แก้ไขใต้ตาคล้ำ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดีไหม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาห้ามอะไรบ้าง?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้มีปัญหาใต้ตาดำคล้ำ มีถุงใต้ตา สำหรับใครที่กำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ยังไม่แน่ใจว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดีไหม สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดหรือเปล่า หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วมีขั้นตอนดูแลรักษาตัวอย่างไร บทความนี้มีคำตอบให้ค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ไขในเรื่องใดบ้าง?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ไขปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดที่สุด เนื่องจากเป็นการเติมสารไฮยาลูโรนิค แอซิด เข้าไปบริเวณที่มีปัญหาโดยตรง ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ใบหน้ากลับมาสดใส ดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ ปัญหาใต้ตาที่สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้ 

• ริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา ที่มีลักษณะเป็นรอยเหี่ยวย่นใต้ดวงตา ทำให้ดูมีอายุ

• ขอบตาดำคล้ำ ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนล้า

• ถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย ส่งผลให้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาเห็นชัดขึ้น

• เบ้าตาลึก ตาโหล เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา และการสลายตัวของเนื้อเยื่อ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด แต่ยังไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนนัก คนไข้สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนประมาณ 2 อาทิตย์หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้อยู่ได้นานกี่เดือน?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีระยะเวลาขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ค่ะ ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติโดดเด่นที่ต่างกันทำให้ระยะเวลาไม่เท่ากัน บางตัวสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 6 – 12 เดือน บางตัวอยู่ได้นานถึง 18 เดือน รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยรักษาฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้นค่ะ

การเลือกใช้ฟิลเลอร์ใต้ตานั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ซึ่งจะทำการวิเคราะห์ปัญหาและช่วยแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับคนไข้ที่สุดค่ะ

นอกจากนั้น ฟิลเลอร์ทุกชนิดไม่มีผลถาวรทั้งสิ้น เนื่องจากฟิลเลอร์ HA สามารถสลายได้ตามธรรมชาติไร้สารตกค้างในร่างกาย มีความปลอดภัยสูง สามารถฉีดสลายได้ หากฟิลเลอร์ตัวไหนโฆษณาว่ามีผลถาวร สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอม ที่ฉีดแล้วอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจฟังดูแล้วน่ากังวลใจ เนื่องจากเป็นจุดที่ใกล้กับบริเวณดวงตา จึงไม่แปลกที่คนไข้จะกังวลได้ว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเจ็บไหม แต่ความจริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เจ็บมากค่ะ หรืออาจไม่รู้สึกเจ็บเลยในบางคน เนื่องจากมีการแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ รวมทั้งฟิลเลอร์ส่วนใหญ่มียาชาทำให้ขณะฉีดไม่รู้สึกเจ็บค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเขียว เป็นเรื่องปกติไหม?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเกิดอาการข้างเคียงเป็นเรื่องปกติค่ะ เนื่องจากบริเวณใต้ตาค่อนข้างบอบบางกว่าจุดอื่น ทำให้สามารถเกิดอาการบวมเข็ม บวมแดง เขียวช้ำ หรือคัน ซึ่งสามารถดูแลได้ง่ายโดยหลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา กดนวดจุดนั้น ๆ รวมทั้งระวังการขยับใบหน้าเยอะ ๆ ค่ะ

โดยทั่วไปแล้วอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเองภายใน 3 – 7 วัน หากมีอาการปวดสามารถทานยาแก้ปวดได้ และสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติอีกด้วย สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ใน 2 – 3 อาทิตย์

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อห้ามอะไรบ้าง ?

ในช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากน้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วและอยู่ได้นาน นอกจากนี้แล้วยังต้องปฏิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้เร็วยิ่งขึ้น

• งดทาครีมบริเวณรอยเข็มเป็นเวลา 1 คืน และห้ามให้น้ำสัมผัสรอยเข็มเกิน 15 นาที

• ไม่แกะ เกา บีบนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

• ไม่ควรนอนตะแคง ให้หาหมอนมาขั้นข้างซ้ายและขวาในช่วง 2 - 3 คืนแรก เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า

• หากมีอาการบวมสามารถประคบเย็นลดบวมได้ แต่ควรประคบเบา ๆ ไม่ควรกดแรง ๆ

• งดทานอาหารประเภทต่อไปนี้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง หรือที่ดีคือ 14 วัน ได้แก่

• อาหารหมักดอง ซึ่งมีสารทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า มะม่วงดอง

• อาหารที่มีรสจัด เผ็ดร้อน ที่ทำให้หน้าแดง

• อาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนประกอบของเกลือและโซเดียม สาเหตุที่ทำให้หน้าบวมช้ำมากขึ้น

• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ เพราะมีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ทำให้ยุบบวมช้า

• 
  

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ไขใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตาได้ตรงจุดที่สุด เนื่องจากเป็นการเติมสารไฮยาลูโรนิค แอซิด เข้าไปบริเวณที่มีปัญหาโดยตรง ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้มีใบหน้าที่สดใส ดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ 

ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่ควรสัมผัส แกะ เกา บีบนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ รวมทั้งไม่ควรทานอาหารรสจัด หมักดอง ดื่มแอกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันอาการบวมเข็มมากขึ้น