Hello
สวัสดีค่ะช่วงนี้คุณแม่กำลังวิ่งรอบดูโรงเรียนให้กิ่งกิ๊ง
ที่นี่ก็เป็นโรงเรียนแรกที่คุณแม่แวะมาดูค่ะคือที่
NIVAAmerican International School
เลยเก็บภาพบรรยากาศและนำข้อมูลเบื้องต้นมาฝากกัน
เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังหาโรงเรียนให้เด็กๆ ที่บ้านอยู่ค่ะ
อ๊ะ! ลืมบอกไปว่ากิ่งกิ๊งกำลังจะเข้าเรียนชั้นอนุบาล1 นะคะ
แต่วันนี้คุณแม่ขอเยี่ยมชมในส่วนของอนุบาล
และประถมไปด้วยเลยไหนๆ ก็มาแล้วเนอะ
เนื่องจากช่วงนี้โควิดยังระบาดอยู่
ทางโรงเรียนเค้ามีมาตรการเข้มงวดตั้งแต่ทางเข้าเลยนะคะ
ไม่ว่าจะเป็นการสวมแมสก์พรมทำความสะอาดรองเท้า
วัดไข้ การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าสู่ตัวอาคารค่ะ
ต่อไปเข้าไปดูในโรงเรียนกันเลย
ที่นี่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างนะคะ
คุณแม่ถามพี่ๆที่พาทัวร์โรงเรียน
เค้าบอกว่ามีเนื้อที่ทั้งหมด 7 ไร่นะคะ
ส่วนกลางที่เห็นเด่นๆ เลยและเด็กๆ น่าจะชอบคือ
ตรงสนามฟุตบอล สนามเพลกราวน์ในร่มและสนามบาสเก็ตบอลค่ะ
ตรงนี้ก็ดีนะคะ
มีเก้าอี้ให้นั่งใต้ร่มไม้ เด็กๆน่าจะผ่อนคลาย
จากการเรียนได้ถ้าได้เห็นอะไรเขียวๆ
สภาพแวดล้อมโดยรวมดีมากๆค่อนข้างโปร่งสบายค่ะ
ที่นี่เค้ามี Concept ด้วยนะคือ
“อบอุ่น ใส่ใจ และปลอดภัย”
โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยที่คุณพ่อคุณคุณแม่ทุกบ้านน่าจะกังวล
ที่นี่เค้าสนอง Concept เรื่องความปลอดภัย
โดยการติดกล้อง CCTV ในทุกห้องเรียนและภายนอกอาคารอีกหลายจุด
ส่วนประตูเข้าออกจะมี 2 ประตู
โดยทั้งสองประตูจะเป็นระบบสแกนด้วยคีย์การ์ดค่ะ
มาพูดถึงเรื่องหลักสูตรกันบ้างนะคะ
ที่นี่เค้ามีตั้งแต่ระดับเนอสเซอรี่ไปจนถึงเกรด12หรือ ม.6 เลยค่ะ
ซึ่งจะเป็นระบบการสอนแบบอเมริกัน
แนวทางการสอนหลักๆเค้าจะเน้นปลูกฝังให้นักเรียน
กล้าแสดงออกและเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง
อธิบายง่ายๆ คือ
เค้าจะเชื่อว่านักเรียนทุกคนมีความสามารถ
และทักษะความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป
ก็เลยเป็นที่มาของการสอนที่พยายามให้อิสระทางความคิดกับเด็กๆ
ให้กล้าคิด กล้าพูดกล้าทำอย่างสร้างสรรค์
ซึ่งอันเนี่ยคุณแม่ก็อ่านเจอจากหนังสือเลี้ยงลูก
เค้าบอกว่าเป็นการแนวการสอนสำหรับเด็กศตวรรษที่21 ค่ะ
ชอบจัง
ในภาพนี้เป็นบรรยากาศในห้องเรียนของเด็กอนุบาลค่ะ
ซึ่งที่นี่เค้าจะมีเทคนิคการสอนที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงชั้น
อย่างของอนุบาลก็จะเป็นการให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านธีมต่างๆ
โดยเค้าจะกำหนดธีมในแต่ละวิชา
เค้าอธิบายว่า
เทคนิคนี้จะทำให้เด็กๆ มองเห็น รับรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆ
ได้อย่างเป็นธรรมชาติ รู้สึกสนุกและตื่นตัว
ที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆตลอดเวลาค่ะ
ส่วนของระดับประถม
อันนี้คุณแม่ถามล่วงหน้ามาเลยเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น
ไหนๆ ก็มาแล้วเนอะ
ของประถมเค้าจะเน้นเนื้อหามากขึ้น
และมีการพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคลมีการประเมินผลการเรียน
และพัฒนาการแบบเรียลไทม์เลย
แล้วก็ระดับประถมมีสอนภาษาจีนเป็นภาษาที่สามด้วย
ดีเนอะไม่ต้องไปหาเรียนเสริมข้างนอก เพราะตอนนี้ภาษาจีนจำเป็น
สำหรับรุ่นลูกหลานเรามากๆค่ะ
มาถึงเรื่องอาหารการกินบ้างนะคะ
ซึ่งคุณแม่เชื่อว่าทุกบ้านต้องกังวลเรื่องนี้ไม่แพ้เรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ
โรงอาหารกว้างขวาง โปร่งสบาย
เพราะอยู่ติดกับสนามฟุตบอลเลย
อย่างในช่วงโควิดเค้าก็มีมาตรการเข็มงวดมาก
โดยทุกโต๊ะจะมีที่กั้นเพื่อให้นักเรียนทุกคน
รักษาระยะห่างในช่วงที่ไม่ได้สวมแมสก์
ส่วนอาหารจะเสิร์ฟเป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติ
โดยเค้าจะมีเชฟประจำโรงเรียนเลย
ทำสดใหม่ทุกเมนูแบบวันต่อวันเลยค่ะ
วันนี้คุณแม่เก็บภาพมาฝากด้วย
ดูซิคะน่าทานมากๆ เลยค่ะ
“วันนี้อากาศร้อนค่ะขอแวะซื้อไอติมที่ร้านค้าหม่ำคลายร้อนหน่อยนะคะ”
ตรงนี้จะเป็นร้านค้าภายในโรงเรียน
มีขนม นม เนย ของใช้เล็กๆ น้อยๆ และเครื่องเขียนขายค่ะ
มาถึงเรื่องสถานที่ตั้งและการเดินทางกันบ้างนะคะ
ที่นี่เดินทางค่อนข้างสะดวกเพราะเข้าออกได้สองทางคือ
ทางซอยลาดพร้าว 101 และจากฝั่งถนนเลียบทางด่วนรามอินทราค่ะ
ลานจอดรถตรงนี้เป็นสำหรับผู้มาติดต่อ
แต่จะมีอีกลานนึงแต่คุณแม่ไม่แน่ใจว่า
เค้าเปิดให้เฉพาะบุคลากรของโรงเรียนใช้รึเปล่าค่ะเพราะเค้าปิดรั้วอยู่
มาถึงเรื่องที่คิดว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนอยากรู้นั่นก็คือ
“เรื่องค่าเล่าเรียน”
ค่าเทอมที่นี่รวมทุกอย่างแล้วเริ่มต้นที่ประมาณ
200,000ต้นๆ ไปจนถึง 350,000 บาทต่อปี
ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ไม่แรงมากนะคะสำหรับโรงเรียนอินเตอร์
นอกจากนี้เค้ายังมีส่วนลดพี่น้อง
สำหรับบ้านไหนที่มีพี่น้องหลายๆ คน ลดค่าแรกเข้า 50%
และมีส่วนลดค่าเทอมให้ต่อคนด้วยค่ะ
สำหรับคนที่สมัครภายในวันที่ 31 พ.ค. นี้นะคะ
ก็เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่น่าสนใจมาก
ตามคำบอกเล่าของเพื่อนคุณแม่เลยค่ะ
สุดท้ายนี้คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนอยากไปเยี่ยมชมโรงเรียนแบบเราสองคน
ก็ลองติดต่อเข้าไปที่โรงเรียน NIVA American International School ดูนะคะ
ก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณที่ตามอ่านจนจบเจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ บ๊ายบาย