รีวิว 5 อันดับโลชั่นบำรุงผิวขาวกระจ่างใส ราคาไม่เกิน 100 บาท! ใน 7 - Eleven

Vaseline

Super Vitamin Brightening Serum Peach & Prebiotic Vitamin B3 & C

ราคา 75 บาท | ปริมาณ 110 มิลลิลิตร

เซรั่มบำรุงผิวกายสูตรซุปเปอร์วิตามินบริสุทธิ์ 99% เข้มข้น ผสานด้วยสารสกัดของ Vitamin B3 กับ Vitamin C ที่ช่วยบำรุงผิวกายให้กระจ่างใส นุ่มเด้ง อิ่มน้ำ และเป็นเซรั่มบำรุงผิวกายที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ซึ่งไม่ทำให้ผิวแห้ง หรือ เกิดการระคายเคืองแน่นอน

สำหรับสารสกัดสำคัญที่ช่วยบำรุงผิวขาวกระจ่างใส ได้แก่

สารสกัดจากพีช: เป็นสารสกัดที่อุดมไปด้วยวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวมากมาย และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ดังนั้นจึงมีส่วนช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส เนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้านง่าย พร้อมทั้งช่วยลดปัญหาริ้วรอยของผิวได้อีกด้วย

วิตามินบี 3: อีกหนึ่งส่วนประกอบที่ช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอยิ่งขึ้น พร้อมช่วยฟื้นฟูให้ผิวที่หมองคล้ำดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ

วิตามินซี: สารสกัดเข้มข้นที่เป็นสารสกัดยอดนิยมที่ถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของสกินแคร์มากมาย ซึ่งเป็นสารสกัดที่มีส่วนช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินที่เป็นสาเหตุหนึ่งของผิวหมองคล้ำ ปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้น และยังช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระชับอีกด้วย

จุดเด่นของเซรั่มวาสลีนซุปเปอร์วิตามิน

ไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ที่ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน แถมยังเหมาะกับคนที่แพ้ง่าย ใช้แล้วไม่เกิดอาการแพ้ระคายเคืองแน่นอน และยังเป็นเนื้อเซรั่มที่คล้ายกับเซรั่มที่บำรุงผิวหน้าด้วย ดังนั้นจึงมีเนื้อเซรั่มที่บางเบา หอมกลิ่นพีช ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะได้ง่าย

ความรู้สึกหลังใช้

สิ่งที่พลอยชอบสำหรับตัวนี้เลยคือ หอมกลิ่นพีช แบบละมุนสดชื่นมาก และเนื้อเซรั่มก็ซึมลงผิวไว ไม่เหนียวตัว ไม่หนักผิวเลย สามารถใช้ทาบำรุงผิวได้ตลอดทั้งวัน แต่ในเรื่องของความชุ่มชื้นนั้นอาจจะไม่ได้ชุ่มชื้นยาวนานทั้งวัน จะต้องหมั่นทาซ้ำๆบ้างในตอนที่ต้องนั่งทำงานในห้องแอร์นานๆ ส่วนเรื่องความขาวกระจ่างใสนั้นอาจจะไม่ได้ดูขาวขึ้นมาก แต่รู้สึกเลยว่าผิวเรียบเนียนขึ้น ดูสวยแบบสุขภาพดีค่ะ

ระดับความพึงพอใจ คะแนน 9/10 คะแนน โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นเซรั่มบำรุงผิวกายที่ทาแล้วไม่เหนียวตัวเลย ซึมไวมากๆ แต่ไม่ค่อยชุ่มชื้นยาวนานเท่าไหร่ ต้องหมั่นทาซ้ำตลอดทุกๆ 3 - 4 ชั่วโมง

Nivea

Extra White C&E Vitamin Lotion

ราคา 69 บาท | ปริมาณ 70 มิลลิลิตร

โลชั่นผิวขาวจากแบรนด์นีเวีย ซึ่งเป็นโลชั่นที่เครมไว้ว่าช่วยให้ผิวดูขาว ฉ่ำเด้งใน 7 วัน! และยังผสานคุณค่าของวิตามินซี กับ วิตามินอี จึงช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ชุ่มชื้น พร้อมกู้ปัญหาผิวคล้ำเสียจากแสงแดดให้กลับมาเรียบเนียน สม่ำเสมอ แข็งแรงอย่างสุขภาพดี

ซึ่งเป็นโลชั่นที่ผสานคุณค่าของวิตามินซี 4 ชนิด ที่ได้จากวิตามินซีบริสุทธิ์ 95%, คามูคามู, อะเซโรลา เชอร์รี่ กับ ส้ม และคุณค่าของวิตามินอี จึงมีคุณสมับติที่ช่วยกู้ผิวที่หมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส อิ่มน้ำ แบบสุขภาพดี และยังช่วยฟื้นฟูให้ผิวที่อ่อนแอกลับมาแข็งแรงขึ้น

จุดเด่นของโลชั่นนีเวีย

ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้ค่อนข้างดี จึงช่วยกู้ผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี แถมยังผสานคุณค่าของวิตามินซีจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส รับรองว่าใช้แล้วไม่ทำให้ผิวบางลงอย่างแน่นอน

ความรู้สึกหลังใช้

โลชั่นหอมกลิ่นส้ม สดชื่น พอทาลงบนผิวแล้วจะรู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ เนื้อโลชั่นค่อนข้างเข้มข้นเลยทีเดียว พอทาแล้วอาจจะไม่ได้ซึมลงผิวในทันที อาจจะต้องลูบไล้ไปสักครู่หนึ่งจนกว่าจะซึมเข้าสู่ผิวดี แต่หลังทาเสร็จผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีแบบสัมผัสได้เลย คือ ไม่ได้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะผิวจนเกินไป แล้วพอใช้ไปอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ผิวค่อยๆดูไบร์ทขึ้น แต่ไม่ได้ถึงกับขาวขึ้นค่ะ ผิวจะดูเปล่งปลั่ง ใสแบบสุขภาพดีซะมากกว่า

ระดับความพึงพอใจ คะแนน 9/10 คะแนน เนื้อโลชั่นจะหนืด และเข้มข้นพอสมควรเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น แต่บอกเลยว่าตัวนี้ดีมากในเรื่องของความชุ่มชื้น ทาแล้วผิวอิ่มน้ำดีมากๆ ไม่ค่อยแห้งง่ายในระหว่างวัน

Pureline

Aura Bright & Glow

ราคา 29 บาท | ปริมาณ 150 มิลลิลิตร

โลชั่นบำรุงผิวราคาน่ารัก สบายกระเป๋า แถมทาแล้วตัวห๊อม...หอม เพราะมีหัวเชื้อน้ำหอมระดับพรีเมียมเป็นส่วนประกอบ ซึ่งตัวนี้จะเป็นโลชั่นสูตรเพื่อผิวดูโกลว์กระจ่างใส แบบสุขภาพดี

จะมีส่วนประกอบของวิตามินบี 3 ที่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียน ดูสม่ำเสมอ ผสานกับคุณค่าของสารสกัดมะเขือเทศจากสเปน ที่ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง อมชมพู แบบมีเลือดฝาด และมีส่วนประกอบของสารสกัดกุหลาบเกาหลี ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูสุขภาพดี ปัญหาริ้วรอยของผิวดูลดเลือน

จุดเด่นของโลชั่นเพียวไลน์

จะมีส่วนประกอบของหัวเชื้อน้ำหอม ดังนั้นพอทาลงบนผิวแล้ว ผิวจะมีความหอม หวาน ละมุนมากๆ สามารถใช้แทนน้ำหอมเลยก็ได้ล่ะ แต่...กลิ่นจะไม่ได้ติดทนทานนัก หากทาซ้ำบ่อยๆกลิ่นหอมถึงจะติดตัวได้นานกว่าการทาเพียงครั้งเดียว

ความรู้สึกหลังใช้

เนื้อโลชั่นไม่เหนียวเหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ทาแล้วผิวก็ชุ่มชื้นในระดับหนึ่ง และอาจจะต้องหมั่นทาซ้ำในระหว่างวัน จากที่ใช้มาสักพักนึงจนใกล้จะหมดแล้ว...เรื่องความขาวกระจ่างใสอาจจะยังไม่เห็นผลชัดเจนมากนัก แต่จะดูมีความเปล่งปลั่งสุขภาพดีมากกว่า และถึงแม้จะมีส่วนประกอบของน้ำหอม พลอยก็ไม่แพ้นะคะ ซึ่งใครที่ไม่คิดมากเรื่องความขาว เน้นใช้ทาระหว่างวันเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งก็ถือว่าไม่แย่เลยล่ะ

ระดับความพึงพอใจ คะแนน 7/10 คะแนน เรื่องความขาวกระจ่างใสยังไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนสักเท่าไหร่ค่ะ

Bhaesaj

Body Whitening Lotion Red Love Apple

ราคา 27 บาท | ปริมาณ 150 มิลลิลิตร

อีกหนึ่งโลชั่นที่พลอยเคยใช้ในสมัยตอนเรียนมัธยม และใช้มาเนิ่นนานพอสมควร จนตอนนี้มีสูตรใหม่ออกมาให้ได้ลองเรื่อยๆ ก็คือ โลชั่นเภสัช นี่เองค่ะ ซึ่งเป็นแบรนด์โลชั่นที่ราคาค่อนข้างถูก สบายกระเป๋าเลยล่ะ สำหรับตัวนี้เป็นสูตรใหม่ที่เพิ่งออกมาได้สักพัก (โดยปกติแล้วพลอยจะเคยใช้แต่ขวดสีฟ้า) เห็นว่าน่าสนใจดีเลยซื้อมาลองใช้ดูค่ะ

จะเป็นโลชั่นที่มีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะมีส่วนประกอบของสารสกัดของแอปเปิ้ลที่มีเนื้อสีแดงเป็นหลัก และมีคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดความหมองคล้ำของผิวได้ดี พร้อมทั้งมีส่วนประกอบของวิตามินบี 3 ที่ช่วยยับยั้งเม็ดสีเมลานิน ผสานคุณค่าของวิตามิน อี กับ มอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น ที่ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ตลอดทั้งวัน

จุดเด่นของโลชั่นเภสัช

จะเน้นมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเป็นพิเศษ และทำให้ผิวค่อยๆดูกระจ่างใสขึ้น แถมเนื้อโลชั่นจะไม่ได้หนืดข้นเท่าเมื่อตอนแรกๆ มีการปรับเนื้อโลชั่นให้มีความบางเบา เกลี่ยง่ายขึ้นด้วย

ความรู้สึกหลังใช้

โดยส่วนตัวแล้วพลอยมองว่าเป็นโลชั่นบำรุงผิวที่ราคาถูกมากๆ และคุณภาพก็อยู่ในเกณฑ์ดีเลยล่ะ คือใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคืองผิว เนื้อโลชั่นก็เกลี่ยง่ายขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ซึมลงผิวได้ไวมากนัก ซึ่งทาแล้วจะรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น ไม่เหนียวเหนอะหนะตัวจนเกินไป แล้วก็มีกลิ่นค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์เภสัชค่ะ ส่วนเรื่องความขาวกระจ่างใสนั้นก็รู้สึกว่าผิวมีความใสๆขึ้น ไม่ได้ขาวขึ้นมากค่ะ 

ระดับความพึงพอใจ คะแนน 6.5/10 คะแนน กลิ่นค่อนข้างฉุนเมื่อทาซ้ำบ่อยๆ แต่ยิ่งทาผิวยิ่งชุ่มชื้นขึ้น

โดยสรุปความพึงพอใจของโลชั่นผิวขาวแต่ละแบรนด์ได้ดังนี้ (แต่ละหัวข้อจะมีคะแนนเต็ม 5 คะแนน)

จากตารางจึงสรุปได้เลยว่า โลชั่นผิวขาวที่พลอยใช้แล้วชอบที่สุด คือ โลชั่นมะหาดจุฬาเฮิร์บ นี่เองค่ะ เพราะมีส่วนประกอบของธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใสขึ้นจริง แถมยังมีเนื้อโลชั่นที่บางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะผิว ซึ่งมันตอบโจทย์กับอากาศร้อนๆของเมืองไทยตอนนี้มากๆ

ซึ่งเพื่อนๆคนใดที่มีปัญหาผิวกายหมองคล้ำ ผิวไม่สม่ำเสมอ ขาดความชุ่มชื้น เรียบเนียน ต้องลองใช้โลชั่นมะหาดจุฬาเฮิร์บตัวนี้เลย ราคาเพียงหลักสิบเท่านั้น และสามารถใช้ทาซ้ำในระหว่างวันได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้รู้สึกเหนียวตัวจนเกินไป แถมถ้าเหงื่อออกจะไม่เกิดเป็นคราบขาวเปื้อนเสื้อผ้าด้วยล่ะ และสามารถหาซื้อได้ที่ 7 - Eleven ทุกสาขานะคะ

แล้วนี่ก็คือโลชั่นผิวขาว 5 แบรนด์ ที่พลอยนำมาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ และสิ่งที่สำคัญที่นอกจากการทาโลชั่นบำรุงผิวแล้ว ก็อย่าลืมหมั่นสครับผิว กับทาครีมกันแดดด้วยนะคะ เพื่อผิวของเรานั้นจะได้สวยกระจ่างใสยิ่งขึ้นค่ะ