ปรับรูปทรงหน้าผากเลือกแบบไหนดี ฟิลเลอร์หน้าผาก VS ผ่าตัดเสริมหน้าผาก
Room : Others
admin_vsq | ผิวผสม | 25-29 Yrs | 0 รีวิว 24/05/2024 13:47     


“ฟิลเลอร์หน้าผาก” ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติ ดูละมุนได้มากขึ้น และยังเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด สามารถเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ก็ยังมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ให้มากขึ้นกันดีกว่า


ฟิลเลอร์หน้าผาก VS ผ่าตัดเสริมหน้าผาก


การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เพราะใช้ระยะเวลาในการทำหัตถการสั้น ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากทำเสร็จ


นอกจากนี้ ยังสามารถปรับให้เข้ากับรูปหน้าของแต่ละบุคคลได้ง่าย แต่ข้อเสียคือ ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร ต้องทำซ้ำทุก 6-12 เดือน


ในขณะที่ การผ่าตัดเสริมหน้าผาก จะให้ผลลัพธ์ที่ถาวรกว่า ไม่ต้องคอยกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ แต่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่า มีแผลที่ต้องดูแล และมีความเสี่ยงในการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ เลือดออก หรือเส้นประสาทถูกทำลาย นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมก็สูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์อีกด้วย


ดังนั้น การเลือกว่าจะฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือผ่าตัดเสริมหน้าผาก ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน รวมถึงข้อดีข้อเสียที่ยอมรับได้


ฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะกับใครบ้าง ?


ฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าผากบุ๋ม ตื้น หรือมีริ้วรอยบนหน้าผาก ที่ต้องการเพิ่มความโหนกนูนและความกลมกลืนให้กับใบหน้า โดยไม่อยากเข้ารับการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น และต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว



แต่ทั้งนี้ ผู้ที่จะฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และไม่แพ้ส่วนประกอบของฟิลเลอร์


ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก กี่วันเห็นผล ต่างจากการเสริมหน้าผาก หรือไม่ ?


การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จะเห็นผลหลังจากฉีดทันที แต่อาจต้องใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน เพื่อให้ผิวหนังเรียบเนียน และฟิลเลอร์เข้าที่ ในขณะที่ การเสริมหน้าผาก อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ กว่าจะเห็นผลลัพธ์สุดท้าย


นอกจากนี้ ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อาจอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นของฟิลเลอร์ การดูแลตัวเอง และการเผาผลาญของร่างกาย จึงอาจต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์เอาไว้


ในขณะที่ การเสริมหน้าผาก จะให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างถาวร ไม่ต้องคอยมาทำซ้ำบ่อยๆ แต่หากไม่พอใจผลลัพธ์ อาจต้องเข้ารับการผ่าตัดแก้ไข ซึ่งยุ่งยากและมีความเสี่ยงมากกว่า


ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?


การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น อาการบวม ช้ำ แดง คัน หรือเจ็บในบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปได้เองใน 2-7 วัน แต่หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น


  • ฟิลเลอร์ย้ายตำแหน่ง ทำให้ใบหน้าไม่เท่ากัน
  • ฟิลเลอร์เป็นก้อน นูน ผิวไม่เรียบ
  • ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด ทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือด และเกิดเป็นแผลเน่า
  • เกิดการติดเชื้อจากการฉีด ทำให้หน้าบวม แดง ร้อน ปวด
  • เกิดแพ้ส่วนประกอบในฟิลเลอร์ ทำให้เป็นผื่น คัน บวม


ดังนั้น เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น รวมถึงแจ้งข้อมูลเกี่ยกับสุขภาพของตัวเองอย่างชัดเจน  เช่น โรคประจำตัว ยาที่ใช้ และประวัติการแพ้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด


ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคุ้มไหม ?


การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมความสวยงามให้ใบหน้า โดยไม่ต้องเจ็บตัวมาก เห็นผลรวดเร็ว และพักฟื้นในระยะเวลาสั้น



ราคาของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จะอยู่ที่ประมาณ หลักหมื่นต้น ๆ ต่อ 1 cc. ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์เกรดพรีเมียม ฝั่งยุโรป แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์เกาหลี ราคาก็จะถูกลง แต่อายุการคงผลลัพธ์ก็จะสั้นกว่าเช่นกัน


แต่ถ้าคิดเป็นครั้งต่อปี ก็ถือว่าคุ้มค่ากว่าการผ่าตัดมาก (ในกรณีที่ไม่อยากผ่าตัด) อีกทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยกว่า และสามารถปรับผลลัพธ์ให้เป็นธรรมชาติได้ง่ายกว่าอีกด้วย


แต่ทั้งหมดต้องมาพร้อมความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยควรเลือกสถานพยาบาล หรือแพทย์ผู้ฉีด ที่มีความน่าเชื่อและมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น  รวมถึงต้องใช้ฟิลเลอร์แท้  ในทางกลับกัน หากเห็นแก่ของถูก ใช้ฟิลเลอร์เกรดต่ำ ฟิลเลอร์หิ้ว หรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่คุ้มค่าได้


แนะนำควรเลือกคลินิกที่มีใบรับรองถูกต้อง และให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเป็นผู้ดูแล เพื่อการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน คุ้มค่าแก่การลงทุนอย่างแท้จริง


สรุป


ฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการเสริมความงาม ที่ได้ผลไว ปลอดภัย และคุ้มค่า เมื่อเทียบกับการเสริมหน้าผากแบบศัลยกรรม โดยสามารถเพิ่มมิติและลดริ้วรอยบนใบหน้า ให้ดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านเวลา ไม่อยากเจ็บตัว และงบประมาณ แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูล และเลือกสถานที่ที่น่าเชื่อถือ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยนั่นเอง




Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -