สวัสดีครับ วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์กำตังเข้าคลินิกครั้งแรก เพื่อรักษารูขุมขนกว้างกันครับ เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะมีปัญหาแบบเดียวกับผมแต่ไม่รู้ว่าจะรักษายังไงดี กระทู้นี้จะรีวิวให้ฟังแบบละเอียดเลย มาตามอ่านกันครับ
ขอเผยหน้าสดให้ดูก่อนครับ ปกติแล้วไม่ได้มีปัญหาผิวอะไรเป็นพิเศษ สภาพผิวผสม เป็นสิวบ้างนาน ๆ ที เวลาเป็นก็จะทิ้งร่องรอยอารยธรรมเอาไว้บ้าง แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรครับ คนรอบตัวทักว่าผมผิวดีด้วยซ้ำ ผิวดีกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก (อันนี้แฟนผมชอบบ่นให้ฟัง) แต่ถึงมองเผิน ๆ จะดูเหมือนผิวดี แต่ผมก็รู้สึกว่ามันดีไม่สุด ดีได้มากกว่านี้ และสิ่งที่ผมกังวลมาก ๆ ก็คือ “รูขุมขน” เจ้าปัญหานั่นเอง
หลังจากที่ศึกษาข้อมูลและอ่านรีวิวมาซักพัก ผมก็เลยตัดสินใจกำตังเข้าคลินิกครับ เพราะคิดว่ามันน่าจะเห็นผลไว เห็นผลชัดเจน และคิดว่าครีมน่าจะเอาไม่อยู่แล้วแหละ5555
พอไปถึงคลินิกผมก็นั่งรอคิวซักแปปนึง โชคดีที่ไปวันธรรมดาครับ คนไม่เยอะมาก ประมาณสิบกว่านาทีก็ได้พบคุณหมอ พอผมเข้าพบคุณหมอ ผมก็เล่าปัญหาที่อยากแก้ให้เขาฟัง ก็คือรูขุมขนบิ๊กเบิ้มนี่และฮะ แล้วหมอก็เริ่มประเมินผิวให้
สิ่งที่ผมประทับใจคือคุณหมอวิเคราะห์ปัญหาออกมาเป็นฉากๆ โดยแยกปัญหาทั้งหน้าเราออกมาเป็นข้อๆ เรียงลำดับความสำคัญ และวางแผนการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยที่อธิบายหลักการไปด้วย ว่าปัจจุบันปัญหาที่เราเป็นใช้อะไรแก้ไขถึงดีที่สุด ด้วยวิธีไหน รอนานแค่ไหนถึงเห็นผล
โดยปัญหาของผมคุณหมอวิเคราะห์ว่ามี 2 ด้าน คือ
1. ด้าน Texture หรือความเรียบเนียน
ปัญหาหลักของผมคือรูขุมขนกว้างอย่างที่กังวลมาตลอด หมอบอกว่าเกิดจากผิวผลิตน้ำมันมากเกินไป และคอลลาเจนที่ลดลงตามวัย รูขุมขนก็เลยใหญ่อย่างที่เห็น
มีหลุมสิวประเภท icepick ตื้น ๆ เล็กน้อย
2. ด้านเม็ดสี หมอบอกว่าผมมีรอยดำและรอยแดงประปราย ซึ่งมีต้นตอจากสิวที่หายไปแล้ว
พึ่งรู้นะครับว่าหน้าผมมีปัญหากว่าที่คิด 55555 แต่ผมประทับใจนะ เพราะคุณหมอเค้าละเอียดจริง ลืมบอกว่าเค้าถ่ายรูปผิวของผมเก็บเอาไว้ แล้วก็เอาปากกาขีด ๆ เขียน ๆ ในไอแพด วงให้ดูทีละจุดเลยว่าตรงนี้มีปัญหาอะไร ตรงนี้ต้องแก้เยอะหน่อยน้า ซึ่งมันดีมากครับ ทำให้เราตระหนักถึงปัญหาผิวที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เป็นประสบการณ์เข้าคลินิกครั้งแรกที่ว้าวมาก ตอนแรกคิดว่ามาถึงจะได้ทำเลย แต่ไม่ครับ ปรากฏว่าผมเม้ากับเค้าเป็นสิบนาที 555555
หลังจากคุยกับคุณหมอพอหอมปากหอมคอ ก็มาถึงการพูดคุยเกี่ยวกับขั้นตอนการรักษาครับ หมอแนะนำว่ากรณีรูขุมขนกว้างเนี่ยคิดถูกแล้วที่มาคลินิก เพราะครีมมันช่วยไม่ค่อยได้จริง ๆ ต้องเลเซอร์สถานเดียว ซึ่งเค้าแนะนำให้ผมทำ 2 ตัวคู่กันครับ ก็คือ Pico กับ Infini ซึ่งผมก็พอจะรู้จักแหละเพราะแอบไปอ่านรีวิวมา ตอนแรกยอมรับว่าผมเองก็ไม่คุ้นเหมือนกัน5555
2 ตัวนี้จะเหมาะกับคนที่เน้นรักษารูขุมขน เห็นผลไว ไม่ต้องพักหน้านาน น่าจะเหมาะกับปัญหาของผมครับ
สาเหตุที่หมอแนะนำให้ใช้เลเซอร์ 2 ตัว เพราะมันลงไปที่ความลึกไม่เหมือนกันครับ โดยความแตกต่างคือ Infini จะลงลึก ช่วยปรับโครงสร้างผิวด้านล่าง ทำให้ฐานรูขุมขนแคบลง หลาย ๆ คุ้นอาจจะคุ้นกับ Ematrix มากกว่าเพราะเป็นเทคโนโลยีเดียวกัน แต่ Infini จะลงได้ลึกกว่าครับ ส่วน Pico จะเน้นเกลี่ยผิวด้านบนให้ละเอียด ปรับรูขุมขนให้เรียบเนียนขึ้น แล้วก็ช่วยลดรอยดำ รอยแดงได้ด้วย (วิธีการรักษาของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันนะ ขึ้นอยู่กับคุณหมอประเมินครับ)
หลังจากคุยเสร็จเจ้าหน้าที่ก็มาป้ายยาชาให้ครับ รอยาชาออกฤทธิ์ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้เวลาเข้าห้องเชือด 5555 โดยสเตปการทำคือเริ่มจาก Pico ก่อน ต่อด้วย Infini ซึ่ง Pico เนี่ยไม่เท่าไหร่ ความรู้สึกเหมือนแค่โดนหนังยางดีดหน้าเท่านั้น แต่เครื่อง Infini เนี่ยแอบน่ากลัวอยู่นะ 5555 ลักษณะคือเค้าจะมีเข็มยื่นออกมา แล้วทุกครั้งที่ยิงก็จะมีเสียงดังตึ๊ง ๆ เหมือนกำลังสแตมป์อะไรซักอย่างบนหน้าเรา ถามว่าเจ็บมั้ย ก็มีน้ำตาลูกผู้ชายซึมบ้างนิดหน่อยฮะ แต่ก็พอทนได้ กัดฟันทนเอา555 หมอก็ใช้เวลาจิ้ม ๆ รูขุมขนจนสาแก่ใจ ตรงไหนรูขุมขนกว้างก็ย้ำเยอะหน่อย ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็เสร็จสิ้นภารกิจฮะ เข่าอ่อนกลับบ้าน
หลังจากกลับมาที่บ้านก็หน้าแดงพอสมควรเลย คุณหมอก็แนะนำให้งดโดนน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง งดทาสกินแคร์หรือกันแดดไปก่อนซัก 3 วัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรืออุดตัน (ถูกใจสายขี้เกียจแบบผมเลย) แต่หลังจากนั้นก็ให้ทาครีมบำรุงหน่อย ผิวจะได้ชุ่มชื้น
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ผมได้เข้ารับการรักษารูขุมขนอย่างสม่ำเสมอ เป็นจำนวน 5 ครั้งในเวลาครึ่งปี และนี่คือผลลัพธ์ที่ได้ครับ
แต่นแต๊นน นี่คือผลประกอบการหลังทำ Pico และ Infini ไปครบ 5 ครั้งครับ ตอนแรกผมไม่รู้สึกเท่าไหร่นะว่าผิวมันเปลี่ยนไป (แล้วไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายรีวิวด้วย เลยไม่ได้เก็บรูปไว้เลย) แต่พอลองเทียบหน้าตัวเองก่อนกับหลังทำ เห้ยมันเปลี่ยนจริง ๆ รูขุมขนผมแทบจะไม่มีอยู่เลย เอาจริงมั้ยผมยังไม่อยากเชื่อสายตาว่าผิว:-)ีขึ้นขนาดนี้เลยหรอ55555 ผิวใสวับเหมือนกระจกเลย ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับกับเงินที่เสียไป
สำหรับค่าเสียหาย ผมทำเป็น Pico 5 ครั้ง 37,500.- + Infini 5 ครั้ง 37,500.- ราคารวม 75,000.- พิกัดที่ DSK Clinic สาขารัชดาครับ ขึ้น MRT มาแล้วเจอเลย ใครมีปัญหาคล้าย ๆ ผมอยากให้ไปลองกันดูฮะ ที่เชียร์เพราะผลลัพธ์ที่ผมได้มันดีจริง ๆ อาจจะจ่ายหนักหน่อยแต่มันคุ้มค่า
สรุปแล้วนี่เป็นประสบการณ์เข้าคลินิกครั้งแรกที่โอเคเลย ประทับใจครับ คุณหมอเค้าวิเคราะห์ผิวละเอียดมาก แนะนำได้เป็นฉาก ๆ เลย สงสัยอะไรถามได้หมด และยิงแบบสะใจไม่มีกั๊ก ซึ่งสำหรับผมคิดว่าการที่เข้าไปแล้วได้เจอหมอวิเคราะห์ละเอียด วางแผนจริงจัง ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นว่าจะหายจริง ไม่ใช่เข้าไปแล้วต้องเลือกซื้อเองเป็นเมนูสปา หรือให้เซลล์มาขายอย่างเดียวโดยไม่ได้มีความรู้
ถ้าใครสงสัยอะไรลองไปดูข้อมูลหน้าเพจกันได้นะครับ (ผมทักหาแอดมินทางไอจี dsk.clinic) หรือถ้าใครอยากปรึกษาก็คอมเม้นท์ทิ้งไว้ได้เลย ยังไงวันนี้ไปแล้ว เจอกันใหม่กระทู้หน้าคร้าบ
| Tweet |