การฉีดวิตามินผิว
จุดเริ่มต้นของ การฉีดวิตามินผิว นั้น เนื่องจากวิตามินเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันจากโรคภัยต่างๆ เราสามารถได้รับวิตามินจากการรับประทานผัก ผลไม้ นม และ ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย โยเกิร์ต เป็นต้น นอกจากนี้ให้ร่างกายแข็งแรง วิตามินยังมีประโยชน์ด้านความงาม ทำให้ปัจจุบันนี้มีการใช้วิตามินเป็นส่วนผสมสำคัญในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและอาหารเสริม
เมื่อร่างกายของเราไม่ได้รับวิตามินจำเป็นตามที่ต้องการจากการรับประทานอาหาร บ่อยครั้งเราจะรับประทานวิตามินในรูปแบบอาหารเสริมเพื่อทดแทนวิตามินที่ขาดไป อย่างไรก็ตามการรับประทานวิตามินนั้นร่างกายจะดูดซึมวิตามินได้เพียง 50% ปริมาณวิตามินที่ได้รับอาจไม่เพียงพอ หรือหากถ้าขาดวิตามินหรือแร่ธาตุหลายชนิด ก็อาจจะต้องกินหลายชนิดพร้อมๆ กัน จึงมีการฉีดวิตามินผิวเกิดขึ้นนั่นเอง
การฉีดวิตามินผิวคืออะไร?
การฉีดวิตามินผิวเป็นกระบวนการนำวิตามินเข้าสู่ผิวหนังผ่านการฉีดสารสกัดเข้มข้นของ วิตามิน เกลือแร่ และ สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) เข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงซึ่งร่างกายจะสามารถดูดซึมกล้ามเนื้อได้ง่าย รวดเร็ว และนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากถึง 95-100% เมื่อเปรียบเทียบกับการรับประทานวิตามินแบบเม็ด ผง หรือ การรับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินที่ต้องผ่านการย่อยและดูดซึมก่อนนำไปใช้งานทำให้วิตามินบางส่วนไม่ได้ถูกดูดซึม นอกจากนี้การฉีดวิตามินยังช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินในปริมาณที่มากกว่าจึงเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกาย การทำงานของระบบประสาท การนอนหลับที่ดีขึ้น ทั้งยังช่วยดูแลผิวหนังและเส้นผมอีกด้วย
ประเภทของวิตามินสำหรับฉีด
วิตามินสำหรับฉีด สามารถแยกตามชนิดของวิตามินตามองค์ประกอบหลักได้ 2 ชนิด คือ วิตามินบีรวม และวิตามินซี
1.) วิตามินบีรวม
วิตามินบีรวม เป็นส่วนผสมของวิตามินบีที่สำคัญ 8 ชนิด ได้แก่ วิตามินบี 1(ไทอามีน), วิตามินบี 2(ไรโบฟลาวิน), วิตามินบี3(ไนอาซีน) วิตามินบี 5 และอื่นๆ มีส่วนช่วยในการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน เพิ่มความแข็งแรงของหัวใจ หลอดเลือดและระบบประสาท ส่วนมากแล้วผู้ที่ขาดขาดวิตามินบีจะมีอาการเหนื่อยล้า ภาวะซึมเศร้า เหน็บชาและภาวะโลหิตจาง การฉีดเพียงหนึ่งครั้งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาวอีกทั้งยังเข้าไปซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกาย
2.) วิตามินซี
วิตามินซี มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยปกป้องผิวหนังจากมลภาวะ ควันบุหรี่ หรือ สารเคมี นอกจากนี้ยังสำคัญต่อระบบภูมิต้านทาน ช่วยป้องกันการติดเชื้อโรค หรือ ไข้หวัด
นอกจากนี้ยังมีวิตามินประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย สามารถขอคำปรึกษาเพิ่มเติมกับทางคลินิกได้ ก่อนตัดสินใจเลือกฉีดวิตามินผิว
คุณประโยชน์หลักของการฉีดวิตามินผิว
1. เสริมสร้างภูมิต้านทาน
การเสริมสร้างภูมิต้านทางถือเป็นส่วนสำคัญในการมีสุขภาพที่ดี การฉีดวิตามินเป็นวิธีการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เหมาะสมกับการทำงาน จากงานวิจัยพบว่าเมื่อได้รับการฉีดวิตามินที่เหมาะสมจะสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมาก โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสและแบคทีเรีย และวิตามินบี12 ที่มีส่วนสำคัญต่อระบบประสาท
2. ฟื้นฟูร่างกายให้กลับมามีพลัง
จากงานวิจัยล่าสุดพบว่า วิตามินที่ถูกฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรงจะสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและนำไปใช้งานได้ทันทีจึงช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า รู้สึกมีพลัง จิตใจแจ่มใส ฟื้นฟูจากอาการเหนื่อยล้า โดยทั่วไปจะเริ่มรู้สึกสดชื่นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด และช่วยยังให้การเผาผลาญที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การฉีดวิตามินผิวสามารถเติมเต็มและฟื้นฟูสารอาหารที่สำคัญ เช่น วิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อการมีสุขภาพที่ดีและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้ โดยที่ไม่ต้องรับประทานอาหารเสริมติดต่อกัน
3. ผิวหน้าสุขภาพดี
โดยทั่วไปแล้วการฉีดวิตามินมักนำมาใช้ในการดูแลรักษาสุขภาพผิวหน้าโดยไม่ใช้การผ่าตัดดังเช่น การร้อยไหม หรือ การลอกผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี การฉีดวิตามินช่วยในการสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดเซลลูไลท์ รอยแตกลาย รอยแผล รอยแดง อาการบวม และความมืดบริเวณใต้ดวงตา ทำให้ผิวดูอวบอิ่ม สีผิวสม่ำเสมอส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์สดใส อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ป้องป้องผิวให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น การฉีดวิตามินเห็นผลได้ชัดเจนและรวดเร็วมากกว่าการทาครีมบำรุงทั่วไป อาจราคาถูกกว่าเครื่องสำอางบางยี่ห้อ และใช้เวลาในการฉีดไม่นาน
4. ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน และผมยาวช้า การฉีดวิตามินสามารถช่วยทำให้ผมแข็งแรง ดูหนา ลดการขาดหลุดร่วง โดยการให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของผมเช่น วิตามินบี12 และ ไบโอตินที่ทำงานร่วมกัน โดยไบโอตินช่วยทำให้โครงสร้างเคราตินในเส้นผมแข็งแรง ในขณะที่วิตามินบี12 มีส่วนช่วยในการไหลเวียนโลหิตซึ่งเป็นเหมือนท่ออาหารสำคัญที่ไปหล่อเลี้ยงเส้นผมจึงช่วยบำรุงรูขุมขนและกระตุ้นให้ผมเส้นใหม่แข็งแรงเติบโตเร็วขึ้นกว่าเดิม
5. ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น
การฉีดวิตามินช่วยรักษาสุขภาพจิตโดยรวม โดยช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและเพิ่มพลังงานแก่ร่างกายโดยการฉีดสารอาหารที่จำเป็นแก่ร่างกายที่ประกอบไปด้วย วิตามินบี12 แมกนีเซียม ซีลีเนียม วิตามินดี และ สังกะสี
วิตามินบี 12 มักใช้ในการรักษาภาวะซึมเศร้า เพิ่มสมาธิ บำรุงประสาทและสมอง และช่วยบรรเทาอาการหงุดหงิด เนื่องจากวิตามินบี 12 ช่วยควบคุมสารสื่อประสาทในสมองซึ่งสามารถช่วยปรับอารมณ์และลดความรู้สึกเครียดวิตกกังวล วิตามินD มีส่วนช่วยในการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนินซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมอารมณ์ สังกะสีช่วยเพิ่มความสามารถในจดจำ นอกจากนี้การฉีดวิตามินยังช่วยในการลดน้ำหนักร่วมกันกับแผนการควบคุมการรับประทานอาหาร
6. กระตุ้นระบบเผาผลาญ
หลายๆคนการลดน้ำหนักถือเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความพยายามและอดทนเป็นอย่างมาก ทั้งการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย การฉีดวิตามินเป็นการช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่า สามารถออกกังกายได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มวิตามินที่ขาดไปเนื่องจากการควบคุมอาหาร ลดความอย่างอาหารจึงสามารถช่วยให้การลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย วิตามินที่ช่วยได้การลดน้ำหนักได้แก่
- วิตามินบีรวม ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญเปลี่ยนสารอาหารเป็นพลังงาน ลดภาวะเครียด จึงสามารถออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิตามินซี ช่วยในการดูซึมวิตามินและแร่ธาตุจำเป็นที่ต่อร่างกายทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เหมาะสมในช่วยการควบคุมอาหาร รู้สึกกระชุ่มกระชวย ลดความเหนื่อยล้า
- วิตามินดีมักใช้ในผู้ที่กำลังลดน้ำหนักโดยจะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อซึ่งสามารถช่วยในการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และยังมีส่วนช่วยในการ:-)คุมระดับน้ำตาลในเลือดจึงลดความหิวและความอยากอาหาร
- ไลโปรโทรปิคช่วยสลายไขมัน โดยจะทำให้ไขมันสะสมสลายตัวและเปลี่ยนเป็นพลังงานเสริมสำหรับสร้างกล้ามเนื้อ
สรุป
การฉีดวิตามินผิว แต่ละจุดประสงค์ แต่ละประเภทจะออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนเริ่มการฉีดวิตามินควรศึกษาอยู่ภายใต้คำแนะนำและการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีการประเมินร่างกาย ซักประวัติการแพ้ยาและอาหารก่อน ทั้งนี้ผลของการฉีดวิตามินผิว ยังขึ้นกับสภาวะทางร่างกายของแต่ละบุคคล สภาพผิวเดิม การบำรุงผิว และพฤติกรรมการใช้ชีวิต การฉีดวิตามินมีหลายหลายแบบทั้งการฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy) การดริปวิตามินผิว (IV drip vitamin) และการดูแลด้วยทรีตเม้นต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะบุคคลเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ตรงจุดที่สุด และลดผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น
Tweet |