สวัสดีค่ะสาว ๆ ทุกคน วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ของความพยายามในการลดน้ำหนักตามสูตรยอดฮิตที่หลายคนนิยมทำกันนั่นก็คือ “การกินคีโต” และ “การทำ IF” นั่นเอง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เราไม่ได้ทำพร้อมกันนะคะโดยเลือกทำทีละวิธี
โดยส่วนตัวแล้วน้ำหนักเราตอนแรกที่อยากลดเลยก็คือ 54 หลายคนอาจจะมองว่าไม่เห็นเยอะเลย ไม่อ้วนเลย แต่สำหรับเราเราว่ามันก็ดูไม่ผอมเวลาถ่ายรูปก็ไม่ค่อยจะรอด เลยตั้งเป้าไว้ว่าจะลดน้ำหนักถึงที่ 49 กิโลพอ
ตอนแรกเราทำ IF ก่อนซึ่งเลือกทำแบบ 16:8 ซึ่งก็คืออด 16 ชั่วโมงส่วนอีก 8 ชั่วโมงสามารถกินได้นั่นเอง ตอนเริ่มแรกที่ทำเราเลือกกินมื้อแรกตอน 10 โมงเช้า นั่นก็แสดงว่าจะสามารถกินได้ถึงแค่ 6 โมงเย็นเท่านั้น หลัง 6 โมงไม่สามารถกินอะไรได้แล้ว
ระหว่างทำ IF ก็กินอาหารคลีนด้วย
วันแรก ๆ ก็พอทนได้อยู่แต่พอวันที่ 4 เริ่มมีอาการหิวแล้วเพราะร่างกายเราคงชินกับการที่อาหารตกถึงท้องตลอดเวลาพอไม่ได้กินมันก็มีอาการหน้ามืด เวียนหัว ไม่มีสมาธิในการทำงานอีกด้วยเลยคิดว่าวิธีนี้ก็ไม่น่ารอดละ เลยลองหาวิธีใหม่555555
วิธีต่อมาก็คือ ‘การกินคีโต’ ตอนแรกที่เราศึกษาวิธีการกินก็คืองดกินแป้งและน้ำตาล กินจำพวกไขมันของพืชและสัตว์แทน ซึ่งก็ดูเหมือนง่ายนะคะเราแค่ไม่กินข้าวสวย กินเนื้อสัตว์แทนแล้วก็มีผักด้วยในทุก ๆ มื้อ
เริ่มแรกเราไม่รู้จะหาซื้ออาหารคีโตที่ไหนเพราะดูแล้วราคาก็ค่อนข้างแพงเลยทีเดียว เลยตัดสินใจลองทำกินเองดูไปซื้อเครื่องปรุงต่าง ๆ จากร้านคีโตเฮ้าส์มาเพราะว่าเวลาทำอาหารต้องใช้น้ำตาลอิริทริทอลรวมถึงเครื่องปรุงต่าง ๆ ต้องเป็นสูตรที่ชาวคีโตกินด้วย พอไปเจอกับตู้ขนมหวานก็ว้าวเลย เค้ก ขนมปังหน้าตาดูเหมือนขนมปกติทั่วไปมาก เราเลยจัดมาวันนั้นทั้งเซทเครื่องปรุงกับขนมปังคีโตหมดไป 2 พันกว่าบาท 😭
พอลองกินขนมปังดู อือหื้อออ หน้าตาใช่ก็จริงแต่รสชาติ+เนื้อสัมผัสไม่ได้เลย อารมณ์เหมือนกินฟองน้ำ T^T ส่วนอาหารการกินเราก็ทำเมนูพวกผัดผัก หมูย่าง ไก่ย่างสลับกันไป เพราะความจริงแล้วเป็นคนทำอาหารไม่เป็นเลย แต่กินได้สัก 3-4 วันเริ่มมีอาการหน้ามืดอีกแล้ว ถามคนอื่นเค้าบอกให้กินเกลือชมพูเราก็ไปหาซื้อมา
แค่ 2 วันก็จะตุยแล้วนะ 😂
กินได้สักพักเริ่มมีอาการผื่นขึ้น เค้าเรียกว่าผื่นคีโตรวมถึงมีอาการท้องผูกด้วย ซึ่งเราก็อดทนมาได้ประมาณ 10 วัน จนมีอยู่วันนึงไปเดินห้างแล้วของน่ากินเต็มไปหมดเลย วันนั้นเลยจบคอร์สคีโตไปด้วยการเข้าร้านกินเฟรนฟราย พอกินแล้วมันรู้สึกแฮปปี้มาก มีความสุขที่ได้กิน
ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะทำได้แต่เราต้องยอมรับเลยว่าเราใจยังไม่แข็งพอ ยังมีความสุขกับการได้กินของอร่อย ๆ (ที่ไม่มีประโยชน์) อยู่การลดน้ำหนักด้วยคีโตเลยจบไปเพียงเท่านี้ 😂 เพราะเอาจริง ๆ อาหารคีโตมันก็ถือว่าแพงสำหรับเราด้วย
สมัย 54 ดูไม่อ้วน แต่ก็ไม่ผอมมั้ยอะ (พุงเอย แขนเอย😢)
เราเลยลองหาวิธีการใหม่ ๆ ที่เหมาะกับตัวเราดู เอาที่เราทำแล้วสบายใจไม่ให้ร่างกายเครียดเกินไปก็เลยค้นพบวิธีใหม่อีกวิธีคือแค่ลดพวกแป้ง ขนมปัง ขนมเค้ก แล้วก็น้ำอัดลมเราจะไม่ดื่มเลย บวกกับออกกำลังกายคาดิโอเบา ๆ วันละ 15 นาที อาทิตย์นึงเราออกประมาณ 3-4 ครั้ง ตอนนี้ก็เป็นระยะเวลา 2 เดือนแล้วที่ทำแบบนี้น้ำหนักหายไป 5 โลตามเป้าจริง ๆ
แต่ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ด้วยว่าเราแอบใช้ตัวช่วยนิดหน่อยเพราะลำพังใจตัวเองยังไม่แข็งพอโดยกินอาหารเสริมตัวนึงเพื่อนแนะนำมาชื่อว่า Slenza กล่องสีแดง ๆ (ไม่ได้สปอนเซอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น)
สิ่งที่เห็นได้ชัดคือมันช่วยคุมหิวได้จริง แล้วเค้าบอกว่ามันช่วยเบิร์นไขมันด้วยไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า แต่ตอนนนี้ก็ถือว่าแฮปปี้มากที่น้ำหนักลงตามเป้า ถ่ายรูปมุมไหนก็รอด
เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังใจไม่แข็งพอเริ่มแรกอาจจะทำเหมือนเราก่อนก็ได้แค่ลดพวกแป้งแล้วก็น้ำอัดลม ถ้าในอนาคตเริ่มมีสกิลมากกว่านี้ค่อยขยับไปขั้นตอนต่อไปที่ยากกว่านี้ได้ จบการรีวิวความพยายามลดน้ำหนักด้วยการกินคีโตและทำ IF 😂