รักษาสิวฮอร์โมนมาหลายที่ แต่สิวก็ไม่ยอมหายสักที !! .ใครกำลังกลุ้มใจกับปัญหานี้อยู่บ้าง ลืมไปหรือเปล่าว่า “ฮอร์โมน” ที่อยู่ในร่างกายของเรา เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมฮอร์โมนได้ ฮอร์โมนเพศที่สูงขึ้นจึงเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดสิว
ฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้เกิดสิวได้อย่างไร?
ฮอร์โมนเพศ ในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด โดยระดับฮอร์โมนเพศที่สูงขึ้น ฮอร์โมนจะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้สร้างมามากอย่างผิดปกติ จนเกิดการอุดตันรูขุมขน และกลายมาเป็นสิวฮอร์โมนในที่สุด จากงานวิจัยพบว่า 65% ของคุณผู้หญิง มักมีสิวมากขึ้นในช่วงที่มีประจำเดือน ช่วงที่มีการตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดบุตรแล้ว ก็ยังมีปัญหาสิวฮอร์โมนขึ้นอยู่ เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนนั่นเอง
สิวขึ้นตรงไหน บอกว่านี่แหละใช่ “สิวฮอร์โมน”
ในร่างกายที่มีระดับฮอร์โมนเพศที่สูงขึ้นในช่วงมีประจำเดือน ในช่วงที่ตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดบุตรแล้ว คุณผู้หญิง จะสังเกตได้ว่าจะมี สิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ ขึ้นตรงคาง รอบปาก และกรอบหน้า เป็นส่วนใหญ่ ใครที่มีปัญหาสิวแบบนี้ จะรู้สึกว่า สิวขึ้นซ้ำๆ วนๆ สิวเก่ายังไม่ทันจะหาย แต่สิวใหม่ก็ขึ้นมาไม่หยุด ที่เห็นว่าสิวขึ้นซ้ำๆ เป็นเพราะพอสิวอักเสบเริ่มยุบลง แต่ยังทิ้งรอยแดงไว้ที่ผิว และถัดไปอีกไม่นานประจำเดือนก็กำลังจะมาอีก จึงเหมือนกับว่าสิวยังไม่ทันหายดี แต่ก็กำลังจะมีสิวใหม่เกิดขึ้นมาอีก นี่จึงเป็นปัญหากลุ้มใจของคุณผู้หญิงหลายๆ คน ที่รู้สึกว่าขึ้นอยู่วนๆ ซ้ำๆ อยู่ตรงที่เดิมไม่หายขาดสักที
อย่าใช้ !! ยาคุมรักษาสิวฮอร์โมน ถ้าคุณยังไม่รู้ถึงผลข้างเคียง
สาวๆ หลายคนที่เป็นสิว อาจมีความคิดที่อยากลองกินยาคุมกำเนิดเพื่อรักษาให้สิวหาย แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจใช้ยาคุมรักษา สิวอยากให้คุณได้ลองศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน เพราะยาคุมก็มีผลกระทบต่อร่างกายได้ หากกินไม่ถูกวิธีหรือไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เช่น การใช้ยาคุมรักษาปัญหาสิว จะเห็นผลค่อนข้างช้า โดยยาคุมจะเริ่มออกฤทธิ์หลังกินไปแล้วที่ประมาณ 3 เดือน และต้องกินต่อเนื่องนาน 6 - 12 เดือน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้ยาคุมกำเนิดได้ เพราะมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยงที่การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดอาจไม่เหมาะกับคุณ หากคุณเคยมีประวัติเกี่ยวกับลิ่มเลือด ความดันโลหิตสูง น้ำหนักเกินเกณฑ์หรือสูบบุหรี่ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ผิวหนังที่ยังมีอีกหลายวิธีรักษา ให้สิวหายโดยไม่ต้องพึ่งยาคุม กดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ 👩 4 เหตุผลที่ต้องรู้ ก่อนใช้ยาคุมรักษาให้สิวหาย
5 วิธีรักษาสิวฮอร์โมน ที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
สิวฮอร์โมน ถือได้ว่าเป็นสิวที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างมาก เพราะฮอร์โมนเป็นสิ่งที่อยู่ภายในร่างกาย ที่เรามองไม่เห็นและไม่สามารถควบคุมได้ด้วย ตัวช่วยที่ดีในการรักษาสิวฮอร์โมน ก็ต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกับวิธีการรักษาที่ตรงสาเหตุ เหมาะกับร่างกายของคุณ และที่สำคัญการรักษาจะต้องไม่ส่งผลเสียต่อผิวหน้าและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวอีกด้วย
BSL Clinic กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมานานกว่า 35 ปี กับวิธีการรักษา สิวทุกประเภท รวมถึงวิธีการรักษา สิวฮอร์โมนให้ดีขึ้นได้ โดยที่ไม่รบกวนระบบฮอร์โมนที่ดีของร่างกาย
1. ยากินคุมสิวฮอร์โมน ที่ไม่ใช่ยาคุมกำเนิด
หนึ่งสิ่งที่จำเป็น สามารถช่วยให้ผลลัพธ์สิวหาย ได้จริงนั่นคือการ “กินยา” โดยการกินยานั้นจะต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ที่รักษาเท่านั้น แพทย์จะวิเคราะห์สภาพผิว ประเมินความรุนแรงของสิวฮอร์โมน จะจ่ายยากินเพื่อคุมสิวฮอร์โมน การรักษาของที่บีเอสแอลจะเป็นยากินแบบที่ไม่ใช่ยาคุมกำเนิน โดยมีประสิทธิภาพที่ดี สามารถลดสิวฮอร์โมนได้ 50% - 100% ซึ่งจะช่วยลดความมันของผิว และลดโอกาสการปะทุของสิวอักเสบได้เป็นอย่างดี หลังจากการรักษาประมาณ 3 เดือน และสามารถรับประทานยานี้ต่อเนื่องได้จนครบโดสยา โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
2. ฉายแสงเลเซอร์ฆ่าเชื้อสิว ACNE LIGHT THERAPY
ACNE LIGHT THERAPY คือ เทคโนโลยีการฉายแสงบนผิวหน้าที่มีปัญหาสิว จากงานวิจัยแสงอินฟราเรดที่ความยาวคลื่น 633 นาโนเมตร เป็นช่วงคลื่นของแสงสีแดงถูกนำมาใช้ในต้านเชื้อแบคทีเรีย ซีแอคเน่ (C. acnes) สาเหตุสำคัญของการเกิดสิวอักเสบ US FDA องค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา รับรองว่าแสงนี้สามารถลดการอักเสบของสิว ลดความมันของผิวหน้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับสิวที่เป็นมานาน สิวดื้อยา เมื่อได้รับการรักษาด้วยการฉายแสงฆ่าเชื้อสิวอย่างสม่ำเสมอ นอกจากปัญหาสิวดีขึ้นแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
3. เลเซอร์สิว ตัวช่วยที่ทำให้สิวหายเร็วขึ้น
เลเซอร์ที่ช่วยรักษาให้สิวฮอร์โมน หายเร็วขึ้น ข้อดีที่ได้มากกว่าสิวหาย แต่คือสามารถเปลี่ยนผิวที่อ่อนแอ สิวขึ้นง่าย ให้กลับมาแข็งแรงได้จริง เพราะพลังงานเลเซอร์จะลงไปลดขนาดของต่อมไขมันให้มีขนาดเล็กลง ลดการอุดตันของผิว หยุดสาเหตุที่ผิวอุดตันจึงทำให้เกิดสิวอุดตันน้อยลง เมื่อสิวอุดตันน้อยลงปัญหาสิวอักเสบและความรุนแรงของสิวก็จะลดลงอีกด้วย และพลังงานเลเซอร์ยังลงไปช่วยกระตุ้นการสร้างผิวชั้นใหม่ ให้ได้เนื้อผิวใหม่ที่แข็งแรงขึ้น หลุมสิวตื้นลง รูขุมขนกระชับ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ BSL Clinic มีประสบการณ์ การปรับตั้งค่าพลังงานของเลเซอร์ fractional erbium glass laser ให้ตรงกับปัญหาสิวของคนไข้มากที่สุด ซึ่งเลเซอร์ตัวนี้เวลายิงที่ผิวหน้า จะไม่เป็นตารางเหมือนเลเซอร์ทั่วๆ ไป
4. เคลียร์สิวอุดตัน กดสิวอุดตันให้ออกจากผิว
อย่างที่บอก “สิวอุดตัน” เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิวต่างๆ ดังนั้นการเคลียร์สิวอุดตัน ด้วยการกดสิวออกด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการเทรนด์ฝึกอบรมมาเป็นอย่าดี สามารถช่วยลดโอกาสการพัฒนาของสิวอุดตันให้กลายเป็นสิวอักเสบ ที่ยากต่อการรักษาและหากปล่อยทิ้งไว้ก็ทำให้เกิดรอยแดงรอยดำสิว และหลุมสิวได้ด้วย สิวฮอร์โมนที่ชอบขึ้นตรงคาง รอบปาก และบริเวณกรอบหน้า หากส่วนใหญ่มีปัญหาสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ ร่วมกับสิวอุดตันแพทย์จะพิจารณาและอาจต้องมีการใช้ CO2 laser ในการเปิดหัวสิวอุดตันก่อน เพื่อทำให้การกดสิวนั้นออกง่ายขึ้น และไม่ทำให้ผิวเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารอันตรายต่อผิว
สิวฮอร์โมน สิวขึ้นที่คางซ้ำๆ BSL Clinic รักษาให้หายได้
ผลการรักษา สิวฮอร์โมนของ BSL จะเห็นได้ว่าผลลัพธ์หลังการรักษาที่ผ่านไปเพียง 3 เดือน สิวฮอร์โมนที่ขึ้นตรงคาง รอบปากและกรอบหน้า จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน คนไข้ที่เคยมีสิวฮอร์โมนจะรู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้น รูขุมขนกระชับ รอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิวก็หายไปด้วย ได้ผิวที่เรียบเนียนไร้สิวอุดตันและสิวอักเสบ และสามารถลดการเกิดสิวใหม่ ควบคุมการเกิดสิวบริเวณคางได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
เลือกแพทย์รักษา สิวฮอร์โมนให้สิวหายได้ ไม่เลี้ยงไข้
กดดูข้อมูลฟรี https://bslclinic.co.th/acne-treatment/
ปรึกษาปัญหาสิวกับผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
Line ID : @bslclinic **มี @ ข้างหน้า**
Line : https://line.me/ti/p/@bslclinic
Tel : 02-235-8858 📱 099-343-8666 📱098-289-7805