1 .HIFU คืออะไร ?
Hifu (ไฮฟู่) ย่อมาจาก High-Intensity Focused Ultrasound เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงเพื่อกระชับผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด
การทำ Hifu เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ และมีริ้วรอย ที่ใบหน้า ลำคอ หน้าอก รวมถึงบนร่างกาย
2. วิธีการทำงานของเครื่อง HIFU
Hifu มีหลักการทำงานโดยการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ส่งพลังงานความร้อนผ่านหัวยิงในแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับผิวชั้นบนลงไปลึกถึงผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ผ่าตัดดึงหน้า
โดยพลังงานจากเครื่อง Hifu จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวหน้าจะยกกระชับ เต่งตึง ริ้วรอย ลดเลือนลง
3. ทำ HIFU มีข้อดีอย่างไร ?
การทำ Hifu มีข้อดีหลายประการ ดังนี้
- ไม่ต้องผ่าตัด : Hifu เป็นวิธีการรักษาแบบไม่รุกราน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาชาหรือดมยาสลบ จึงไม่มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด
- ไม่น้อย : ระหว่างทำ Hifu เราจะรู้สึกเจ็บน้อยมาก ในบางคนอาจรู้สึกไม่เจ็บเลย ในขณะทำอาจรู้สึก จี๊ด ๆ หน่วงๆ เท่านั้น นอกจากนี้ในขั้นตอนการทำยังมีการแปะยาชา เพื่อบรรเทาอาการเจ็บลงอีกด้วย
- ไม่มีแผลเป็น: เนื่องจากไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่ทำให้เกิดแผลเป็นบนผิวหนังหลังการรักษา
- ระยะเวลาพักฟื้นสั้น : หลังทำ Hifu สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเ ไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด
- มีประสิทธิภาพ : Hifuสามารถ ยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ และสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังการทำ 20% และคงผลลัพธ์ได้นาน 5-6 เดือน
- ปลอดภัย : เทคโนโลยี Hifu ได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัยสูง เหมาะกับทุกสภาพผิว
4. HIFU เหมาะกับใครบ้าง ?
Hifu เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการยกกระชับผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย : Hifu สามารถช่วยยกกระชับผิวหน้า แก้ปัญหาแก้มหย่อน คางสองชั้น เหนียงย้อย
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย : Hifu สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก ตีนกา
- ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด : การทำ Hifu สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด : Hifu ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ทำแล้วไม่มีแผล
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว: Hifu สามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังทำทันที
ข้อควรรู้ : เราสามารถทำ Hifu ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เนื่องจาก เมื่ออายุเกิน 20 ปีใบหน้าของเรากว่า 90% จะเริ่มหย่อนลง elastin เริ่มยืดออก ทำให้เริ่มมีร่องใต้ตา ร่องแก้ม และถ้าปล่อยให้ยืดออกเรื่อย ๆ ผิวหน้าจะเริ่มหย่อนลงมากขึ้น ดังนั้นการทำไฮฟู่ เพื่อยกกระชับเพื่อไม่ให้หน้าหย่อน ตั้งแต่อายุน้อย ๆ ก็จะช่วยให้เราคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้
5.ข้อจำกัดและข้อควรระวัง ในการทำ HIFU มีหรือไม่ ?
ก่อนตัดสินใจทำ Hifu ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสม โดยผู้ที่ต้องระวังเป็นพิเศษได้แก่
- - ผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจาก Hifu อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้
- - ผู้มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคลมชัก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ Hifu
- - ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบ ควรรอให้ผิวหนังหายดีก่อนทำ Hifu
นอกจากนี้หลังจากทำ Hifu อาจมีอาการบวม แดง รู้สึกเจ็บ ตึงผิวได้ชั่วคราว ซึ่งอาการจะหายไปได้เองใน 1-2 สัปดาห์
6.HIFU ควรใช้กี่ Line ? กี่วันเห็นผล ?
Hifu สามารถทำได้หลายตำแหน่งทั้งใบหน้าและร่างกาย จำนวน Line โดยประมาณที่ใช้ในแต่ละบริเวณ ได้แก่
- - แก้ม หรือ เหนียง : 100 line
- - แก้ม + เหนียง : 300 line
- - ใต้ตา + ร่องแก้ม : 300 line
- - ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน : 700 line
- - ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา : 1,000 line
ด้านการเห็นผลลัพธ์หลังทำ hifu สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที 20% และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ 1-3 เดือน เนื่องจากผิวต้องการเวลาในการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 5-6 เดือน หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
7. ความแตกต่างระหว่าง Hifu Vs Ulthera
Hifu และ Ulthera ทั้งสองเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการยกกระชับผิวที่มีประสิทธิภาพเหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างในรายละเอียดของการทำงาน ดังนี้
- - การมองเห็นชั้นผิวขณะทำ
Hifu : ส่วนใหญ่ไม่มีภาพ real-time ของชั้นผิวระหว่างการทำทรีทเมนต์
Ulthera: ใช้เทคโนโลยี Ultrasound Visualization ทำให้มองเห็นภาพตัดขวางของชั้นผิวแบบ real-time ขณะทำการรักษา จึงมีความแม่นยำสูง
- - อุปกรณ์และระบบนำส่งพลังงาน
Hifu : มีหลายระบบและยี่ห้อ โดยยี่ห้อ Hifu ที่มีประสิทธิภาพรองจาก Ulthera คือ Hifu ultraformer iii และ Ultraformer MPT
Ulthera: ใช้อุปกรณ์และระบบเฉพาะของ Ultherapy เท่านั้น
- - การคงผลลัพธ์
Hifu Ultraformer III : ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-6 เดือน
Ulthera: ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
8. HIFU แต่ละเครื่องแตกต่างกันอย่างไร ?
จากที่อธิบายในข้อ 7 ว่า เครื่อง Hifu มีหลายรุ่นและแบรนด์ ซึ่งแตกต่างกันในด้านของความเข้มข้นของพลังงาน ความลึกของการทำ และความสามารถในการยกกระชับผิว เพื่อตอบสนองความต้องการของคนไข้ การเลือกเครื่อง Hifu ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ และความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล ตามสภาพผิว ระดับความหย่อนคล้อย
เครื่อง Hifu ที่คลินิกส่วนใหญ่นิยมใช้เนื่องจากมีความปลอดภัย ประสิทธิภาพสูง เห็นผลลัพธ์ชัดเจน มีงานวิจัยรองรับ และได้รับการรับรองจากองค์การ FDA คือ Hifu ยี่ห้อ Ulthera และ Ultraformer III และ Ultraformer MPT
(เครื่อง Hifu Ultraformer III และ Ultraformer MPT)
9 .HIFU สามารถทำร่วมกับหัตถการใดได้บ้าง ?
Hifu สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการปรับปรุงสภาพผิว ลดริ้วรอย และเพิ่มความกระชับของผิวหนัง ได้แก่:การร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อก ฉีดเมโสหน้าใส ฉีดเมโสแฟต เป็นต้น
ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำการผสมผสานหัตถการที่เหมาะสมสำหรับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและระยะเวลาที่เหมาะสม
10. วิธีการดูแลก่อน-หลัง HIFU
การดูแลผิวก่อนและหลังการทำ Hifu มีความสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงและเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา โดยมีแนวทางดังนี้
ก่อนทำ Hifu :
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ระคายเคือง เช่น AHA, BHA, Retinol ก่อนทำ 3-5 วัน
- แจ้งประวัติการแพ้ ยา หรือการมีโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
- ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด และงดใช้เครื่องสำอางหรือครีมต่างๆก่อนทำ
หลังทำ Hifu :
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดหรือใช้ครีมกันแดดเมื่อต้องออกแดดเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังทำ
- ไม่ควรนวด กด ถูกบริเวณที่ทำ Hifu แรง ๆ สามารถใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นประคบเพื่อลดความระคายเคืองหรือความรู้สึกไม่สบายผิวหลังทำ
- ใช้ครีมบำรุงที่อ่อนโยน เช่น ครีมให้ความชุ่มชื้น และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือส่วนผสมที่ระคายเคืองผิว
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA, BHA, Retinol, Vitamin C เป็นเวลาอย่างน้อย 3-5 วันหลังทำ
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนักๆหรือขัดถูผิวแรงๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ
- รอให้ผิวหายจากความระคายเคืองและบวมแดงก่อนทำทรีทเมนต์อื่นๆต่อ โดยทั่วไปประมาณ 3-7 วัน
- ดื่มน้ำมาก ๆ ทานอาหารมีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยฟื้นบำรุงผิว
หากมีอาการผิดปกติหลังทำ Hifu เช่น ผื่นแพ้ บวมแดง เจ็บมาก ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที การปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลผิวที่ถูกต้องช่วยให้การทำ Hifu ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
สรุป
การใช้ Hifu สำหรับการยกกระชับผิวถือเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับใครก็ตามที่ต้องการยกกระชับผิวให้กระชับ ดูเต่งตึง ลดเลือนริ้วรอย แบบเห็นผลได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-6 เดือน ทำแล้วไม่ต้องพักฟื้น Hifu จึงนับเป็นวิธีการยกกระชับผิวที่ปลอดภัยและน่าสนใจมากในปัจจุบันค่ะ
Tweet |