ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี เหมาะกับปัญหาแบบไหน
เทรนด์ปากรูปทรงต่างๆไม่ว่าจะเป็น อวบอิ่มดูเซ็กซี่ เล็กๆดูน่าจุ้บ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สาวๆเลือกใช้ในการปรับรูปปาก เพื่อแก้ไขปัญหาปากต่างๆ และช่วยให้รูปทรงตามที่ต้องการ แต่ทั้งนี้การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากให้เหมาะกับปัญหาปากที่มีเป็นสิ่งสำคัญ ควรศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนเลือกทำหัตถการนี้บทความนี้จึงนำข้อมูลของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมาฝากเพื่อประกอบการตัดสินใจกัน
ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการเติมสาร Hyaluronic Acid เพื่อเข้าไปช่วยปรับรูปปากที่ไม่ได้สัดส่วน ให้ดูอวบอิ่ม ได้รูปทรงที่สวยมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าดุให้กลับมาสดใส ดูเซ็กซี่ขึ้น โดยจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ
ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อไหนดี แล้วเหมาะกับปัญหาแบบไหน
รูปปากของคนเรานั้นมีปัญหาที่ต่างกัน ไม่ว่าเช่นเป็น ปากตกร่อง มุมปากตก ริมฝีปากแห้ง ปากบาง เราเลยมีคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมาให้เลือกเพื่อให้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
- Juvederm Volift ( ฟิลเลอร์จากอเมริกา สามารถอยู่ได้ 12 เดือน )
เนื้อจะค่อนข้างฟู มีความนิ่มเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีปากอิ่มฟู ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
- Juvederm Vobella ( สามารถอยู่ได้ 8-12 เดือน )
มีเนื้อค่อนข้างนิ่ม ให้ความรู้สึกเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก
- Restylane Vital light ( ฟิลเลอร์จากสวีเดน สามารถอยู่ได้ 6 เดือน )
เป็นฟิลเลอร์เนื้อเจล นิ่มมาก ฟิลเลอร์รุ่นนี้จะผสมยาชาด้วย สามารถแก้ปัญหาปากได้แม้จะเป็นจุดเล็ก ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปากเป็นร่อง
- Restylane Classic ( ฟิลเลอร์จากสวีเดน สามารถอยู่ได้ 6-8 เดือน )
เป็นเนื้อเจล มีความแข็งแรง สามารถปั้นเป็นรูปทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาปากดูไม่เป็นธรรมชาติ
- Restylane Kysse ( ฟิลเลอร์จากสวีเดน สามารถอยู่ได้ 12 เดือน )
ฟิลเลอร์รุ่นนี้จะช่วยให้ปากได้รูปทรง เพิ่มความชุ่มชื้น ดูมีสุขภาพดี โดยเนื้อฟิลเลอร์ค่อนข้างนิ่ม เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาปากแห้ง
· Restylane Defyne ( ฟิลเลอร์จากสวีเดน สามารถอยู่ได้ 12 เดือน )
เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งกว่าฟิลเลอร์ตัวอื่นๆ สามารถปั้นรูปทรงได้ดี เหมาะกับคนที่มีปัญหาปากไม่เป็นทรง บาง ช่วยให้ปากได้รูป และดูอวบอิ่มขึ้น
ฟิลเลอร์ปาก มีกี่ทรง แบบไหนบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ปากคือการฉีดสารเข้าไปเติมเต็ม เพื่อให้ได้รูปปากที่ต้องการ ซึ่งจะมี 3 ทรงด้วยกัน ดังนี้
1.ปากกระจับ จะมีลักษณะคล้ายปีกนก มุมปากทั้งบนและล่างจะยกขึ้นได้รูปทรงสวยรับกับรูปหน้า รูปปากทรงนี้จะช่วยให้หน้าดูมีมิติ และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่เรียบ ไม่บางจนเกินไป เป็นทรงที่คนนิยม
2.ปากสายฝอ จะมีลักษณะอวบอิ่ม ช่วยให้ปากดูเซ็กซี่ขึ้น ใครที่อยากจะทำให้หน้าดูเซ็กซี่ขึ้นแนะนำทรงนี้เลยค่ะ
3.ปากเกาหลี ทรงนี้จะมีลักษณะคล้ายลูกเชอรี่ประกบกัน ช่วงกลางปากจะดูอวบอิ่มมากกว่าด้านข้าง จะช่วยให้หน้าดูเล็กลงเหมือนสาวเกาหลี
ทำไมถึงควรฉีดฟิลเลอร์ปาก
- เพื่อเสริมโหวงเฮ้ง ปากเป็นจุดที่บ่งบอกถึงการเจรจา เพื่อให้เป็นการเสริมโหวงเฮ้งให้เจรจาดี ทำงานไหนก็ประสบความสำเร็จ ต้องมีรูปปากที่อวบอิ่มชุ่มชื่น ดูมีสุขภาพดี คนจึงนิยมเติมฟิลเลอร์ปากให้มีความอวบอิ่ม
- เพิ่มเสน่ห์ การยกมุมมปากด้วยการฉีดฟิลเลอร์ จะทำให้เวลายิ้มดูสดใส มีเสน่ห์ เหมือนมีรอยยิ้มอยู่ที่มุมปากตลอดเวลา แถมยังทำให้ดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย
- เพิ่มความมั่นใจ เมื่อมีรูปปากที่ไม่ได้สัดส่วนก็ทำให้ขาดความมั่นใจเวลาต้องออกไปเจอใคร การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยให้ปากมีสัดส่วน ดูมีมิติตามที่ต้องการได้ จึงเป็นการสร้างความมั่นใจอีกหนี่งอย่างให้ตัวเอง
- ดึงดูดเพศตตรงข้าม การเติมฟิลเลอร์ปากจะทำให้ปากดูอวบอิ่ม เซ็กซี่ และโดดเด่น เป็นจุดทำให้เพศตรงข้ามมองและให้ความสนใจ
- เพื่อให้ปากดูมีสุขภาพดี เพราะฟิลเลอร์ปากสามารถแก้ไขปัญหาริมฝีปากเป็นขุย ทาลิปสติกแล้วตกร่องไม่สวย เนื่องจากสารที่ฉีดจะไปช่วยทำให้ปากชุ่มชื่น ดุอวบอิ่มชุ่มน้ำ แลดูมีสุขภาพดี
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
1.ให้แพทย์ประเมินรูปปากก่อนที่จะทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์ปาก
2.แพทย์จะแปะยาชาแบบครีมทิ้งไว้ ประมาณ 30-40 นาที
3.ฉีดสารเติมเต็มตามความเหมาะสมกับปัญหารูปปากของแต่ละคนโดยแพทย์มากประสบการณ์
ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
แน่นอนว่าการหัตถการทางการแพทย์แต่ละอย่างไม่ได้มีแต่ข้อดีเท่านั้น แต่ยังอาจจะมีข้อควรระวังเล็กน้อย ดังนั้นจึงควรศึกษาและตัดสินใจให้ดีว่าตัวเราเองเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปากหรือไม่
ข้อดี :
1.ลดปัญหารูปทรงปากไม่ได้สัดส่วน สามารถปรับรูปทรงปากให้สมดุลตามต้องการได้
2.ไม่เจ็บเหมือนการผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น หากฉีดไปแล้วไม่พอใจสามารถให้แพทย์ปรับรูปทรง หรือ ฉีดสลายฟิลเลอร์ออกไปได้
3.หมดปัญหาปากเป็นร่อง ทาลิปสติกไม่ติด
4.ผลข้างเคียงน้อยมาก มีเพียงรอยเข็มแดงๆ บริเวณที่ฉีด และจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน
ข้อเสีย :
1.เนื่องจากสารที่เติมเข้าไปจะถูกร่างกายเผาผลาญ สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องทำซ้ำบ่อยๆ
2.อันตรายมาก หากฉีดฟิลเลอร์ปลอม และไม่ได้รับการฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม
ก่อนทำการฉีดแพทย์จะมีการแปะยาชา 30-40 นาที แล้วมีการฉีดยาชาซ้ำอีกที เมื่อยาชาเริ่มออกฤทธิ์แพทย์ถึงจะเริ่มฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก ทำให้ระหว่างทำไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จะบวมนานไหม
อาจจะมีอาการบวมประมาณ 2-3 วันแรกหลังฉีด โดยหมอจะจ่ายยาลดบวมและยาแก้ปวดให้กลับไปทานด้วย เพราะบางคนอาจมีอาการปวดร่วมด้วย แต่ไม่ต้องกังวล เพราะอาการเหล่านี้จะหายไปได้เอง และแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆจะช่วยให้คงสภาพฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานมากขึ้น
ฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม
ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก นอกจากว่าจะได้รับการฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ทำให้เกิดปัญหาตามมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดอันตรายหลายอย่างได้ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อนเพราะฟิลเลอร์จะไม่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ และนอกจากนี้ยังอาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นควรเลือกฉีดฟิลเลอร์แท้กับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่ต้องใช้ความละเอียดในการทำเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นต้องรู้ข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ และควรเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาปากของตัวเองเพื่อลดปัญหาที่จะตามมาทีหลัง ที่สำคัญควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ปากเท่านั้น หลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ปลอม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องตามต้องการ และปลอดภัย
แหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก
https://www.khaosod.co.th/advertorial/news_6842297
https://www.carolinalaser.com/blog/lip-filler/
https://www.naewna.com/lady/677287
Tweet |