3 ข้อควรรู้ก่อน ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก ถ้าไม่อยากเสี่ยงโดนหลอก!ต้องอ่าน
Room : Others
admin_vsq | ผิวผสม | 25-29 Yrs | 0 รีวิว 02/04/2024 14:31     

3 ข้อควรรู้ก่อน ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก ถ้าไม่อยากเสี่ยงโดนหลอก! ต้องอ่าน

คิดจะฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกแต่กังวลเรื่องความเสี่ยง ? ไม่ต้องกังวลเลย ถ้าอ่านและปฏิบัติตามนี้ 


บทความนี้เราได้รวบรวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกมาฝาก ก่อนฉีดต้องเตรียมตัวอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่ไม่ดีหรือการถูกหลอกจากคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น วิธีการเลือกคลินิกและแพทย์ที่น่าเชื่อถือ วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ดูอย่างไร ไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อให้คุณพร้อมกับฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลใจหลังฉีด



1. ทำความเข้าใจพื้นฐาน ฉีดฟิลเลอร์คืออะไร ? 

ฉีดฟิลเลอร์ คือ หัตถการทางการแพทย์ที่ใช้สารเติมเต็มประเภทสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกว่า "HA" ฉีดเข้าไปเติมเต็มเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูอิ่มฟู เต่งตึง และเรียบเนียนขึ้น ช่วยลดริ้วรอยร่องลึก และเพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิวบริเวณที่ต้องการ เช่น ริมฝีปาก แก้มส้ม รวมทั้งยังสามารถปรับรูปหน้า เสริมรูปทรงใบหน้าให้สัดส่วน อย่างฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์กรอบหน้า ให้สวยงามโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด


ประเภทของฟิลเลอร์ที่ต้องรู้

ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกเสริมงามจะใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิกแอซิด หรือ "HA" เป็นหลัก แต่ที่จริงแล้วฟิลเลอร์มีหลายประเภท ดังนี้


1.ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler)

เป็นฟิลเลอร์ในกลุ่มที่ใช้ในทางการแพทย์ เป็นสารเติมเต็มที่ผลิตจากธรรมชาติ ซึ่ง Hyaluronic Acid อยู่ในกลุ่มนี้ นิยมนำมาใช้ปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึก  ริ้วรอย 


ข้อดีของฟิลเลอร์ HA


  • ปลอดภัย สลายตัวได้เองตามธรรมชาติ มีผลข้างเคียงน้อย

  • มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น เหมาะกับการแก้ปัญหาที่หลากหลาย 

  • หลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น

  • แก้ไขได้ง่าย หากฉีดแล้วไม่ชอบผลลัพธ์ แพทย์สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ HA ได้


ข้อเสียของฟิลเลอร์ HA

  • อยู่ได้ไม่นาน ต้องฉีดซ้ำเป็นระยะ โดยทั่วไปการฉีด 1 ครั้งอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน


2. ฟิลเลอร์กึ่งถาวร (Semi-permanent Filler)


ฟิลเลอร์กึ่งถาวร (Semi-permanent Filler) คือ ฟิลเลอร์สังเคราะห์ที่นำมาใช้ฉีดเติมเต็ม ปัจจุบันพัฒนาให้สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ เฉลี่ยอยู่ได้นาน ประมาณ 2-5 ปี เช่น สารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) เป็นต้น 


ข้อดีของฟิลเลอร์กึ่งถาวร

  • อยู่ได้นาน สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ 


ข้อเสียของฟิลเลอร์กึ่งถาวร


  • จะต้องใช้ระยะเวลาให้ตัวยาออกฤทธิ์และเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไม่สามารถเห็นผลได้ทันที 


3. ฟิลเลอร์ถาวร (Liquid Silicone)


เป็นสารเติมเต็มในกลุ่ม Biosynthetic polymers เช่น ซิลิโคนเหลว, polymethylmethacrylate ซึ่งเป็นสารที่ฉีดแล้วอยู่ถาวร ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เป็นสารอันตราย และถูกห้ามใช้ในทางการแพทย์ เพราะเมื่อฟิลเลอร์กลุ่มนี้อยู่ในร่างกายจะจับตัวเป็นก้อน ทำให้เกิดพังผืด ดึงรั้งใบหน้าทำให้หน้าเบี้ยวเสียทรง หรืออักเสบ กลายเป็นฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เน่า จำเป็นต้องผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น


โดยสรุปแล้ว ประเภทฟิลเลอร์ ที่นำมาใช้ในคลินิกเสริมความ เพิ่มเติมเต็มใบหน้า หรือปรับรูปหน้า อย่างปลอดภัย จะต้องฟิลเลอร์ประเภท HA (Hyaluronic Acid) ส่วนฟิลเลอร์ในกลุ่มที่กระตุ้นคอลลาเจน ที่เพิ่งได้รับการรับรองความปลอดภัย จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะเป็นสารประเภท Calcium Hydroxyapatite (Radiesse ) และ polycaprolactone หรือ PCL (Gouri)


2. รู้วิธีเลือกแพทย์และคลินิกอย่างรอบคอบ ก่อนฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีการปรับรูปหน้าที่สะดวก รวดเร็ว แต่ต้องมาพร้อมความปลอดภัยร่วมด้วย ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องรู้วิธีเลือกแพทย์และคลินิกอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก ก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ไม่พึ่งประสงค์ 


เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง

วิธีดูว่าแพทย์มีประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ 



1. ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพ

  • แพทย์ควรมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม สามารถตรวจสอบชื่อ-นามสกุล หรือเลขว. ของแพทย์กับเว็บไซต์แพทยสภา https://www.tmc.or.th/

2. เช็กประสบการณ์การทำงานและ รีวิว

  • ค้นหาข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับผลงานของแพทย์

  • เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์มายาวนาน

  • ดูรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการ 

  • ควรเลือกแพทย์ที่มีรีวิว ที่น่าเชื่อถือ 

3. สังเกตการให้คำปรึกษา

  • สังเกตว่าแพทย์ให้คำปรึกษาอย่างละเอียดหรือไม่

  • แพทย์ควรอธิบายข้อมูลที่คนไข้สงสัย รวมถึงแจ้งยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ ปริมาณที่ใช้ รวมถึงอาการหลังฉีดที่อาจเกิดขึ้น และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ 

วิธีดูว่าคลินิกฉีดฟิลเลอร์ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้


1.ตรวจสอบใบอนุญาต

  • คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถสังเกตง่าย ๆ ได้จากเลข 11 หลัก ที่แปะไว้บริเวณหน้าคลินิก หรือนำชื่อคลินิกไปค้นหาในเว็บไซต์ตรวจสอบสถานพยาบาลเอกชนที่ได้รับอนุญาต

https://hosp.hss.moph.go.th/

2.สังเกตสภาพคลินิก

  • คลินิกควรมีความสะอาด ปลอดภัย อุปกรณ์ครบครัน

  • พนักงานมีความรู้ สุภาพ บริการดี

3.ตรวจสอบฟิลเลอร์ของแท้

  • คลินิกควรให้ตรวจสอบฟิลเลอร์ว่าเป็นของแท้หรือไม่ หรือแกะกล่องตัวยาฟิลเลอร์ให้เห็นต่อหน้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับคนไข้ว่าใช้ฟิลเลอร์แท้

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้

  • ฟิลเลอร์ต้องมีซีลพลาสติกปิดอยู่

  • ฟิลเลอร์ควรมีฉลากภาษาไทย ระบุชื่อยี่ห้อ เลขทะเบียน อย. lot number วันหมดอายุ

  • ตรวจสอบรหัสล็อต (Lot No.) บนกล่องฟิลเลอร์ กับรหัสล็อตบนตัวเข็มฉีดยา ว่าตรงกัน

  • ตรวจสอบสติกเกอร์ hologram ของบริษัทผู้ผลิต

  • สแกน QR Code บนกล่องฟิลเลอร์ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้

4.เปรียบเทียบราคา

  • ราคาฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น อาจแตกต่างกัน แต่จะไม่แตกต่างกันมากเกินไป ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก

  • ระวังคลินิกที่เสนอราคาฉีดฟิลเลอร์ถูกเกินจริง

  • ระวังคลินิกที่การขายคอร์สฉีดฟิลเลอร์แบบยัดเยียด (hard sell) ควรตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ ไม่ควรรีบซื้อในทันที เพราะเห็นแก่ของราคาถูก 

5.หารีวิว

  • ค้นหารีวิวจากคนไข้จริงเกี่ยวกับผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกนั้น

  • พิจารณาความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มารีวิว

6.ปรึกษาแพทย์

  • มีบริการให้ปรึกษากับแพทย์ก่อนทำ แนะนำสอบถามแพทย์เกี่ยวกับชนิดของฟิลเลอร์ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ค่าใช้จ่ายอย่างตรงไปตรงมา

  • เลือกแพทย์ที่ให้คำแนะนำอย่างละเอียด ตอบคำถามได้ชัดเจน เข้าใจความต้องการของคนไข้


เหตุผลหลักที่ต้องรู้วิธีเลือกแพทย์และคลินิกอย่างรอบคอบ ได้แก่


✔ เพื่อความปลอดภัย: ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ต้องฉีดเข้าใต้ผิวหนัง แพทย์ผู้ฉีดต้องมีความรู้และประสบการณ์ด้านกายวิภาคศาสตร์ เข้าใจโครงสร้างใบหน้า และเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น การติดเชื้อ เส้นเลือดอุดตัน หรือเนื้อตาย


✔ เพื่อการเห็นผลลัพธ์ที่ดี: แพทย์ที่ชำนาญและมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์สูงจะสามารถประเมินใบหน้า วิเคราะห์ปัญหา จากนั้นจึงจะเลือกยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ จำนวน CC และตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ สอดคล้องกับความต้องการของคนไข้


✔ เพื่อความน่าเชื่อถือ: คลินิกที่ได้มาตรฐานจะต้องเปิดอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล จำนวน 11 หลักแปะติดไว้บริเวณหน้าคลินิก ใช้ฟิลเลอร์แท้ และมีระบบการฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา


✔  เพื่อให้ได้รับการบริการและคำแนะนำที่ดี: คลินิกที่ได้มาตรฐานจะมีบริการที่ดี ดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ และสามารถตอบคำถามหรือข้อสงสัยของคนไข้ได้อย่างละเอียด


ตัวอย่างเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ หรือใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน


  • ฟิลเลอร์เป็นก้อน

  • รอยบวมแดง คัน หรือมีหนอง

  • ใบหน้าผิดรูป

  • เส้นเลือดอุดตัน

  • เนื้อตาย


3. ทราบวิธีปฏิบัติตัวก่อนฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 

วิธีปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรงดยา และวิตามินบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน, NSAIDs วิตามิน St. John’s Wort, ginko biloba เป็นต้น 

  • ในกรณีมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งหรือปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง 

  • ถ้ามีคอร์สนวดหน้าและเลเซอร์ต่าง ๆ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วัน

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะตำแหน่งใด ไม่ควรกด แตะ เกา หรือนวดในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการอักเสบ รวมถึงทำให้เสียทรงฟิลเลอร์เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี 

  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงในช่วง 2-3 คืนแรก ควรนอนให้หัวสูงกว่าหน้าอก เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้า ซึ่งจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดมามีการเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้

  • อาจมีอาการบวมหรือช้ำ ถือเป็นเรื่องปกติ สามารถหายได้เอง โดยอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน

  • อยู่แต่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด การดื่มแอลกอฮอล์

  • งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage เป็นเวลา 1 เดือน

  • หากมีการจ่ายยา ควรทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ


Checklist สุดท้าย เตือนสติก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

✔ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์อย่างละเอียด

✔ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดอย่างถูกต้อง ใช้ฟิลเลอร์แท้ และให้แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ผ่านการฉีดมาหลายเคส เป็นผู้ทำหัตถการ

✔ ก่อนทำควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด แจ้งความต้องการให้ชัดเจน และสอบถามแพทย์เกี่ยวกับผลข้างเคียง และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด

✔ หากพบเห็นโปรฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกผิดปกติมากเกินไป ควรตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนซื้อ


สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก จะไม่น่ากลัวอย่างที่คิด หากมีการเตรียมตัวที่ดีและศึกษาข้อมูลที่เพียงพอ ด้วยการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง และฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ในราคาที่เหมาะสม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัยตามความคาดหวัง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาหลังทำค่ะ




Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -