ผลิตภัณฑ์ที่จะมารีวิวส่วนใหญ่จะเป็นในกลุ่มทำความสะอาดและมาสก์หน้านะคะ มีการปรับสูตรใหม่และออกไลน์ผลิตภัฑณ์มาเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผิว จุดเด่นที่ต้องพูดถึงคือส่วนผสม 2 อย่างคือ -Urban D-TOX ช่วยปกป้องผิวจากฝุ่นละออง มลภาวะ ควัน และอนุมูลอิสระต่างๆจากภายนอก ซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวไม่สะอาด อุดตัน และเกิดริ้วรอยก่อนวัย -Postbiotics ส่วนประกอบที่ได้จากการหมักบ่มจุลินทรีย์ Lactobacillus Ferment ช่วยในการปรับสมดุลของจุลินทรีย์บนผิว ให้ผิวแข็งแรงขึ้น ป้องกันการอักเสบ มาเริ่มที่ตัวแรกกันเล้ย 1 Hydracream Fusion ครีมทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวแห้ง แพ้ง่าย มีส่วนผสมที่เพิ่มขึ้นมาคือ Squalane เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ดีต่อผิว ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน และทำให้ผิวแข็งแรงมีสุขภาพดี เนื้อจะเป็นครีม ถูลงบนใบหน้าที่แห้ง ถูวนสักพักจะเปลี่ยนเป็นออยล์ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สามารถใช้เป็นคลีนซิ่งขจัดเมคอัพแบบไม่ติดทนได้เหมือนกันค่ะ หลังใช้บอกเลยว่าผิวไม่แห้งตึงจริงๆ ผิวนุ่มขึ้นด้วยล่ะ ใช้ตอนผิวแห้งระคายเคืองจากยาสิวก็ได้ด้วยนะ ใครที่ใช้ยาสิวประจำควรมีติดบ้านไว้ใช้ตอนผิวระคายเคือง ใช้ตอนเช้าเป็นขั้นตอนแรกร่วมกับคลีนเซอร์ตัวอื่นๆได้ด้วยค่ะ ผิวแห้งเลิฟตัวนี้แน่นอน ปริมาณ 100 มิล 2. Brightening Foam โฟมทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวกระจ่างใส เหมาะสำหรับผิวธรรมดาและผิวผสม มีส่วนผสมของ Glycolic Acid และ Lactic Acid ช่วยในเรื่องผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดจุดด่างดำ แต่ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว ผสมเนื้อครีมกับน้ำจะกลายเป็นฟองแล้วถูให้ทั่วใบหน้า ช่วยขจัดความมันได้ดีอยู่นะตัวนี้ เนื้อฟองก็ดีงามฟองละเอียด ใช้นิดเดียวแต่ได้ฟองเยอะอยู่นะ หลังล้างผิวไม่แห้งและตึงๆผิวเลย ผิวใครที่กังวลเรื่องการอุดตันแนะนำตัวนี้ค่ะ มีกลิ่นหอมสไตล์ Mesoestetic ปริมาณ 100 มิล 3. Purifying Mousse โฟมทำความสะอาดเนื้อมูส ตัวนี้เหมาะสำหรับผิวมันและผิวมีสิว ช่วยขจัดความมันได้ดีมั่กๆ มีส่วนผสมที่เพิ่มมาคือ Chlorhexidine ที่ช่วยในเรื่องยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และ Salicylic Acid, Lactic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน และขจัดความมัน บอกเลยว่ารักตัวนี้มากๆ ขจัดความมันได้ดีแล้ว ตอนล้างรู้สึกได้ถึงความเย็นๆแบบมิ้นต์ๆ แต่เป็นมิ้นต์ที่แปลกคือไม่เย็นซาบซ่าจนแสบผิวเหมือนตัวอื่นๆที่เคยใช้ ใช้ตอนหน้าร้อนคือฟิน ที่สำคัญคือเหมาะกับผิวมีสิวง่ายแบบเบนซ์ค่ะ หลังล้างผิวไม่แห้งตึงด้วยนะ ปริมาณ 150 มิล 4. Micellar Biphasic ไมเซลล่าสำหรับขจัดเมคอัพบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก เนื้อจะมีสองส่วนคือส่วนน้ำและน้ำมัน ที่น่าสนใจคือคุณสมบัติที่นอกจากขจัดเมคอัพแล้วยังมี Altermonas Ferment Extract ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ได้จากการหมักบ่มแบคทีเรีย ช่วยลดการระคายเคือง ลดการอักเสบ และ Helianthus Annuus Seed Oil สารสกัดจากเมล็ดทานตะวัน มีโอเมก้า 6 ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและยืดหยุ่น ส่วนตัวมองว่าขจัดเมคอัพได้ดีนะ เช็ด 2 ทีมาสคาร่าและลิปสติกเกลี้ยง ตอนเช็ดไม่ต้องออกแรงมาก แปะทิ้งไว้แปปนึงแล้วปาดออกทุกสิ่งอย่างหลุดออกมาหมด ที่ WOW!!!! คือพอเช็ดออกแล้วผิวรอบดวงตาและริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้นขึ้นโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกว่ามีความมันมาเคลือบผิว จับๆ ริมฝีปากและรอบดวงตาคือนุ่มนิ้วจริงๆ เคยใช้บางแบรนด์คือจะทิ้งความมันไว้ ปริมาณ 150 มิล
5. Hydratonic Mist
โทนเนอร์ในรูปแบบสเปรย์ ช่วยปรับค่า pH Balance ผิวให้สมดุล และเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป ส่วนผสมเพิ่มเติมคือ Rose Water อุดมไปด้วยสาร Antioxidant แร่ธาตุและวิตามินต่างๆที่จำเป็นต่อผิว และ Panthenol วิตามินบี 5 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว สเปรย์ให้ละอองที่ละเอียด และฉีดต่อครั้งได้ปริมาณที่เพียงพอ ส่วนตัวจะฉีด 3 ครั้ง ซ้าย ขวา และกลางใบหน้า หลังฉีดผิวชุ่มชื้นขึ้นจริงจัง จะบอกว่าใช้ต่อเนื่งเช้าเย็น สังเกตผิวดีขึ้นด้วยนะ อาการระคายเคือง สิวคันๆลดลง และไม่กระตุ้นให้เกิดสิวด้วย แช่เย็นไว้จะฟินมาก ปริมาณ 125 มิล
6. Ultimate Micropeel
น้ำนมที่ช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวเป็นหลัก มีส่วนผสมเด่นคือ สารผลัดเซลล์ผิว AHA เช่น Lactic, Lactobionic, Glycolic, Malic, Citric และ Tartaric Acid (เยอะมากแม่!!!!) ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการอุดตัน ลดจุดด่างดำต่าง รอยแดงรอยดำจากสิว และปรับให้สีผิวโดยรวมกระจ่างใสขึ้น ก่อนใช้ต้องเขย่าให้น้ำนมและน้ำเข้าด้วยกัน เหยาะลงสำลีให้ชุ่ม แล้วเช็ดผิวให้ทั่ว เว้นรอบจมูก ปากและรอบดวงตา ทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วล้างออก ใช้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์นะคะ (ระหว่างทาไม่รู้สึกยิบๆด้วยล่ะ) ถ้าผิวเริ่มชินค่อยๆขยับเวลาให้นานกว่านี้ได้แค่ ค่อยๆเพิ่มทีละ 5 นาที ส่วนตัวมองว่าคุ้มค่ามาก ขวดใหญ่ 150 มิลกับส่วนผสมที่จัดเต็ม ควรมีบอกเลอ
7. Anti-Stress Mask
มาสก์หน้าสำหรับผิวแห้ง แพ้ง่าย ระคายเคือง ช่วยปลอบประโลมและลดอาการแดงของผิว มีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่อง Soothing หลายตัวเช่น Calendula, Rhodosorus Marinus Extract (สาหร่ายสีแดง), Saffron Flower, Marigold (ดอกดาวเรือง) ช่วยลดการระคายเคือง ปลอบประโลม และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และยังช่วยลดอาการแดงอีกด้วย เนื้อมาสก์เป็นแบบครีมเจล ทาแล้วจะเย็นๆที่ผิว ฟินมากเลยล่ะ ทาทิ้งไว้ 20-30 นาที หรือจะทิ้งไว้เป็นชั่วโมงหรือข้ามคืนก็ได้เหมือนกัน เบนซ์ชอบทาทิ้งไว้ทั้งคืนเวลาผิวระคายเคืองหรือขี้เกียจทาบำรุงเยอะๆ หยิบมาใช้บ่อยมากเวลาผิวแดงแห้งจากยาสิว ปริมาณ 100 มิล
8. Hydravital Mask
มาสก์หน้าเน้นในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะาำหรับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ มีส่วนผสมเด่นๆคือ Hyaluronic Acid, Viola Tricolor (ดอกเพนซี่), Argan Oil อุดมไปด้วยโอเมก้า3 และ 6 ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว เติมน้ำให้ผิวได้ทันที และให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย เนื้อมาสก์เป็นแบบครีม ทาง่าย เกลี่ยง่าย ให้ความชุ่มชื้นดี จะทาแบบทิ้งไว้แล้วล้างออกก็ได้ หรือจะทาบางๆเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ก็ได้ หรือเป็น Sleeping mask ก็ได้ไปอี๊กใช้ได้สารพัดวิธี ปริมาณ 100 มิล เยอะและคุ้มค่ามาก
9. Pure Renewing Mask
ตัวสุดท้ายลูกรักสุด มาสก์สำหรับผิวมันมีสิวจ้า มีส่วนผสมของ Kaolin, Salicylic Acid, Mandelic Acid ช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน ผลัดเซลล์ผิว และลดการอุดตัน มีเม็ดสครับด้วยนะ แต่เป็นสครับจาก Cellulose Particles เม็ดสครับจากธรรมชาติ ช่วยขจัดเซลล์ผิว ตัวนี้เป็นได้ทั้งมาสก์และสครับไปในตัว มาสก์ทิ้งไว้ 5-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ระหว่างล้างด้วยน้ำนั้น สครับผิวเบาๆมือเป็นการผลัดเซลล์ผิว เม็ดสครับคือดีละเอียด ไม่บาดผิว ที่สำคัญใช้แต้มสิวอักเสบได้ด้วยล่ะ เบนซ์ชอบเอามาแต้มสิวตอนดลางวัน ส่วนตอนกลางคืนใช้ครีมแต้มสิวของ Mesoestetic ช่วยให้สิวแห้งและสุกไวขึ้น ตอนมาสก์จะเย็นๆ ล้างน้ำออกก็ยังเย็นผิวอยู่ สบายมากเว่อร์ แนะนำเลยค่ะมาสก์ที่คู่ควรกับผิวมีสิวแบบเราๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างค้า อ่านจนเหนื่อยกันไปหรือยางงงงง ฮ่าๆๆๆๆ รวบตึงทุกตัวไว้ในรีวิวเดียว หวังว่ามีประโยชน์กับเพื่อนๆนะค้า ใครสนใจตัวไหนลองดูรีวิวนี้ก่อนค่ะ เลือกตัวที่เหมาะกับความต้องการของผิวเรา และที่สำคัญตามโปรได้ที่เพจของ Mesoestetic นะคะมีโปรบ่อยมากแม่ ส่วนลดก็จุก ตัวไหนใช้ดีก็ตุนกันเลยจ้า ไว้เจอกันรีวิวหน้านะค้า ดูแลสุขภาพกันด้วยค่า บาย
Tweet |