้ำหอมที่เหมาะสมกับทุกเพศ เพศไหน ๆ ก็ใช้ได้ ซึ่งพอผมได้ลองดมที่เคาน์เตอร์แล้ว ก็ต้องบอกว่าถูกใจมากเลยครับ เป็นกลิ่นที่ดูไม่แมนเกินไปหรือไม่สาวเกินไป ฉีดได้ทุกวันจริง ๆ
โดยเจ้า CK Everyone จะให้กลิ่นซิตรัสที่สะอาด ๆ มีความเขียวธรรมชาติ สดชื่นมาก ๆ เลยครับ ไม่ได้มีความรู้สึกที่ฉุนหรือหนักจมูกอะไรเลย ซึ่งตัวน้ำหอม เขาก็ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากเลย Top Note จะให้ความสดใสแนวซิทรัสด้วยน้ำมันสกัดจากส้มออร์แกนิก Middle Note ที่ให้ความเขียวธรรมชาติด้วยใบชา และ Base Note เป็นซีดาร์วูดที่ให้ความสดชื่นเบา ๆ นวล ๆ
ซึ่งที่ชอบอีกอย่างของน้ำหอมตัวนี้เลยก็คือความติดทนของเขา ถึงแม้จะเป็นแค่ EDT แต่ความติดทนของ CK ตัวนี้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้เลย กลิ่นเขาจะจางลงไประหว่างวัน แต่ไม่ได้หายไปเลย กลายเป็นกลิ่นติดตัวเบา ๆ แทน เหมาะกับวันสบาย ๆ หรือไปทำงานจริง ๆ ครับ และด้วยความที่ได้น้ำหอมที่ลุคที่สดใส ๆ ไว้ไปทำงานแล้ว ผมก็เลยลองแต่งหน้าลุคใส ๆ เป็นธรรมชาติ ให้เข้ากับเจ้าน้ำหอม CK ตัวนี้ดูครับ
โดยลุคเมคอัพใส ๆ ไปทำงานของผมก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย อย่างแรกก็คือลงคอนซิลเลอร์ Dior Forever Skin Correct ปกปิดใต้ตาแพนด้าที่แสนอ่อนล้า จากนั้นก็ลง Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless Foundation รองพื้นเนื้อเบางานผิวสวยตัวดัง ตามด้วยการเซ็ทหน้าด้วย Bobbi Brown Sheer Finish Pressed Powder แป้งเนื้อบางเบาที่จะช่วยให้หน้าของเราดูผ่องอย่างเป็นธรรมชาติ
หลังจากเซ็ทหน้าของเราเรียบร้อยแล้ว เราก็จะสร้างกรอบหน้าของเราให้ดูมีมิติด้วย Bronze สี Golden Bronze Light ที่มาใน Ambient™ Lighting Edit Mini – Sculpture Unlocked พาเลทสารพัดนึกตัวดังจาก Hourglass ซึ่งเราก็ยังอยู่กับเจ้าสี่หลุมต่อด้วยการเติมสีให้แก้มให้ดูสดใสด้วยบลัชสี Mood Flush เพิ่มความพุ่งของหน้าของเราอย่างเป็นธรรมชาติด้วย Highlight สี Champagne Strobe Light ตามด้วย Finishing Powder สี Soft Light ให้หน้าของเราดูนวลผ่อง และสิ่งสำคัญที่เราจะลืมไม่ได้คือการปัดคิ้วให้ชัด ขนคิ้วเรียงตัวสวยด้วย Dior Diorshow Iconic Overcurl Mascara ซึ่งจริงแล้วน้องเอาไว้ปัดขนตา แต่ผมชอบเอามาปัดคิ้ว จากนั้นจึงปิดท้ายด้วยปากสีชมพูนูดเป็นธรรมชาติด้วย Burberry Liquid Lip Velvet สี Rosewood และ Dior Addict Lip Tattoo สี 351 Natural Nude โดยเพื่อน ๆ อาจจะฉีด Setting Spray ทับเพื่อความติดทนของเมคอัพอีกชั้นด้วยก็ได้ครับ
และนี้ก็คือทั้งหมดของวันนี้นะครับ โดยหากใครที่กำลังหาน้ำหอมแนวสดใส ๆ กลิ่นธรรมชาติ ฉีดได้ทุกวัน ผมก็ขอแนะนำเจ้า CK Everyone ตัวนี้เลย และหวังว่าเพื่อน ๆ จะชอบลุคเมคอัพของผมนะครับ แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับผม :D
| Tweet |