สวัสดีค่าเพื่อนๆ ทุกคนตอนนี้ใครกำลังเจอปัญหาเป็นสิวที่เดิมซ้ำๆ ซากๆ แบบณิชาบ้างมั้ยคะเป็นอะไรที่น่าเบื่อสุดๆ พอสิวอักเสบขึ้นมาก็ทิ้งรอยแดงรอยดำให้ดูต่างหน้ารอยยังไม่ทันจะหาย สิวเม็ดใหม่ก็โผล่ขึ้นมาอีกแล้ว ฮรืออออไม่มีสกินแคร์ตัวไหนช่วยได้เลยยย จนได้มาเจอกับ Arista wish นวัตกรรมวิตามินเพื่อลดการอักเสบของผิว
ออกตัวก่อนนะคะ โดยส่วนตัวแล้วปกติณิชาก็ไม่ได้มีปัญหาสิวอะไรมากมาย เพียงแต่ช่วงนี้หน้าร้อน ประกอบกับช่วงนี้ต้องใส่แมสทั้งวันรวมทั้งใกล้เวลานั้นของเดือน การมาของ 3 ขุนพลแห่งการเกิดสิวก็มาเยือนนะคะ
ทำให้เกิดสิวผด และสิวฮอร์โมนแถวๆคาง น่ารำคาญใจมากเลยค่ะแต่เลือกหาข้อมูลไปมาและมีเพื่อนแนะนำว่า อยากให้ลองทานและรีวิว Arista wish ให้หน่อย
ณิชาเลยไม่แค่หาข้อมูลไม่พอ ณิชาได้ติดต่อแบรนด์ไปคุย แรกสุดสิ่งที่ณิชาสนใจคือ แบรนด์เขาเครมว่าตัวนี้ทานได้ ไม่ดันสิว (ไม่เหมือนหลายแบรนด์ที่เขาไม่แน่ใจ) และแบรนด์เขาเครมว่าช่วยลดอักเสบได้ดีและเร็วมาก เพราะลดในระดับเซลล์ผิวกันเลย รวมทั้งช่วยลดการเกิดภูมิแพ้ ซึ่งช่วงนี้ ณิชากำลังมีปัญหาเหล่านี้เลยสนใจค่ะ
หลังจากนั้นก็เลยเริ่มจากหาข้อมูล เป็นแบรนด์ใหม่นะคะ แต่รีวิวค่อนข้างแน่น และเท่าที่อ่านจากรีวิวใน Shopee ที่ได้คะแนนแ 4.9 ดาวจากคนทานรวมๆ 200 กว่าคน (ทั้งแบบกระปุก, แบบรีฟิวส์) รวมทั้งจาก รีวิวใน Tiktok ราคาต่อกระปุกก็ไม่แพง และแบรนด์การันตีเห็นผล สำหรับสายรีวิวอย่างณิชา ก็เลยคิดว่า “ลองก่อน ลองดู”
Arissta wish หลักๆเท่าที่อ่านมาเขาเครมสารสกัดที่พิเศษและน่าสนใจอยู่ 1 ตัวซึ่งก็น่าจะเป็นพระเอกเขา นั้นคือ เอ็นไซม์ SOD C3 microencapsulation ซึ่งแตกต่างจาก สารสกัด SOD ทั่วไปนะเพื่อนๆ
โดยสรุปคือ เอ็นไซม์ SOD C3 microencapsulation จะมีประสิทธิภาพมากกว่าสารสกัด SOD ทั่วไป ( เพื่อนๆ สามารถอ่านได้อย่างละเอียดตามข้อความด้านล่างที่ณิชาคัดลอกมาจากการสอบถามทาง Brand ค่ะ )
ปกติอาหารเสริมทั่วไปใช้จะเป็นสารสกัด Sod หรือที่เรียกว่า Sod compound หรือสารที่มีโครงสร้างคล้ายๆ sod ซึ่งปกติเวลาเราทาน สารสกัด sod จะโดนกรดในกระเพาะอาหารทำลายคุณค่า แต่ Sod C3 microencapsulation ที่ Arista ใช้จะแตกต่างเพราะ
1. เป็นเอ็นไซม์ที่มีโครงสร้างเหมือนโมเลกุล เอ็นไซม์ Sod ในร่างกายที่ทำหน้าที่ปฐมภูมิของระบบต้านอนุมูลอิสระ คือ เหนือมากกว่าสารต้านอนุมูลอิสระ 1,000,000 เท่า
2. นวัตกรรมของเอ็นไซม์ Sod C3 microencapsulation คือ จะนำโมเลกุลของ เอ็นไซม์ Sod c3 มาเคลือบด้วยโมเลกุลของน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ทำให้เวลาเราทานเข้าไปจะไม่ถูกทำลายคุณค่า เหมือนสารสกัด Sod ทั่วไป และร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที
ด้วยความแตกต่างของทั้งสองอย่างนี้ ทำให้ sod C3 ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ Bionov ได้รับรางวัลชนะเลิศด้านนวัตกรรมสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในระดับโลกถึง 3 รางวัล ด้วยนะคะ
รวมทั้งในผลิตภัณฑ์นี้ ยังมีการใส่สารสกัดนวัตกรรมที่สำคัญอีก 2 อย่าง เพื่อให้เหมาะกับผู้หญิงที่มีปัญหา สิว ผิวอักเสบ และฝ้า กระ โดยเฉพาะ
นั่นคือ Rice ceramide เมื่อร่างกายดูดซึมจะทำการกระตุ้นการสร้าง Ceramide ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะของผิวป้องกันการอักเสบของผิว
และ Curcumin C3 ที่เป็นขมิ้นชันที่มีการปรับปรุงโมเลกุลทางเภสัชกรรมทำให้ร่างกายดูดซึมสาระสำคัญที่ดีๆมีประโยชน์ได้ง่าย และปลอดภัยที่ทำหน้าที่สารต้านอนุมูลอิสระในขั้นสูง ที่ช่วยในการลดการอักเสบเรื้อรังทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นโดยง่าย
นี้ไม่รวมวิตามินเด่นๆ เช่น วิตามมินซี, ซิงค์, แมกนีเซียม และสารสกัดอื่นๆอีก 10 ชนิดที่จะช่วยกันทำงานในการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของ SOD ในการลดการอักเสบ พร้อมเพิ่มความกระจ่างใส รอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิวอีกด้วย
งั้นเราก็จะมาเริ่มทาน ซึ่งการทานณิชาก็ไม่พลาดที่จะไปสอบถามให้เพื่อนๆ ด้วยนะคะ
ทางแบรนด์แจ้งวิธีการทานดังนี้ค่ะ
ฝ้า กระ สิว ทานวันละ 2-4 แคปซูล หลังอาหารเช้า และเย็น ในช่วง 3 วันแรกหลังจากนั้นสามารถปรับลดลงมา 2-3 แคปซูล ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรง
หน้าที่หลักคือ ลดการอักเสบของผิว
1. ดังนั้นตัวนี้ไม่ดันสิวค่ะ
2. ถ้าเป็นสิวอักเสบเรื้อรังจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อยีสต์จะต้องมีการทาเวชสำอางค์ (เช่น Benzac+Clinda mสำหรับสิวที่ติดเชื้อแบคทีเรียหรือ Nizoral cream สิวที่ติดเชื้อยีสต์ จะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3. ในการรักษาสิวที่เป็นจากผื่นแพ้ ผิวผด ผิวที่เกิดจาก ฮอร์โมนจะเห็นผลที่ค่อนข้างจะเร็วภายใน 24-48 ชม. แต่การทานจะต้องทานหลังอาหารเช้าและเย็น ส่วนสิวอักเสบต่อมไขมันอักเสบ จะต้องมีการทำหัตกรรมเช่น มีหัวต้องกดออก แล้วทายาทาแผลสดเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อนเช่น เบตาดีน เป็นต้น
แนะนำทานต่อเนื่องไปจน กระบวนการเกิดสิวลดลง แล้วปรับลดค่ะหรือหากเป็นจากภายใน เช่น สิวเกิดจากฮอร์โมนอาจจะทานจนกว่าปัจจัยด้านความสมดุลของฮอร์โมนดีขึ้นจึงปรับลดลง
ด้านการทานเพิ่อบรรเทา ฝ้ากระ ทาน 2-3 แคปซูล ไปสัก 14-20 วันจะสังเกตว่าฝ้า กระจะลดลงประมาณ 40-88% ขึ้นอยู่กับความหนา ให้ลดจนพอใจแล้วปรับลดได้
ช่วงดูแลฝ้า กระ แนะนำทาครีมกันแดด ที่ค่า SPF 35+ Pa +++ หรือ SPF 50 Pa+++ และขอให้ดื่มน้ำเยอะๆ
ในส่วนผสมของ Arista wish จะประกอบไปด้วยขมิ้นชันและพริกไทยดำแบบเข้มข้นจึงแนะนำให้ทานน้ำให้เยอะๆ ป้องการแคปซูลแตกในคอ เดี่ยวจะเผ็ดๆ ได้ค่ะ
และที่ว๊าวมากคือ Arista wish ยังช่วยดูแลสุขภาพในด้านอื่นๆด้วยเช่นภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ภูมิแพ้ การอักเสบในด้านอื่น รวมทั้งปรับสมดุลการขับถ่าย
หากเพื่อนๆคนไหนที่ทานมีปัญหา ด้านลำไส้ ถ่ายไม่สุด มีการติดไฟเบอร์ดีท๊อก Arista wish สามารถช่วยฟื้นฟูระบบลำไส้ได้ แนะนำทานคู่กับยาหอม 5 พระเจดีย์เพิ่มนะคะ
อ่ออีกอย่าง ตัวนี้ไม่เหมาะกับเพื่อนที่มีปัญหา นิ่วในไต และ โรคเลือดธารัสซิเมียร์นะคะ ถ้าเพื่อนคนไหนมีปัญหาอย่างไรสามารถติดต่อสอบถามทางแบรนด์ได้เลย เขาให้บริการดีมาก ตอบคำถามได้ดีมากค่ะ
หลังจากที่ณิชาทานต่อเนื่องเป็นประจำ ณิชารู้สึกว่าผิวหน้าของณิชาแข็งแรงสิวไม่ขึ้นง่ายเหมือนเมื่อก่อน รอยผื่นและสิวดีขึ้น หายไวขึ้น ผิวหน้าเรียบเนียนนุ่มชุ่มชื้น รู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้น ประมาณ 1-2 เบอร์ โดยที่ณิชาไม่ได้เปลี่ยนครีมหรืออะไรเลยค่ะ และที่สำคัญอยากกริ๊ดมากคือ กระแถวแก้มจางลงอีกด้วยค่ะ
ณิชาเลือกทานแค่ Arista wish กระปุกนี้ กระปุกเดียวจบ หมดปัญหาสิวเลยค่ะ
ช่องทางที่เพื่อนๆ สามารถแวะไปสอบถามได้เลย
Line : @aristaofficial
Shopee : Arista official shop
ถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนสนใจ สามารถสั่งซื้อมาลองทานกันได้น้า ยังไงวันนี้ณิชาขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ค่า บ๊ายบายย >//<