ฮายๆ ทักทายสาวๆ ชาว Vanilla ทุกคนเลยค่า วันนี้ก็คือจะมารีวิวบรรดาครีมรักษาฝ้าแต่ละตัวที่ซื้อเอง ใช้เอง เจ็บเอง มารีวิวให้ทุกคนดูค่า คิดว่าน่าจะมีสาวๆ ที่ก้าวเข้าสู่วัยเลขสามแบบเราอาจจะประสบ ปัญหาผิวฝ้ากันอยู่หลายคนแน่ๆ มีทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน ตัวไหนเริ่ด ไม่เริ่ด มาดูเล้ยยยย~
Skinoren
ตัวนี้เป็นตัวแรกที่ซื้อมาลองตั้งแต่รู้ตัวว่าหน้าเป็นฝ้าเลยค่ะ เพราะเห็นคนรีวิวว่าดี คนใช้เยอะมาก แถมยังรักษาสิวได้ด้วย ซึ่งก็ตอบโจทย์เพราะเราก็ยังมีสิวบ้างประปราย ซึ่งจริงๆ ตัวนี้คือเป็นยานะทุกคน มีส่วนผสมของ Azelaic Acid 20% ตัวนี้จะช่วยรักษาฝ้าได้โดยการเข้าไปยับยั้งการเติบโตเม็ดสีที่ผิดปกตินั้นเอง
เนื้อครีมของตัวนี้คือมีความหนักและเข้มข้นมาก เวลาที่ทาลงบนผิวหน้าอาจจะใช้เวลาในการซึมเข้าสู่ผิวนานหน่อย เราเลยชอบใช้แค่ตอนกลางคืนเท่านั้นค่า แล้วก็ตอนใช้แรกๆ มีอาการยุบยิบๆ บริเวณที่ทาด้วยเหมือนมันทําปฏิกิริยาอะไรกับหน้าเราทํานองนั้นเลย แต่พอใช้ต่อเนื่องก็เริ่มไม่ค่อยมีอาการยุบยิบแล้วค่า
สรุป: ให้ 8/10 ชอบที่รักษาสิวและฝ้าได้ในหลอดเดียว คุ้มมากๆ ใช้แล้วฝ้าจางลงแต่ยังจางลงไม่หมด แต่พวกรอยดําสิวกับจุดด่างดําคือหายไปหลายจุดเลย หักนิดเดียวตรงเนื้อหนักและใช้แล้วคันยุบยิบ
Melamii
ตัวนี้เป็นของแบรนด์ Melamii ที่เค้ามีรีวิวเยอะมากไม่แพ้กันค่ะ เลยตัดสินใจซื้อมาลองตัวนี้เค้าเคลมว่ามี Melasmiin X ท่ี่เป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์เอง ซึ่งจะช่วยลดเลือนพวกฝ้าได้ดีกว่าอาร์บูตินหลายเท่าเลย และยังช่วยจบพวกวงจรฝ้าซํ้าซากได้ด้วย และที่สําคัญตัวนี้ยังมีส่วนผสมของสารกันแดด SPF20 มาด้วย เหมือนเป็นการช่วยรักษาฝ้าเก่า ป้องกันแสงแดด และป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ไปในตัวเลย
เนื้อสัมผัสของตัวนี้ถือว่าเนื้อดีเลยค่า เป็นเนื้อเซรั่ม เวลาเกลี่ยก็ง่าย นวดๆ วนบนผิวแปปเดียวก็ซึมแล้วเราใช้ทาบางๆ ทั่วหน้าทั้งเช้าและเย็นเลย ตัวนี้ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้น้า ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ นํ้าหอมพาราเบน ไฮโดรควิโนนด้วย ใช้แล้วผิวไม่ลอกไม่แห้งไม่แสบเลย
สรุป: 9/10 หลังจากใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์ รู้สึกได้ว่าฝ้าจางลงกว่าเดิม เริ่มเห็นว่าผิวหน้าใสขึ้น แล้วก็ชอบที่มีกันแดดมาให้ด้วย ใช้แล้วไม่มีอาการระคายเคืองใดๆ เลย
Concept Anti Melasma
ครีมทาฝ้าตัวนี้เป็นอีกตัวที่ได้มาจากร้านขายยาแถวบ้านค่า ตัวนี้จะมีสารสกัดจาก Alpha Arbutin ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยเรื่องฝ้าจุดด่างดําโดยเฉพาะอยู่แล้ว ซึ่งแบรนด์ใส่ความเข้มข้นมาให้ 1.2% ซึ่งสามารถช่วยเรื่องฝ้าได้ใน 3 สัปดาห์ และมีสารสกัดอื่นๆ ที่ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสและความชุ่มชื้นด้วย
เนื้อครีมของตัวนี้ไม่ได้หนักมาก เนื้อเนียนดีเลยและมีกลิ่นหอมดว้ย น่าจะมีส่วนผสมของนํ้าหอม ตอนเกลี่ยครีมลงผิวคือกลิ่นฟุ้งงง~ ตัวเนื้อครีมก็ซึมไว ไม่เหนอะหนะผิวเลย สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นเลย
สรุป: 7/10 ส่วนตัวแล้วเราใช้แล้วเฉยๆ T T ยังไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ อาจจะต้องใช้ต่อเนื่องนานกว่านี้ แต่ชอบที่เนื้อเบาแล้วก็มีกลิ่นหอม แต่ถ้าใครผิวแพ้ง่ายอาจจะระคายเคืองได้ เพราะมีส่วนผสมของนํ้าหอม แต่เราใช้แล้วไม่มีอาการอะไรนะ ไม่แห้ง ไม่แสบผิว
Vitara
ตัวสุดท้ายของในกรุครีมทาฝ้าแล้วจ้า~ อันนี้ก็ไปเจอรีวิวมาอีกเหมือนกัน แอบหาซื้อยากนิดนึงน้า จะบอกว่าแบรนด์นี้เราใช้ตัวครีมวิตามินอีเค้าอยู่ ใช้ดีมาก ก็เลยเปิดใจรับน้องครีมทาฝ้ามาใช้ด้วยอย่างง่ายดายตัวนี้จุดเด่นเค้าอยู่ที่มีสารสกัดจาก PPE (Palmaria Palmata Extract) นวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศส และมีBio White ที่ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดําได้แบบคูณสองเลยกันไปเล้ย
เนื้อครีมค่อนข้างเหลวเลย มีกลิ่นด้วยนะ แต่บอกไม่ถูกว่ากลิ่นอะไร แต่ได้กลิ่นแล้วแน่นจมูกไปเลย ตัวเนื้อครีมเนียนดี เกลี่ยง่าย แต่ใช้เวลานานกว่าจะซึมนะ ต้องทิ้งไว้ซักพักเลย หยิบใช้แค่ตอนกลางคืนพอ!
สรุป: 6/10 หักเพราะเรืองงกลิ่นอย่างเดียวเลยจริงๆ แล้วก็เนื้อครีมค่อนข้างหนัก ต้องทิ้งไว้นานกว่าจะซึมแล้วยิ่งพอเจอกลิ่นเข้าไปก็เลยทําให้หยิบใช้นับครั้งได้เลย ขอบายตัวนี้ฮะ
และทั้งหมดนี้ก็คือเป็นครีมทาฝ้าทุกตัวที่เราใช้มา ใครมีปัญหาเรื่องฝ้าเหมือนกันกําลังหาตัวช่วยอยู่ อย่าลืมไปลองกันน้า~
▲