ฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการยอดฮิตในการช่วยปรับรูปปาก แก้ไขปัญหาปากแห้ง ปากเป็นร่องที่เห็นผลได้ทันที ซึ่งการจะฉีดฟิลเลอร์ปากให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือ การเตรียมตัวก่อนฉีด และวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และมีความปลอดภัย
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเตรียมตัวอย่างไร ? มีขั้นตอนการฉีดอย่างไร ? หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร ห้ามกินอะไร ? หลังฉีดบวมกี่วัน ? ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ค่ะ
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเตรียมตัวอย่างไร ?
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำหัตถการเบื้องต้น วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้ และพิจารณาเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
งดรับประทานยาแอสไพริน ยา NSAIDs เช่น Ibruprofen, Diclofenac, Ponstan รวมถึงงดวิตามิน St.John’s Wort, Ginko Biloba, Ginseng และ Vitamin E 1 สัปดาห์ก่อนทำ
งดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว งดแวกซ์รอบปาก 1 สัปดาห์ก่อนทำ
งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมงก่อนทำ
หากมีโรคประจำตัว ยาที่ต้องรับประทานอยู่เป็นประจำ หรือมีประวัติการแพ้ยาชา ให้แจ้งแพทย์ก่อนทำหัตถการ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ปรึกษาแพทย์ แจ้งปัญหาหรือความต้องการ เพื่อให้แพทย์ประเมินรูปหน้า เลือกรูปทรงปากที่เหมาะสมที่สุดของแต่ละคน และวางแผนการรักษา เลือกรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับปัญหา ความต้องการ และงบประมาณ
ผู้ช่วยแพทย์เริ่มทำความสะอาดใบหน้า และบริเวณที่ฉีด
ก่อนฉีดควรให้แพทย์แกะกล่องให้ดูต่อหน้า และตรวจสอบว่าฟิลเลอร์ที่ใช้ว่าเป็นของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง โดย
เริ่มแปะยาชา ประคบน้ำแข็งก่อนฉีด เพื่อช่วยลดความเจ็บขณะฉีดฟิลเลอร์
ทำการฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์
หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ แพทย์จะแนะนำข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ และควรปฏิบัติตามเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้ไว หายบวมเร็วขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร ?
ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ 1.5-2 ลิตร/วัน เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ จะทำให้ดูสวยอิ่มฟูได้รูป และอยู่ได้นานขึ้น
งดใช้หลอดดูดน้ำ งดการทาลิปสติก งดการสูบบุหรี่ ในช่วง 12 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
ในช่วงแรก ควรนอนหมอนหนุนในระดับสูง จะช่วยให้อาการบวมดีขึ้นได้
หลีกเลี่ยงการสัมผัส การจูบ การนวด คลึงที่ริมฝีปาก จะทำให้ปากเสียรูปได้
หลีกเลี่ยงการดึง การลอกหนังริมฝีปาก จะทำให้ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น
งดกิจกรรมที่หรือการออกกำลังกายอย่างหนัก อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
งดการทำเลเซอร์ร้อนลงผิวทุกชนิด เช่น Thermage อย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามกินอะไร ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ได้ห้ามกินอะไรเป็นพิเศษ แต่ในช่วง 2 อาทิตย์แรก ควรระมัดระวังการรับประทานของเหล่านี้ เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี และมีผลต่ออาการบวม ทำให้อาการบวมแย่ลง เห็นผลลัพธ์ได้ช้า
1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทำให้เลือดเกิดการสูบฉีดมากขึ้น อาจทำให้รู้สึกปวด บวมบริเวณที่ฉีดได้ง่าย
2. เครื่องดื่มร้อน ๆ และอาหารที่ต้องสัมผัสความร้อน เช่น ปิ้งย่าง ชาบู อาจทำให้เกิดอาการบวมและอักเสบได้ง่าย รวมถึงฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ การสัมผัสความร้อนโดยตรงอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงได้
3. อาหารหมักดอง อาจทำด้วยกรรมวิธีที่ไม่สะอาด ทำให้มีการปนเปื้อน อาจกระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบ เกิดรอยช้ำได้ง่าย
4. อาหารที่มีรสจัด หวานจัด เค็มจัด มีโซเดียมสูง กระตุ้นให้เกิดการอักเสบบนผิวหน้าได้ง่าย และทำให้ใบหน้าดูบวมได้
5. อาหารดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการอักเสบหลังฉีดฟิลเลอร์
ทำไมฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวม ? บวมกี่วัน ?
เนื่องจากริมฝีปากเป็นบริเวณที่มีเนื้อเยื่อค่อนข้างบาง ทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดอาการบวมได้ค่อนข้างง่ายกว่าบริเวณอื่น แต่ไม่ถือว่าเป็นอาการข้างเคียงที่อันตราย โดยอาการบวมจะค่อย ๆ หายไปประมาณ 4 - 5 วัน
ทั้งนี้หลังฉีดหากมีอาการบวมมากผิดปกติ บวมนานเกินไป หรือรู้สึกปวดมาก ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เพราะอาจเป็นอาการบวมที่เกิดจากอาการแพ้ฟิลเลอร์ หรือการอักเสบติดเชื้อได้
ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันเห็นผลเต็มที่ ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะเห็นผลเต็มที่เมื่ออาการบวมหาย และฟิลเลอร์เซตตัวเข้าที่แล้ว โดยใช้เวลาประมาณ 1 - 2 สัปดาห์หลังทำ
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
อาการบวม รอยบวมแดง เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติ โดยเกิดจากรอยช้ำจากเข็ม หรือบวมจากตัวฟิลเลอร์ ซึ่งอาการบวมจะยุบลงไปได้เอง
ฟิลเลอร์เป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น แพทย์ไม่มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เลือกใช้ฟิลเลอร์ชนิดที่ไม่เหมาะสม หรือเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์อักเสบ ติดเชื้อ เกิดจากระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ไม่มีความสะอาด ทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรค
ฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน
หากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ฉีดแล้วเป็นก้อน ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ของแท้สามารถแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ค่ะ แต่ถ้าหากใช้ฟิลเลอร์ปลอมต้องทำการผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออกหรือขูดฟิลเลอร์ออกเท่านั้น
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ปากให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี นอกจากจะขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ ยังขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลตัวเองหลังฉีดอีกด้วย ดังนั้นก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์จึงควรทำตามข้อควรปฏิบัติ รวมถึงคำแนะนำของแพทย์ เพื่อความปลอดภัย ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุดและอยู่กับเราไปได้นาน