- ปรับระดับเครื่องใช้ให้เหมาะสม
โดยทั่วไปแล้วเครื่องใช้สำนักงานถูกจัดมาให้อยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสมกับสรีระร่างกายของคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้หรือโต๊ะในออฟฟิศ และเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลให้เกิดอาการปวดบ่าหรือปวดไหล่ในภายหลัง ดังนั้น การปรับระดับความสูงของเครื่องใช้สำนักงานให้มีความเหมาะสมกับชาวออฟฟิศจึงช่วยป้องกันอาการปวดต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
ตัวอย่างเช่น การปรับระดับความสูงของเก้าอี้ให้อยู่ในระดับสายตาที่พอดีกับโต๊ะคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยไม่ให้ไหล่ของผู้นั่งทำงานงุ้ม หลังโก่ง รวมถึงคอก็จะไม่แหงนมากจนเกิดอาการปวดนั่นเอง
- ปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย
หลายคนอาจไม่ทราบว่าปัญหาอาการปวดกล้ามเนื้อขา ส่วนหนึ่งมาจากการสวมใส่รองเท้าแบบใดแบบหนึ่งนานเกินไป ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อกล้ามเนื้อต้นขาและน่องแล้ว ในบางรายอาการปวดอาจลุกลามเป็นอาการปวดกล้ามเนื้อทั้งตัวได้อีกด้วย เนื่องจากกล้ามเนื้อมีการใช้งานลักษณะที่อยู่ในท่าทางเดิมนานเกินไปนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนมาใช้รองเท้าส้นเตี้ยที่รองรับน้ำหนักและสวมใส่สบายในระหว่างวัน แทนที่การใส่รองเท้าส้นสูงในสุภาพสตรี ซึ่งเป็นการเพิ่มอาการตึงที่บริเวณกล้ามเนื้อขาได้มากกว่า
- เปลี่ยนอิริยาบถอยู่เสมอ
ชาวออฟฟิศควรหาเวลาพักเพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถระหว่างวันทำงานอยู่เสมอ เพื่อให้กล้ามเนื้อได้รับการผ่อนคลาย ด้วยการลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายเบา ๆ พร้อมกับท่าง่าย ๆ ตัวอย่างเช่น การเหยียดยืดแขนค้างไว้ท่าละ 15 - 20 วินาที หรือจะเป็นการก้มแตะปลายเท้าค้างไว้ก็จะช่วยเรื่องของการไหลเวียนเลือด และยืดกล้ามเนื้อหลังได้ดีเช่นกัน เป็นต้น ทั้งนี้ ท่าดังกล่าวควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ หลังออกกำลังกาย แม้จะเป็นท่าเบา ๆ ก็ตาม
สรุป
วิธีแก้อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สำหรับชาวออฟฟิศที่เรานำมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับระดับความสูงเครื่องใช้สำนักงานให้มีความเหมาะสม การปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายโดยเฉพาะในส่วนของรองเท้าให้เป็นรองเท้าแบบส้นเตี้ย รวมถึงการลุกขึ้นมาทำกายบริหารเบา ๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลดอาการปวดกล้ามเนื้อต่าง ๆ ในระหว่างการทำงานในออฟฟิศได้ดีและมีประสิทธิภาพอย่างมาก
▲