เซย์ไฮค่าทุกคนนนน♥ เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบากกกกกว่าจะออกจากบ้านได้แต่ละที เสื้อผ้า หน้า ผม ต้องเป๊ะ ยิ่งวันไหนรีบๆ ก็อยากลดขั้นตอนการแต่งหน้ากันใช่ไหมหล่ะ...วินนี่เชื่อว่ายังมีเพื่อนๆหลายคนไม่ทาครีมกันแดด เพราะขี้เกียจบ้าง กลัวแพ้บ้าง เหนียวหน้าบ้าง บลาๆ 108 อย่าง และคิดว่าเครื่องสำอางที่มี SPF ที่ใช้ๆกันอยู่ ก็ทาแทนกันแดดได้เพียงพอแล้ว
ยกมือออ...วินนี่คือ1 ในนั้น แห่ะๆ เคยผิดพลาด ไม่ทากันแดด เพราะกลัวหนักหน้ากลัวแพ้ ด้วยความที่ผิวของวินนี่แพ้ง่ายมากกก และด้วยความมั่นหน้า 555 คิดว่า พวกเครื่องสำอางใดๆ ที่เค้าใส่สารกันแดดมาแล้วเนี้ยจะช่วยปกป้องผิวเราจากแสงแดดได้ ปาดแต่แป้งเพียวๆ ที่มีสารกันแดด ก็น่าจะพอแล้วสิประหยัดเวลาแต่งหน้าไปได้เยอะเลยยย...
บังเอิ๊นนน..ไปเจอเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นหมอผิวหนังเค้าแนะนำมาว่า การที่จะป้องกันรังสียูวีได้ดีที่สุดจะต้องใช้ครีมกันแดดทาปริมาณ 2 ข้อนิ้วเลย ถ้าทาแค่แป้งที่มีสารกันแดดจะไม่เพียงพอที่จะปกป้องผิวเราจากแสงแดดที่โหดร้ายยยยเช่นนี้ได้ค่าและอีกอย่าง ความที่เป็นรูปแบบแป้ง (powder) ทำให้อาจไม่มีการใส่สารกันแดดประเภท Chemical sunscreen* ทำให้ปกป้องผิวได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าการทาครีมกันแดด 1 รอบ ก่อนลงแป้งค่า
*ปกติครีมกันแดดในท้องตลาดจะมี3 แบบ จากที่วินนี่ไปหาข้อมูลมา
(จริงจังนะบอกเลยยย555)
1.แบบ Physical sunscreen เพียวๆ เคลือบผิวหน้าสะท้อนรังสียูวีให้กระเจิงออกไป แต่ต้องทาซ้ำบ่อยๆ เพราะอาจหลุดไประหว่างวันได้
2.แบบ Chemical sunscreen (ไม่ได้ หมายถึงมีสารเคมีล้วนๆนะค๊า) จะซึมเข้าสู่ผิว แล้วเวลารังสียูวีผ่านเข้า มามันจะดูดกลืนรังสี แล้วค่อยๆสลายมันออกไป แต่ต้องรอให้ซึมเข้าสู่ผิว 20-30 นาที ก่อนออกแดด
3.แบบ Hybrid sunscreen เอาข้อดีของ 1 และ 2 มารวมกัน ทาปุ๊บ ออกแดดได้ทันทีเลย
แปะข้อมูลไว้ให้น๊า https://www.healthline.com/health/physical-vs-chemical-sunscreen, https://www.vogue.in/beauty/content/vogues-guide-to-choosing-between-physical-and-chemical-sunscreens-based-on-skin-type
เพื่อนๆ ที่ไม่ชอบทากันแดด เคยสงสัยกันมั้ยว่า ทำไมวันนี้ แต่งหน้าแล้ว หน้าไม่ผ่อง ดูดรอป หมองคล้ำ เมกอัพหลุด ไม่ติดทน มันเพราะ..อะไรกันนะ ?
รังสี UV จากแสงแดดที่แผดเผาไงหล่ะคะ จะไม่หมองยังไงไหว เพราะผิวผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้นเพื่อปกป้องผิวจากการได้รับแสงแดดมากเกินไป ทำให้หน้าคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฉะนั้น..เราต้องทากันแดดค่า..อย่าปล่อยให้ผิวหน้าต้องเผชิญแสงแดดเพียงลำพังนะคะสงส๊ารร
เอาหล่ะวันนี้เรามาลองทดสอบกันดูว่า...ผิวหน้าที่ทาแป้งที่มีSPF เพียวๆ กับ ผิวที่ทากันแดดก่อนทาแป้งจะต่างกันยังไงบ้าง....
อย่างที่บอกคือผิวของวินนี่แพ้ง่ายมากกกก เลยเลือกใช้ 2 แบรนด์นี้มาตลอดค่า
หน้าฝั่งซ้ายไม่ลงครีมอะไรทั้งนั้น เริ่ม!!!โบกน้อง Clinique even better powder make upwater veil SPF 27/PA++++ แบบเพียวๆ ลงไป น้องเป็นแป้งเนื้อบางเบาปกปิดปานกลาง ติดทนนาน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้......อื้อหืออ!! น้องให้งานผิวที่เบาความเนียนกริ๊บบแบบไร้เหตุผล เหมือนผิวดีมาแต่เกิด
หน้าฝั่งขวาทา THANN Oil-Free Facial Sunscreen SPF30 PA+++ ก่อน เวลาทาแล้วรู้สึกบางมากซึมเร็ว น้องเป็นสูตร Hybrid sunscreen ทาปุ๊บ ออกแดดปั๊บ ความดีงามบนหลอดบอกว่า มีสารบำรุงธรรมชาติจากใบชิโซะช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ เติมความชุ่มชื้น และลดอาการระคายเคือง เกลี่ยๆ วนไปรออึดใจเดียว พอรู้สึกว่าผิวมีความฉ่ำ ชุ่มชื้น ค่อยเริ่มโบกแป้ง Clinique even better powder make up water veil SPF 27/PA++++ ลงไป...โอ้วว งานผิวสวยกริบ เนียนละมุนนีมาก ผิวดูไบร์ท สว่างขึ้น 1ระดับด้วยน๊า ไม่หนักหน้าเหมือนที่เคยคิดไม่ทิ้งคราบขาวให้กวนใจ เนื้อแป้ง เนียนกลืนไปกับผิวด้วยนะเอ้ออ รับมงค่ะ
แต่สังเกตดีๆ จะเห็นว่า ฝั่งซ้ายผิวดูไม่ไบร์ทเท่าฝั่งขวา มันยังไม่จึ้งงงอะแมมม่ แต่จะดีกว่าน๊า ถ้าเราทากันแดดก่อน ผิวดูไบร์ทผ่องขึ้น ได้บำรุงผิวไปด้วย กันแดดไปในตัวปังกว่านะคะสาววว
สุดท้ายยย...หลายคนคงมีคำถามว่า....แล้วฉันจะใช้ครีมกันแดดแบบไหนหน้าถึงจะปังงงงหล่ะ?
วินนี่แนะนำว่า...เพื่อนๆควรเลือกครีมกันแดด SPF30 เป็นอย่างน้อย มีส่วนผสมบำรุงจากธรรมชาติ ยิ่งมีสารแอนตี้ออกซิเดนซ์ยิ่งดี ถ้าเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ก็จะงาม...ยังไงก็ดีกว่าการใช้เมคอัพที่มี SPF โบกเพียวๆ แน่นอน วินนี่คอนเฟิร์มมมม!!!