เรามักพูดเสมอว่าหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานของการมีผิวสวยสุขภาพดี คือ การเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ซึ่งเราก็ดีใจที่เห็นหลายคนตระหนักและหันมาดูแลผิวกันมากขึ้น แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีหลายท่านที่ละเลยพื้นฐานอย่าง "การเติมความชุ่มชื้น" ที่ถึงแม้จะเป็นขั้นตอนที่เรียบง่าย แต่กลับส่งผลต่อผิวอย่างมหาศาล ดังนั้นวันนี้เราจึงหยิบไอเทมนึงได้ลองใช้ในช่วงที่ผ่านมาอย่าง Farm Stay – Collagen & Hyaluronic Acid All in one Ampoule และค่อนข้างให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมาแชร์ให้ฟังกันฮะ
Farm Stay Collagen & Hyaluronic Acid All in one Ampoule
คำเคลมจากทางแบรนด์ : ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนประกอบหลักจากคอลลาเจนจากทะเลน้ำลึกที่มีความคล้ายคลึงกับโครงสร้างผิวอย่างมาก พร้อมส่วนผสม Hyaluronic acid ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวสูงสุด ให้ผิวการกระชับ อิ่มน้ำ และเติมร่องลึกลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมวิตามินสครับและส่วนประกอบจากธรรมชาติที่ช่วยทำให้ผิวเนียน กระจ่างใส
Texture / Scent / Packaging
- Texture : ผลิตภัณฑ์มาในรูปแบบเจลใสๆ เนื้อค่อนข้างเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างไว แถมยังอัดแน่นไปด้วยเม็ดบีตส์เล็กๆ จำนวนนับไม่ถ้วนทำหน้าที่กักเก็บวิตามินเอาไว้ เพื่อคงประสิทธิภาพให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยทางแบรนด์ให้นิยามไอเทมนี้ว่า Ampoule Gel เรียกว่าแค่ฟังชื่อก็ดูเก๋ น่าใช้แล้วใช่มั้ยหละฮะ
- Scent : กลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้เรานึกถึงบรรยากาศของไอเย็นจากท้องทะเลที่ปะทะเข้าสู่ผิวได้เป็นอย่างดี
- Packaging : บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบกระปุกพลาสติกขนาด 250 มล. เรียกว่าเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยใช้มาก็ว่าได้ ซึ่งเมื่อพิจารณาราคา/ปริมาณแล้วหละก็นับว่าคุ้มค่าสุดๆ เลยแหละ แต่เราอาจติดอยู่เล็กน้อย เพราะบรรจุภัณฑ์รูปแบบกระปุกนั้นสามารถปนเปื้อนได้ค่อนข้างง่าย หากทางแบรนด์ทำเป็นแบบขวดปั๊มหละก็เราคงไม่มีอะไรจะหักเลยแหละ!! แต่ถึงอย่างนั้นเค้าก็มีไม้พายมาให้ เพื่อหลีกเลี่ยงที่มือจะโดนครีมโดยตรงและหลีกเลี่ยงแบคทีเรียที่จะปนเปื้อนลงไปในเนื้อเจล
Key Ingredients
สารที่เด่นเป็นสง่าและมาในลำดับต้นๆ คงหนีไม่พ้น Hyaluronic acid ที่ทางแบรนด์เคลมว่ามีความเข้มข้นสูงถึง 10,700 มก. ซึ่งนอกจากจะช่วยดึงความชุ่มชื้นจากภายนอกเข้าสู่ผิว และกักเก็บน้ำไว้บนผิวได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังทำงานร่วมกับ Hydrolyzed Collagen คอลลาเจนที่ได้จากปลาทะเลที่มีความเข้มข้นถึง 2,500 มก. ด้วยขนาดโมเลกุลที่เล็กเป็นพิเศษจึงสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และมีส่วนช่วยให้ริ้วรอยที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นดูตื้นขึ้นได้
นอกจากนี้ยังมีวิตามินครอบจักรวาลอย่าง Niacinamide ที่มีประโยชน์ต่อผิวในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ(hyperpigment) กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและเซราไมด์ ทำให้ผิวแข็งแรง ต่อสู้กับการระคายเคืองต่างๆ ได้ดีขึ้น รวมถึงสามารถลดความมันบนใบหน้า (sebum excretion) และยังเป็น Brightening ได้อีกด้วย
และยังมีวิตามินสุดฮิตอีก 2 ตัวอย่าง Ascorbyl Palmitate วิตามินซีที่มีความคงตัวค่อนข้างสูง โอกาสระคายเคืองต่ำ ช่วยยับยั้งการทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน และเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนได้อีกแถมยังเสริมทัพด้วย Tocopheryl Acetate หรือวิตามินอีซึ่งเป็น antioxidant ที่ยอดเยี่ยม และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ดีเชียวหละ
Let's Try...
ในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอากาศบ้านเราหนาวขึ้นจนหลายคนผิวแห้งลอกไปเลยก็มี แม้ว่าเราเองจะไม่ถึงขนาดผิวแห้งลอก แต่ก็นับว่าผิวแห้งกว่าปกติพอสมควร เราเลยลองหยิบ Farm Stay Collagen & Hyaluronic Acid All in one Ampoule มาเป็นหนึ่งใน Skincare Routine ซึ่งจากที่ลองใช้มาระยะนึงพบว่า....
จากผิวที่เริ่มจะขาดความชุ่มชื้นกว่าปกติในภาพ Before(ภาพด้านซ้าย) เมื่อผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ผิวโดยรวมชุ่มชื้นขึ้น ดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดีขึ้นจนสังเกตุได้ด้วยตาเปล่า แน่นอนว่าเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นที่เหมาะสมเป็นเรื่องปกติที่เมื่อมีแสงมากระทบ จะเกิดการสะท้อนของแสงที่สม่ำเสมอส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นในตัว
ในด้านความกระชับของผิว เรามองว่าที่ผิวดูกระชับขึ้นเกิดความชุ่มชื้นในชั้นผิวที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เซลล์ผิวเรียงตัวกันแน่นและเป็นระเบียบมากกว่าผิวที่แห้งกร้าน และขาดความชุ่มชื้น เพราะแบบนี้ไงหละเราถึงบอกว่า "ความชุ่มชื้น" คือหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ของการมีผิวสวยสุขภาพดี!!
Conclusion
โดยรวมเรามองว่า Farm Stay Collagen & Hyaluronic Acid All in one Ampoule เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์อีกแบรนด์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ด้วยส่วนผสมอย่าง Hyaluronic acid, Hydrolyzed Collagen, Tocopheryl Acetate และ Jojoba Seed Extract ที่ทำงานร่วมกันจึงช่วยเสริมความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้เป็นอย่างดี แถมยังมี Vitamin C และ Vitamin B3 ที่เข้ามาช่วยเรื่องความกระจ่างใส ต่อต้านอนุมูลอิสระ และเสริมความแข็งแรงของผิว
อีกทั้งเนื้อสัมผัสที่เบาสบายผิว ทาแล้วไม่รู้สึกเหนอะหนะ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวโดยปรับปริมาณตามความเหมาะสม ที่สำคัญคือทางแบรนด์ทำราคาออกมาได้อะเมซิ่งสุดๆ จัดว่าเป็นไอเทมที่คุ้มค่าน่าลงทุนเลยเชียวหละ
แต่อย่างที่บอกไปว่าเรายังติดอยู่เล็กน้อยในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ คิดว่าถ้าทางแบรนด์พัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ใช้งานสะดวก และลดการปนเปื้อนมากกว่านี้คงไม่มีข้อติแล้วจริงๆ หละฮะและอย่างที่เราบอกทุกๆ ครั้งว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนคำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ