หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อ Hifu Ulthera และ Thermage กันมาบ้างแล้ว ซึ่งทั้งสามต่างก็เป็นนวัตกรรมยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย เรียกคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดย Ulthera Thermage Hifu มีลักษณะที่คล้ายกัน ช่วยยกกระชับผิวได้เหมือนกัน ทำให้เกิดการเปรียบเทียบอยู่บ่อย ๆ ว่าเครื่องไหนดีกว่ากัน
ซึ่ง Ulthera - Thermage - Hifu แบบไหนดีที่สุด ? ทั้งสามเครื่องมีความแตกต่างกันอย่างไร ? และแบบไหนเหมาะกับเรา ? บทความนี้มีคำตอบค่ะ
Ulthera - Hifu - Thermage คืออะไร ? มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
Ulthera - Thermage - Hifu คือ เครื่องมือยกกระชับที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
ก่อนที่จะไปดูความแตกต่างระหว่าง 3 เครื่อง เรามาทำความรู้จักเทคโนโลยีที่ใช้ หลักการทำงาน และรุ่น/ยี่ห้อที่นิยมใช้กันของแต่ละเครื่องกันให้มากขึ้นกันค่ะ
Ulthera
Ulthera หรือ Ultherapy เครื่องมือยกกระชับผิวจากประเทศอเมริกา ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน 60-70°C ยิงลงสู่ชั้นผิวได้ถึงชั้นผิว SMAS (ชั้นเดียวกับที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า) ในลักษณะจุดโฟกัสขนาด 1 mm โดยความร้อนจะทำให้ผิวเกิดการหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวยกกระชับเต่งตึงขึ้น
ในปัจจุบันเครื่อง Ulthera มีอยู่รุ่นเดียว คือ Ulthera SPT เป็นเวอร์ชันที่มีการอัปเกรดเทคนิคที่เรียกว่า SPT (See Plan Treat) ที่มีหน้าจอแสดงให้เห็นถึงชั้นผิวของแต่ละคนแบบ Real - Time คุณหมอจึงสามารถออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล (Cuztomized Ultherapy) ทำให้ได้ขั้นตอนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน ได้ผลลัพธ์การยก
กระชับที่แม่นยำ
Hifu
Hifu (High - Intensity Focused Ultrasound) เป็นเครื่องยกกระชับที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน 60-70°C ยิงลงสู่ชั้นผิวได้ถึงชั้นผิว SMAS ในลักษณะจุดโฟกัสขนาด 0.5 - 1 mm ความร้อนจะทำให้ผิวเกิดการหดตัว ดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้น
ปัจจุบันเครื่อง Hifu มีอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ หลายเกรดค่ะ แต่ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและหลายคลินิกชั้นนำหลายแห่งนิยมใช้กันคือ Hifu Ultraformer III ระบบ Macrofocus มีรอบพลังงานไวสุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ยิงพลังงานได้คงที่ เจ็บน้อยลง และได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US FDA ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี และไทย
Thermage
Thermage คือ เครื่องมือยกกระชับผิวที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ยิงลงสู่ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน ในรูปแบบก้อนพลังงานความร้อนขนาด 3 - 16 cm² ส่งผลให้ผิวเกิดการหดตัว ยกกระชับขึ้น พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สลายไขมัน ลดเซลลูไลท์
ปัจจุบันเครื่องเทอร์มาจที่นิยมใช้กัน คือ Thermage FLX เป็นรุ่นล่าสุดที่ออกมาในปี 2018 โดยรุ่นนี้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ ทำให้ได้ผลลัพธ์การยกกระชับที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปล่อยพลังงานได้ลึกกว่าเดิม แต่ใช้จำนวน shot น้อยลง รวมถึงมีการพัฒนาระบบการทำงานที่จะช่วยให้ระหว่างทำรู้สึกเจ็บน้อยกว่ารุ่นก่อน ๆ
Ulthera - Thermage - Hifu เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?
Ulthera vs Hifu
เครื่อง Ulthera และ Hifu ใช้เทคโนโลยีในคลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงในการช่วยยกกระชับเหมือนกัน และยิงลงเข้าสู่ผิวไปได้ถึงชั้นผิว SMAS เช่นเดียวกัน แต่ Ulthera จะมีขนาดจุดพลังงานความร้อนที่ใหญ่และมีความเข้มข้นกว่า Hifu ทำให้ได้ผลลัพธ์การยกกระชับที่แม่นยำกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า แต่จะรู้สึกเจ็บขณะทำได้มากกว่า
Ulthera vs Thermage
Ulthera และ Thermage มีความต่างกันในเรื่องของเทคโนโลยีที่ใช้ และการทำงานในการช่วยยกกระชับ โดย Thermage จะใช้เป็นพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง ขณะที่ Ulthera ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์
นอกจากนี้การทำ Thermage จะส่งพลังงานความร้อนถึงชั้นไขมัน จึงเน้นไปที่การกระตุ้นคอลลาเจน ลดชั้นไขมัน ให้ผิวแน่น กระชับขึ้น ต่างจากอัลเทอร่าที่ยิงลงไปได้ลึกถึงชั้น SMAS ทำให้มีความโดดเด่นในเร่องการยกกระชับผิวหย่อนคล้อยมากกว่า
Thermage vs Hifu
ความแตกต่างระหว่าง Hifu กับ Thermage จะคล้ายกับ Ulthera ที่แตกต่างกับ Thermage เลยค่ะ ทั้งในเรื่องเทคโนโลยีที่ใช้ และกระบวนการทำงานในการยกกระชับผิว
Ulthera - Thermage - Hifu แบบไหนเหมาะกับใคร ?
Hifu - เหมาะกับผู้ที่ผิวเริ่มมีความหย่อนคล้อย มีริ้วรอยยังไม่มาก และมีไขมันน้อย
Ulthera - เหมาะกับผู้ที่ผิวมีความหย่อนคล้อย มีริ้วรอยระดับปานกลาง และมีไขมันน้อย ต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่อยู่ได้นาน
Thermage - เหมาะกับผู้ที่ใบหน้าเริ่มมีความหย่อนคล้อย มีริ้วรอยในระดับมาก ผู้ที่มีไขมัน ผิวย้วย ต้องการยกกระชับผิวพร้อมสลายไขมัน
Ulthera - Thermage - Hifu นิยมทำตำแหน่งไหนบ้าง ?
• Ulthera - ใบหน้า รอบดวงตา เหนียง ลำคอ หน้าอก ท้องแขน หน้าท้อง
• Thermage - ใบหน้า แก้ม เหนียง รอบดวงตา ลำตัว
• Hifu - ใต้ตา แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา
Ulthera - Thermage - Hifu กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานเท่าไร ?
Hifu | Ulthera | Thermage | |
ระยะเวลาการเห็นผล | เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทันที 20% และเห็นผลชัดเจนหลังทำ 2 - 3 เดือน | เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงประมาณ 30% และเห็นผลชัดเจนหลังทำ 2 - 3 เดือน | ผิวกระชับขึ้นทันทีหลังทำ 20% และเห็นผลชัดเจนหลังทำ 2 - 3 เดือน |
ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ | อยู่ได้นานประมาณ 5 - 6 เดือน | อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี | อยู่ได้นานประมาณ 1 - 2 ปี |
ทั้งนี้ ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ในแต่ละคนอาจจะอยู่ได้นานไม่เท่ากัน โดยจะขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลตัวเองของแต่ละคนด้วยค่ะ
ระหว่าง Ulthera - Thermage - Hifu แบบไหนเจ็บสุด ?
การยกกระชับผิวด้วยเครื่องมือยกกระชับ ให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจน ต้องบอกเลยค่ะว่ารู้สึกเจ็บทุกเครื่องแต่เจ็บมากหรือเจ็บน้อย จะขึ้นอยู่กับระดับความอดทนต่อความเจ็บของแต่ละคนด้วยค่ะ
ในกรณีที่ดูจากกระบวนการทำงานในการยกกระชับ และให้เรียงลำดับความเจ็บจากน้อยไปมาก จะเป็น Hifu < Ulthera < Thermage โดยสาเหตุที่ทำให้การทำ Thermage รู้สึกเจ็บมากที่สุด คือ พลังงานความร้อนที่ยิงลงเข้าชั้นผิวมีลักษณะเป็นก้อนใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับอีกสองเครื่องที่จะส่งพลังงานความร้อนเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ
ทั้งนี้ ยิ่งเจ็บผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งอยู่ได้นาน โดยจะสังเกตได้เลยค่ะว่า ผลลัพธ์จากการทำ Hifu จะอยู่ได้ไม่นานเท่าการทำ Ulthera หรือ Thermage โดย Thermage ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานที่สุดประมาณ 1-2 ปี
Ulthera VS Thermage VS Hifu แบบไหนดีที่สุด
Hifu และ Ulthera จะเน้นไปที่เรื่องการยกกระชับผิว ส่วน Thermage จะมีจุดเด่นในเรื่องกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอย สลายไขมันสะสม
ระหว่างการทำ Ulthera Thermage หรือ Hifu แบบไหนจะดีที่สุดขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาที่เราต้องการแก้ไข รวมถึงงบประมาณเป็นหลัก ไม่สามารถตอบได้ว่าเครื่องไหนดีที่สุค่ะ แต่อยู่ที่ว่าการรักษาแบบไหนจะเหมาะกับเราที่สุด เนื่องจากแต่ละเครื่องจะมีจุดเด่นและข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกัน แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอที่มีประสบการณ์เพื่อให้คุณหมอเป็นผู้แนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดค่ะ
สรุป
Ulthera - Thermage - Hifu ต่างก็เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ซึ่งทั้งสามก็มีจุดเด่นที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคนที่ต่างกันไป ซึ่งวิธีไหนจะดีที่สุด ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินถึงสภาพผิว ระดับปัญหา ความต้องการ และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับเรา เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด
Tweet |