สำหรับคนที่มีใต้ตาคล้ำ ร่องตาลึก ตาโบ๋ มีริ้วรอย ที่คอยเป็นปัญหากวนใจ ทำให้ขาดความมั่นใจ ลองหาวิธีแก้ไขหลายอย่างแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักที การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกวิธีทางหนึ่งที่ดีและเห็นผลได้ไวสำหรับคนมีปัญหาเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตามการฉีดฟิลเลอร์ควรฉีดในปริมาณที่พอดีไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บทความนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาฝากว่าควรจะฉีดกี่ซีซีดี ถึงจะทำให้เห็นผลได้อย่างธรรมชาติ ไปดูกันเลย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสาร Hyaluronic Acid หรือ HA ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารจากธรรมชาติ ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายกับคอลลาเจน ช่วยให้เนื้อบริเวณใต้ตาที่หย่อนคล้อย ดูมีอายุ กลับมาสดใส และดูชุ่มชื้นขึ้นได้อีกครั้ง นอกจากนั้นยังช่วยสร้างดอลลี่อายให้กับคนที่อยากมีดวงตาหวานละมุนอีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์กี่ซีซี ถึงจะเห็นผลธรรมชาติ
ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาของแต่ละคน เพราะแต่คนจะใช้ปริมาณสารที่เติมเข้าไปไม่เท่ากัน แต่ปกติแล้วจะใช้อยู่ที่ 1-3 CC หากคนไข้มีปัญหาใต้ตายุบลงเยอะ แพทย์อาจจะพิจารณาให้ใช้สารเติมเต็ม 4 CC หรือมากกว่าการรักษาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ดังนั้นการเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะจะได้ทราบจำนวนฟิลเลอร์ที่ต้องใช้และราคาที่ต้องจ่ายก่อนล่วงหน้า
ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการเติมสารเพื่อเข้าไปทดแทนคอลลาเจน และเยื่อใต้ตาที่สลายไป และช่วยแก้ไขปัญหาอื่นๆ ดังนี้
1. ช่วยลดปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ที่เกิดจากการนอนดึก หรือโรคภูมิแพ้
2. ช่วยลดปัญหาริ้วรอยใต้ตา ให้กลับมาเรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น
3. ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา ทำใหตื้นขึ้น และให้หน้าเด็กลง
4. ช่วยเติมเต็มผิวหนังที่ยุบตัวลง หรือร่องใต้ตาที่ลึก ให้ตื้น และเต่งตึงขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง
· เหมาะกับคนที่นอนดึก ขอบตาดำ บำรุงด้วยวิธีอื่นๆแล้วไม่ดีขึ้น
· เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยใต้ตา
· เหมาะกับคนที่มีใต้ตาคล้ำ ร่องใต้ตาลึก ตาโบ๋
· เหมาะกับคนที่มีอายุมากขึ้น ทำให้กระดูกใต้ตายุบลง
· เหมาะกับคนที่อยากเติมความชุ่มชื้นผิวใต้ตา ให้ดูสดใส
ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาลึก คล้ำ เกิดจากอะไร
1.โรคภูมิแพ้ เกิดจากระบบการทำงานไหลเวียนของเลือด ปกติแล้วเลือดจะไหลเวียนจากตาลงมาที่หัวตาและลงมาที่จมูก เมื่อการไหลเวียนของเลือดถูกปิดกั้น จึงทำให้เลือดไปคลั่งอยู่ที่ตาทำให้ตาคล้ำ
2.นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุสำคัญของใต้ตาคล้ำ และนอกจากนี้ยังมักทำให้ตาบวมอีกด้วย
3.อายุมากขึ้น เมื่ออายุเริ่มเยอะขึ้น ไขมันหรือกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาจะยุบลง ทำให้ร่องตาลึก
4.พันธุกรรม เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดใต้ตาคล้ำที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเกิดมาจากโครงสร้างทางพันธุกรรม
ถุงใต้ตา สามารถรักษาด้วยฟิลเลอร์ใต้ตาได้ไหม
สามารถรักษาได้ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ตา และเป็นการทดแทนเนื้อเยื้อที่สลายไป ทำให้ร่องตาที่ลึก ดูตื้นขึ้น ถุงใต้ตาหายไป เป็นการช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตากลับมาเต่งขึ้นอีกครั้ง
แนะนำยี่ห้อ ฟิลเลอร์ใต้ตา
ปัญหาใต้ตาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงจำเป็นต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่ต่างกันออกไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์กับปัญหาที่มีอย่างตรงจุด ฟิลเลอร์ที่แนะนำคือยี่ห้อ Restylane ที่มี 4 รุ่นที่เหมาะกับการฉีดใต้ตาดังนี้
-Restylane dyfyne ช่วยกระชับผิว เหมาะผู้ที่มีผิวบาง รูขุมขนเล็ก และผิวละเอียด
-Restylane classic สามารถอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวชุ่มชื้น
-Restylane lyft ช่วยยกพยุงผิว ลดปัญหาถุงใต้ตาและร่องน้ำตาลึก
-Restylans Vital light ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เหมาะสำหรับฉีดผิวชั้นตื้น
ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาจจะมีรอยแดง บวมช้ำ หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่จะสามารถหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
หากมีการขยับบ่อยๆ ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ จะทำให้มีการเคลื่อนตัวของเนื้อฟิลเลอร์จากตำแหน่งที่ฉีด ไปยังตำแหน่งใกล้เคียง อาจทำให้ใต้ตาผิดรูป ไม่สวย
ใต้ตาจะมีลักษณะบวม และเป็นก้อน หากแพทย์ที่ทำการรักษานั้นไม่มีความเชี่ยวชาญ ใช้ฟิลเลอร์ในบริมาณที่มากเกินไป
หากไม่มีความเชี่ยวชาญในการฉีด อาจทำให้ฟิลเลอร์อุดตันหลอดเลือดแดง จนนำเลือดไปเลี้ยงที่จอประสาทตาและอาจทำให้ตาบอดได้ จึงจำเป็นที่ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์มากเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเอง
สาเหตุใต้ตาเป็นก้อน หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ปัญหาที่พบบ่อยหลังจากาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือฟิลเลอร์เป็นก้อน ซึ่งมีสาเหตุหลักๆ มีดังนี้
เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับปัญหาที่มี เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาเป็นก้อน
ใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณที่มาเกินไปกับปัญหาที่มี ทำให้ใต้ตาบวม เป็นก้อน
แพทย์ที่ทำหัตถการไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจเกิดการฉีดบริเวณผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้เป็นก้อน
การเลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือซิลิโคนเหลว ที่ไม่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ อาจมีการไหลรวมกันเป็นก้อน อันตรายต่อบริเวณดวงตา ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ และแพทย์ต้องโชว์กล่องให้ดูทุกครั้งก่อนทำหัตถการ
ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อดี :
· สามารถลดปัญหาขอบตาดำ รอยคล้ำบริเวณใต้ตา
· ช่วยให้ริ้วรอยใต้ตาหายไป
· ทำให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น
· ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลามากพอสำหรับการพักฟื้นผ่าตัดศัลยกรรม
· ตัวยาฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตราย
ข้อเสีย:
· ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถาวร เนื่องจากเป็นตัวยาเป็นสารที่สลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้ไปตลอด ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ
· มีฟิลเลอร์ปลอมเยอะมาก ต้องเช็กให้ละเอียดก่อนเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย
· ต้องศึกษาข้อมูลของชนิดของฟิลเลอร์ให้ดี เพื่อให้เหมาะสมกับบริเวณที่ใช้ และจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมิน ก่อนฉีดทุกครั้ง
· เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
· ต้องฉีดด้วยแพทย์ที่มีใบประกอบอาชีพเท่านั้น
· ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น โดยก่อนฉีดแพทย์ต้องเปิดกล่องโชว์ก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของแท้แน่นอน
· มีรีวิวจากผู้ใช้จริง จากช่องทางต่างๆ ที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ที่จะได้
สรุป
ปัญหาใต้ตาของแต่ละคนนั้นมีไม่เหมือนกัน บางคนตาลึก บางคนขอบตาดำ หรือบางคนอาจจะมีริ้วรอยใต้ตาเยอะ จึงสรุปได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติในปริมาณเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาของแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่แล้วจะแพทย์ผู้ทำหัตถกาจะปริมาณฟิลเลอร์ ไม่เกิน 1-4 ซีซี โดยจะไม่น้อยและไม่มากเกินไปทำให้ใต้ตา ดูเป็นธรรมชาติ
ที่มา
https://www.thansettakij.com/pr-news/health/539510
https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/beauty/527407
https://www.springnews.co.th/lifestyle/829101
Tweet |