ฟิลเลอร์ใต้ตาควรฉีดกี่ซีซีถึงจะเห็นผลอย่างเป็นธรรมชาติ
Room : How To
pd141261 | ผิวธรรมดา | 25-29 Yrs | 0 รีวิว 17/01/2023 16:12     



สำหรับคนที่มีใต้ตาคล้ำ ร่องตาลึก ตาโบ๋ มีริ้วรอย ที่คอยเป็นปัญหากวนใจ ทำให้ขาดความมั่นใจ ลองหาวิธีแก้ไขหลายอย่างแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักที การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกวิธีทางหนึ่งที่ดีและเห็นผลได้ไวสำหรับคนมีปัญหาเหล่านี้  แต่อย่างไรก็ตามการฉีดฟิลเลอร์ควรฉีดในปริมาณที่พอดีไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บทความนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาฝากว่าควรจะฉีดกี่ซีซีดี ถึงจะทำให้เห็นผลได้อย่างธรรมชาติ ไปดูกันเลย



ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร


การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสาร Hyaluronic Acid  หรือ HA  ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารจากธรรมชาติ ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายกับคอลลาเจน ช่วยให้เนื้อบริเวณใต้ตาที่หย่อนคล้อย ดูมีอายุ กลับมาสดใส และดูชุ่มชื้นขึ้นได้อีกครั้ง นอกจากนั้นยังช่วยสร้างดอลลี่อายให้กับคนที่อยากมีดวงตาหวานละมุนอีกด้วย




ฉีดฟิลเลอร์กี่ซีซี ถึงจะเห็นผลธรรมชาติ


ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาของแต่ละคน เพราะแต่คนจะใช้ปริมาณสารที่เติมเข้าไปไม่เท่ากัน แต่ปกติแล้วจะใช้อยู่ที่  1-3  CC หากคนไข้มีปัญหาใต้ตายุบลงเยอะ แพทย์อาจจะพิจารณาให้ใช้สารเติมเต็ม 4 CC หรือมากกว่าการรักษาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ดังนั้นการเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะจะได้ทราบจำนวนฟิลเลอร์ที่ต้องใช้และราคาที่ต้องจ่ายก่อนล่วงหน้า


ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง


การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการเติมสารเพื่อเข้าไปทดแทนคอลลาเจน และเยื่อใต้ตาที่สลายไป และช่วยแก้ไขปัญหาอื่นๆ ดังนี้


1.      ช่วยลดปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ที่เกิดจากการนอนดึก หรือโรคภูมิแพ้

2.      ช่วยลดปัญหาริ้วรอยใต้ตา ให้กลับมาเรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น

3.      ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา ทำใหตื้นขึ้น และให้หน้าเด็กลง

4.      ช่วยเติมเต็มผิวหนังที่ยุบตัวลง หรือร่องใต้ตาที่ลึก ให้ตื้น และเต่งตึงขึ้น


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง


·    เหมาะกับคนที่นอนดึก ขอบตาดำ บำรุงด้วยวิธีอื่นๆแล้วไม่ดีขึ้น

·    เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยใต้ตา 

·    เหมาะกับคนที่มีใต้ตาคล้ำ ร่องใต้ตาลึก ตาโบ๋

·    เหมาะกับคนที่มีอายุมากขึ้น ทำให้กระดูกใต้ตายุบลง

·    เหมาะกับคนที่อยากเติมความชุ่มชื้นผิวใต้ตา ให้ดูสดใส


ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาลึก คล้ำ เกิดจากอะไร


1.โรคภูมิแพ้ เกิดจากระบบการทำงานไหลเวียนของเลือด ปกติแล้วเลือดจะไหลเวียนจากตาลงมาที่หัวตาและลงมาที่จมูก เมื่อการไหลเวียนของเลือดถูกปิดกั้น จึงทำให้เลือดไปคลั่งอยู่ที่ตาทำให้ตาคล้ำ

2.นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุสำคัญของใต้ตาคล้ำ  และนอกจากนี้ยังมักทำให้ตาบวมอีกด้วย

3.อายุมากขึ้น เมื่ออายุเริ่มเยอะขึ้น ไขมันหรือกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาจะยุบลง ทำให้ร่องตาลึก

4.พันธุกรรม  เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดใต้ตาคล้ำที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเกิดมาจากโครงสร้างทางพันธุกรรม

 

ถุงใต้ตา สามารถรักษาด้วยฟิลเลอร์ใต้ตาได้ไหม

 

สามารถรักษาได้ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ตา และเป็นการทดแทนเนื้อเยื้อที่สลายไป ทำให้ร่องตาที่ลึก ดูตื้นขึ้น ถุงใต้ตาหายไป เป็นการช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตากลับมาเต่งขึ้นอีกครั้ง


แนะนำยี่ห้อ ฟิลเลอร์ใต้ตา


ปัญหาใต้ตาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงจำเป็นต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่ต่างกันออกไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์กับปัญหาที่มีอย่างตรงจุด ฟิลเลอร์ที่แนะนำคือยี่ห้อ Restylane ที่มี 4 รุ่นที่เหมาะกับการฉีดใต้ตาดังนี้


-Restylane  dyfyne  ช่วยกระชับผิว เหมาะผู้ที่มีผิวบาง รูขุมขนเล็ก และผิวละเอียด

-Restylane  classic สามารถอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวชุ่มชื้น

-Restylane  lyft ช่วยยกพยุงผิว   ลดปัญหาถุงใต้ตาและร่องน้ำตาลึก

-Restylans Vital light  ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เหมาะสำหรับฉีดผิวชั้นตื้น


ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา


อาจจะมีรอยแดง บวมช้ำ หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่จะสามารถหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์


หากมีการขยับบ่อยๆ ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ จะทำให้มีการเคลื่อนตัวของเนื้อฟิลเลอร์จากตำแหน่งที่ฉีด ไปยังตำแหน่งใกล้เคียง อาจทำให้ใต้ตาผิดรูป ไม่สวย

ใต้ตาจะมีลักษณะบวม และเป็นก้อน หากแพทย์ที่ทำการรักษานั้นไม่มีความเชี่ยวชาญ ใช้ฟิลเลอร์ในบริมาณที่มากเกินไป


หากไม่มีความเชี่ยวชาญในการฉีด อาจทำให้ฟิลเลอร์อุดตันหลอดเลือดแดง จนนำเลือดไปเลี้ยงที่จอประสาทตาและอาจทำให้ตาบอดได้ จึงจำเป็นที่ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์มากเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเอง


สาเหตุใต้ตาเป็นก้อน หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา


ปัญหาที่พบบ่อยหลังจากาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือฟิลเลอร์เป็นก้อน ซึ่งมีสาเหตุหลักๆ มีดังนี้

เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับปัญหาที่มี เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาเป็นก้อน

ใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณที่มาเกินไปกับปัญหาที่มี ทำให้ใต้ตาบวม  เป็นก้อน

แพทย์ที่ทำหัตถการไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจเกิดการฉีดบริเวณผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้เป็นก้อน

การเลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือซิลิโคนเหลว ที่ไม่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ อาจมีการไหลรวมกันเป็นก้อน อันตรายต่อบริเวณดวงตา ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ และแพทย์ต้องโชว์กล่องให้ดูทุกครั้งก่อนทำหัตถการ


ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา


ข้อดี :

·   สามารถลดปัญหาขอบตาดำ รอยคล้ำบริเวณใต้ตา

·   ช่วยให้ริ้วรอยใต้ตาหายไป

·   ทำให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น

·   ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลามากพอสำหรับการพักฟื้นผ่าตัดศัลยกรรม

·   ตัวยาฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตราย


ข้อเสีย:

·   ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถาวร เนื่องจากเป็นตัวยาเป็นสารที่สลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้ไปตลอด ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ

·   มีฟิลเลอร์ปลอมเยอะมาก ต้องเช็กให้ละเอียดก่อนเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง


เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย

·    ต้องศึกษาข้อมูลของชนิดของฟิลเลอร์ให้ดี เพื่อให้เหมาะสมกับบริเวณที่ใช้ และจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมิน ก่อนฉีดทุกครั้ง

·    เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

·    ต้องฉีดด้วยแพทย์ที่มีใบประกอบอาชีพเท่านั้น

·    ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น โดยก่อนฉีดแพทย์ต้องเปิดกล่องโชว์ก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของแท้แน่นอน

·    มีรีวิวจากผู้ใช้จริง จากช่องทางต่างๆ ที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ที่จะได้


สรุป

ปัญหาใต้ตาของแต่ละคนนั้นมีไม่เหมือนกัน บางคนตาลึก บางคนขอบตาดำ หรือบางคนอาจจะมีริ้วรอยใต้ตาเยอะ จึงสรุปได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติในปริมาณเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาของแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่แล้วจะแพทย์ผู้ทำหัตถกาจะปริมาณฟิลเลอร์ ไม่เกิน 1-4 ซีซี โดยจะไม่น้อยและไม่มากเกินไปทำให้ใต้ตา ดูเป็นธรรมชาติ


ที่มา

https://www.thansettakij.com/pr-news/health/539510

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/beauty/527407

https://www.springnews.co.th/lifestyle/829101





Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -