1.เลือกสี
สีหลักที่เรามักพบเห็นในการตกแต่งห้องนอนวินเทจบ่อย ๆ คงหนีไม่พ้นโทนสีพาสเทลอ่อนหวาน เช่น สีชมพูอ่อน ฟ้าอ่อน สีครีม และสีพาสเทลอื่น ๆ ซึ่งเป็นโทนสีที่ทำให้รู้สึกถึงความอ่อนหวาน นุ่มละมุน สบายตา ไม่ฉูดฉาด แต่หากคุณเป็นผู้ชายหรือต้องการสีที่ให้อารมณ์ความรู้สึกสงบ หนักแน่น ลองเลือกใช้ของตกแต่งสีน้ำเงินเข้ม สีเขียวเข้ม หรือสีไม้เข้ม ก็จะได้อีกความรู้สึกที่เป็นวินเทจเช่นกัน
2.เลือกลวดลาย
เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งสไตล์วินเทจส่วนใหญ่มักจะเป็นของที่มีลวดลายสลัก ฉลุ หรือพิมพ์ไว้ เช่น หัวเตียงและโครงเตียงที่มีการแกะสลักหรือฉลุหรือลวดลาย โต๊ะเครื่องแป้งวินเทจ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเก้าอี้ ลิ้นชัก ฯลฯ นอกจากนี้การเลือกใช้ของตกแต่งที่มีลวดลายขลิบทองก็จะช่วยเพิ่มความคลาสสิคและหรูหราให้ห้องของคุณได้ด้วย
3.เลือกใช้ลูกไม้
ลองเปลี่ยนของตกแต่งห้องนอนวินเทจของคุณที่เป็นผ้า เช่น ผ้าม่าน ผ้าคลุมโต๊ะ ปลอกหมอน หรือของตกแต่งที่มีดีเทลเป็นผ้า ให้เป็นผ้าลูกไม้สีขาวหรือสีครีม ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศของความวินเทจและคลาสสิคให้แก่ห้องคุณได้มากขึ้น
4.เลือกลายดอกไม้
ของตกแต่งลายดอกไม้หาซื้อได้ง่ายมาก ลายดอกมีแพทเทิร์นของดอกไม้และสีต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย แม้ว่าลายดอกอาจเข้ากันไม่ได้กับสไตล์โมเดิร์นอื่น ๆ และอาจดูเชยหากอยู่ไม่ที่ แต่สำหรับการตกแต่งห้องนอนวินเทจนั้นเรียกได้ว่าเกิดมาคู่กันเลย หากคุณเลือกใช้ผ้าปูเตียงนอน ผ้าห่ม หมอนอิง ผ้าปูโต๊ะ กล่องใส่ทิชชู่ ผ้าม่าน ฯลฯ ให้เป็นลายดอกไม้ ก็สามารถเปลี่ยนห้องธรรมดา ๆ ของคุณให้กลายเป็นสไตล์วินเทจได้ง่าย ๆ แล้ว
สรุป
ของตกแต่งที่เข้ากันได้ดีกับเตียงวินเทจนั้นหาได้ไม่ยากเลย เพียงคุณรู้จักหยิบชิ้นนั้น จับชิ้นนี้มามิกซ์แอนด์แมตช์ ก็จะได้ห้องนอนในสไตล์ที่เป็นของตัวคุณเองแบบไม่ซ้ำใคร และที่สำคัญสไตล์วินเทจนั้นคลาสสิคตลอดกาล คุณอาจลองชวนคุณพ่อคุณแม่ช่วยกันเลือกของตกแต่งห้องนอนวินเทจด้วยกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความชอบและได้ใช้ช่วงเวลาร่วมกันในครอบครัว
▲