ริ้วรอยบนใบหน้าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่ออายุมากขึ้น แต่ในปัจจุบันนี้ เรามีทางเลือกในการรักษาริ้วรอยด้วยวิธีการ “ฉีดโบท็อก”
ปัจจุบันการฉีดโบท็อกได้รับความนิยมอย่างมาก รวมถึงมีคลินิกที่เปิดให้บริการแพร่หลาย เพื่อความปลอดภัย ในบทความนี้ได้รวบรวม 6 ข้อน่ารู้ของการฉีดโบท็อกมาฝาก
ฉีดโบท็อก คืออะไร ?
ฉีดโบท็อก คือ หนึ่งในหัตถการความงาม ที่ใช้โบท็อก (Botox) หรือชื่อทางการค้าว่าBotulinum toxin A มาฉีดบนใบหน้า และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เพื่อหวังผลลดริ้วรอย รวมถึงปรับรูปหน้าให้กระชับมากขึ้น
โบท็อก คืออะไร ?
โบท็อก คือ สารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum)
มีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวหรืออยู่ในภาวะอัมพาต แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่ทำให้เกิดอันตราย เพราะในด้านหัตถการเสริมความงาม แพทย์จะใช้โบท็อกในปริมาณน้อย และมีผลเฉพาะบริเวณที่ฉีดเท่านั้น
ฉีดโบท็อก มีกระบวนการออกฤทธิ์อย่างไร ?
ในโบท็อกจะประกอบด้วย 2 โมเลกุลหลัก ๆ ที่ทำหน้าที่ยับยั้งกระบวนการทำงานของระบบประสาท คือ
- Heavy chain ทำหน้าที่จับและนำโมเลกุลโบท็อกเข้าสู่เซลล์ประสาท
- Light chain ทำหน้าที่จับกับ SNARE proteins เพื่อหยุดการทำงานของ Acetylcholine ที่เป็นสารสื่อประสาท ทำให้กล้ามเนื้อหยุดการทำงานชั่วคราว กล้ามเนื้อจึงเกิดการคลายตัวหรือมีขนาดเล็กลง
เมื่อนำโบท็อกมาฉีดบริเวณหน้าผาก หางตา หรือจุดอื่น ๆ บนใบหน้า กล้ามเนื้อ ที่แสดงสีหน้าก็จะทำงานน้อยลง ริ้วรอยต่าง ๆ จึงดูจางลงไปด้วย หากฉีดบริเวณกรามจะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ทำให้ขนาดกล้ามเนื้อกรามเล็กลง หน้าจึงดูเรียวบางยิ่งขึ้น เป็นการใช้ฤทธิ์ของโบท็อกในการคลายกล้ามเนื้อ เพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีดโบท็อก เหมาะกับใคร ?
- คนที่มีริ้วรอยบนใบหน้าจากอายุที่มากขึ้น หรือริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า
- คนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ต้องการปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม
- คนที่ต้องการเพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า
- คนที่มีรูขุมขนกว้าง ใบหน้ามัน
- คนที่มีโหนกแก้มใหญ่
- คนที่มีน่องใหญ่ ขาใหญ่จากกล้ามเนื้อและออกกำลังกาย
- คนที่มีเหงื่อออกเยอะ มีกลิ่นตัว
ฉีดโบท็อก ทำร่วมกับอะไรได้บ้าง ?
สามารถฉีดโบท็อกควบคู่กับทำหัตถการอื่น ๆ ร่วมด้วยได้ เช่น
- ฟิลเลอร์
- ร้อยไหม
- เมโสแฟต
- Hifu Ultraformer III
- Ulthera
- Thermage
ทั้งนี้ควรให้แพทย์ผู้เป็นผู้ตรวจประเมินอย่างละเอียด เพราะโครงสร้างใบหน้าและสภาพผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์ปัญหา วางแผนและจัดลำดับขั้นตอนการทำหัตถการให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคนไข้ได้ดีที่สุด
ฉีดโบท็อก จุดไหน ? ช่วยอะไรบ้าง ?
โบท็อกสามารถนำมาฉีดในกล้ามเนื้อได้หลายจุด ทั้งบนใบหน้าและร่างกาย ดังนี้
- กราม : ลดกราม ปรับหน้าเรียว
- หน้าผาก : ลดริ้วรอยหน้าผาก
- ขมวดคิ้ว : ลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว
- หางตา : ลดริ้วรอยตีนกา
- โหนกแก้ม : ลดโหนกแก้ม กระชับรูขุมขน
- ปีกจมูก : ลดปีกจมูก
- แกนจมูก : รัดแกนจมูกให้คมขึ้น
- กรอบหน้าและคอ : ลดกราม ปรับหน้าเรียว
- บริเวณศีรษะ บ่า ไหล่ ท้ายทอย : รักษาไมเกรน
- รักแร้ : ลดเหงื่อใต้วงแขน
- ฝ่ามือ ฝ่าเท้า : ลดเหงื่อฝ่ามือ ฝ่าเท้า
- น่อง : ลดกล้ามเนื้อน่อง
- ต้นแขน : ลดกล้ามเนื้อแขน
ฉีดโบท็อก อันตรายไหม ?
การฉีดโบท็อก ไม่อันตราย เพราะโบท็อกถูกผลิตขึ้นมาจากแบคทีเรียชื่อ Clostridium มีงานวิจัยรับรองว่าไม่ก่อให้เกิดอันตราย หรือมีสารตกค้างในร่างกาย สามารถสลายได้เอง 100% มีความปลอดภัยสูง ซึ่งโบท็อกถูกนำมาใช้ทั้งในวงการแพทย์รักษาโรค และวงการเสริมความงาม
อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกให้ปลอดภัย ต้องใช้โบท็อกแท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และฉีดในสถานที่ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพราะหากฉีดโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว หรือฉีดกับหมอกระเป๋า จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อที่ส่งผลเสียในระยะยาว
สรุป
การฉีดโบท็อกเป็นวิธีช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าเรียวได้อย่างตรงจุด ให้ผลลัพธ์ที่ดีและดูเป็นธรรมชาติ สามารถฉีดได้หลายจุดทั้งใบหน้าและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ควรฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้โบท็อกแท้เท่านั้น