Filler ใต้ตา ช่วยให้ใบหน้าดูเรียบเนียน เต่งตึง อิ่มฟู มีชีวิตชีวามากขึ้น
Room : Others
admin_vsq | ผิวผสม | 25-29 Yrs | 0 รีวิว 27/05/2024 11:31     

ใต้ตาดําฉีดอะไรดี ? ด้วยความที่เซลล์ผิวของเราจะเริ่มยุบลงเมื่อเข้าสู่วัย 25 ปีขึ้นไป ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาเช่นริ้วรอย ฉีดถุงใต้ตา และใต้ตาคล้ําฉีด ด้วยเหตุนี้การฉีด Filler ใต้ตา จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มปริมาณเนื้อเยื่อที่ขาดหายไปในบริเวณนี้ได้อย่างตอบโจทย์ 


แล้วฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ข้อห้ามมีอะไรบ้าง ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม ? ในบทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับ Filler ใต้ตา ให้รู้ลึกกันมากขึ้น

Filler ใต้ตา คืออะไร ? ลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาได้อย่างไร ?

การฉีด Filler ใต้ตา คือ การใช้สารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์) เพื่อแก้ไขปัญหารอยคล้ำ ถุงใต้ตา หรือใต้ตาลึก ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้สารเติมเต็ม เช่น ไฮยาลูรอนิกแอซิด เมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว ผู้รับบริการไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้เลย หรือผลลัพธ์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะชัดเจนขึ้น รอยคล้ำและรอยย่นรอบดวงตาจะดูดีขึ้นอย่างมองเห็นได้ชัดเจน 


ผู้รับบริการจะพบว่าบริเวณใต้ตาดูเต็ม เป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ซึ่งการฉีดใต้ตาคล้ำต้องใช้เทคนิคหรือประสบการณ์ที่มากพอ เนื่องจากบริเวณรอบดวงตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดมากที่สุดบนใบหน้า หากทำไม่ถูกวิธีอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่สวย หรือไม่เป็นธรรมชาติได้ 


ดังนั้น การเลือกการรักษาที่ดีสำหรับการฉีด ifiller ใต้ตาควรพิจารณาอย่างรอบคอบและให้ความสำคัญกับคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผิวหนัง

Filler ใต้ตา ช่วยอะไรได้บ้าง ? กระตุ้นคอลลาเจนได้จริงไหม ?

ผิวใต้ตา มีลักษณะเป็นพิเศษและบอบบางมาก เนื่องจากผิวใต้ตานั้นมีจำนวนมันน้ำมากกว่าบริเวณอื่น ๆ ของใบหน้า มีสารธรรมชาติที่ช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้น แต่เมื่อเราเข้าสู่วัย ผิวใต้ตามีแนวโน้มที่จะสูญเสียความชุ่มชื้นหรือความยืดหยุ่นไป ซึ่งทำให้เกิดริ้วรอย ถุงใต้ตา หรือความผิดปกติในรูปร่างของผิว จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราจะต้องรักษาและดูแลให้ดี


ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหนึ่งในวิธีการที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนของผิวใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อให้คุณเข้าใจเหตุผลและประโยชน์ของฟิลเลอร์ใต้ตามากขึ้น แต่ก่อนที่เราจะเข้าใจถึงประโยชน์ของฟิลเลอร์ใต้ตา มาเริ่มต้นด้วยการเข้าใจโครงสร้างของผิวใต้ตากันก่อนเลยดีกว่า

Filler ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจากสาเหตุอะไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุแตกต่างกันไป ต่อไปนี้คือสาเหตุที่อาจทำให้เกิดก้อนใต้ตาหลังการฉีด Filler ใต้ตา


  • - การฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ถูกต้อง การฉีดใต้ตาดํารีวิวโดยไม่มีความระมัดระวังหรือไม่ถูกต้องในเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องอาจทำให้เกิดก้อน การวางตำแหน่งหรือการประสานสารฟิลเลอร์อาจไม่ถูกต้องสามารถทำให้สารฟิลเลอร์เหลวมากเกินไปหรือก้อนสร้างขึ้นใต้ผิวได้

  • - การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ปัญหาก้อนใต้ตาอาจเกิดขึ้นเนื่องจากการใช้วัตถุดิบที่ไม่เหมาะสมหรือมีคุณภาพต่ำ สารที่ไม่เหมาะสมอาจมีลักษณะที่ไม่สามารถละลายได้อย่างเหมาะสมในระหว่างการฉีดหรืออาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิดขึ้นในผิวหนัง

  • - ปัจจัยสุขภาพ ความเสี่ยงในการเกิดก้อนใต้ตาอาจสูงขึ้นหากผู้รับการรักษามีประวัติทางการแพทย์ที่มีผลต่อการดูแลสุขภาพที่ไม่ดี เช่น โรคภูมิแพ้ หรืออาการอักเสบใต้ผิวหนัง


การปรับปรุงเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ หรือการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดก้อนใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากมีอาการผิดปกติหรือปัญหาหลังการใช้งานฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมในข้างต้น

Filler ใต้ตา มีผลข้างเคียงไหม ? เจ็บไหม ?

การใช้ Filler ใต้ตาเป็นการกระตุ้นเซลล์ผิวของร่างกายให้สร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมักจะเป็นเล็กน้อยและชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ควรรู้ถึงผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ก่อนที่จะตัดสินใจให้ทำ ผลข้างเคียงที่เป็นไปได้รวมถึง


  • - บวมแดงบริเวณที่ฉีด บางครั้งอาจมีการบวมในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ตา ซึ่งส่วนใหญ่จะหายไปภายในวันหรือสองวัน แต่บางครั้งอาจเป็นไปได้ที่บวมจะคงอยู่นานขึ้น สำหรับบางรายผู้ใช้สามารถทำให้บวมลดลงได้ด้วยการประคบเย็น

  • - การเกิดแผลหรือผลข้างเคียง อาจเกิดการเจ็บปวดรอยแผลบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะหายไปภายในไม่กี่วัน แต่บางครั้งอาจจะต้องใช้เวลานานขึ้น และบางครั้งก็อาจต้องรักษาโดยใช้ยาต้านการติดเชื้อ

  • - การเกิดก้อน ในบางกรณีที่ฟิลเลอร์ถูกเติมร่องใต้ตาไปในบริเวณที่ไม่เหมาะสมหรือเกินจำเป็น อาจเกิดการเป็นก้อนใต้ผิวหนังได้ ซึ่งบางครั้งอาจต้องมีการปรับปรุงโดยการใช้เทคนิคทาเย็นหรือกระชับผิว

  • - การติดเชื้อ อาจเกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ตา โดยเฉพาะในกรณีที่มีการใส่ฟิลเลอร์โดยไม่สะอาด ซึ่งอาจต้องรักษาโดยการใช้ยาต้านการติดเชื้อหรือการรักษาอื่น ๆ ที่เหมาะสม

  • - ปัญหาทางด้านสุขภาพ บางครั้งผู้ที่มีประวัติการติดเชื้อหรือปัญหาสุขภาพร้ายแรงอาจไม่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอใต้ตา ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือปัญหาที่รุนแรงขึ้น


การปรึกษาหรือใช้บริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ควรพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือความเหมาะสมของการใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาก่อนที่จะตัดสินใจให้ทำ โดยรวมแล้วฟิลเลอร์ใต้ตามักจะมีผลข้างเคียงน้อยมาก และสามารถดูแลรักษาได้ง่ายในกรณีที่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้น

Filler ใต้ตา อันตรายไหม ? ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ? การใช้ Filler ใต้ตามักจะถือว่าปลอดภัยเมื่อมีการทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน การกระทำนี้มักเป็นเรื่องประโยชน์ในการลดริ้วรอย ปรับรูปร่างใต้ตา หรือปัญหาเช่นถุงใต้ตา แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึง เช่น บวม แดง หรือระคายเคืองในบางกรณี


อย่างไรก็ตาม การคำนึงถึงความเป็นไปได้และปรึกษากับแพทย์ก่อนการทำฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงนี้ลงในระดับที่ต่ำที่สุด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อควรระวังและความเป็นไปได้ทั้งหมดก่อนการตัดสินใจให้ผู้ที่สนใจทำฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

Filler ใต้ตา บวมกี่วัน ? ใช้เวลาหายกี่วัน ?

หลังจากการทำการฉีด Filler ใต้ตา บางคนอาจมีอาการบวมได้ เป็นอาการส่วนหนึ่งระหว่างฉีดฟิลเลอร์ที่พบได้บ่อย ๆ หลังจากทำกระบวนการนี้ อาการบวมอาจเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันแรกหลังจากการทำฟิลเลอร์ โดยจะลดลงเองไปเรื่อย ๆ ภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยทั่วไปแล้ว จะเป็นเล็กน้อยและไม่ค่อยมีความรุนแรง เป็นผลจากกระบวนการการทำฟิลเลอร์ที่เข้าสู่ระบบต่ำแหน่งของผิวหนัง และการแตกต่างในการสารไฮยาลูรอนิคภายในชั้นผิวหนัง


สำหรับบางคนที่มีความไวต่อสารที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม อาจพบว่ามีอาการมากขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ในกรณีเช่นนี้ ควรแจ้งแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติม เช่น การใช้ยาลดการอักเสบหรือการใช้ถุงน้ำแข็งในการช่วยลดอาการบวมได้ เพื่อให้ผู้รับบริการมีความผ่อนคลายมากขึ้นในระหว่างระยะเวลาหลังการทำฟิลเลอร์ใต้ตา

Filler ใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง ? ในการช่วยลดริ้วรอย

ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีการแก้ปัญหาผิวใต้ตาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่าง ๆ ดังนี้


  • - ผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา

  • - ผู้ที่มีใต้ตาดำ คล้ำ

  • - ผู้ที่มีถุงใต้ตา

  • - ผู้ที่มีเบ้าตาลึก ตาโหล

  • - ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว

Filler ใต้ตา ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?

แม้ Filler ใต้ตาจะเป็นวิธีแก้ปัญหาผิวใต้ตาที่ได้ผลดี แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกคน ไปดูกันว่า ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้


  • - ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ หรือ เบาหวาน

  • - ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

  • - ผู้ที่มีผิวหนังบริเวณใต้ตาอักเสบหรือติดเชื้อ

  • - ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชาหรือสารฟิลเลอร์

  • - ผู้ที่มีความคาดหวังผลลัพธ์ที่สูงเกินไป

ขั้นตอนการฉีด Filler ใต้ตา เป็นอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นกระบวนการที่ต้องมีความระมัดระวังและความพิถีพิถันในการดำเนินการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้น ขั้นตอนสำคัญในการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาได้แก่ดังนี้


  • - การประเมิน แพทย์หรือผู้ทำการรักษาจะตรวจสอบประวัติการแพ้ยา ประวัติการรับบริการที่ผ่านมา และปัญหาที่มีอยู่ เพื่อประเมินความเหมาะสมของการใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย

  • - การทำความสะอาด ผู้ทำการรักษาจะทำความสะอาดบริเวณใต้ตาด้วยสารทำความสะอาดเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ

  • - การใช้ยาชา ในบางกรณี อาจมีการใช้ยาชาเพื่อลดความรู้สึกของผู้รับการรักษาและให้ความสบายในระหว่างกระบวนการ

  • - การฉีดฟิลเลอร์ ผู้ทำการรักษาจะใช้เข็มฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังในบริเวณที่มีปัญหา โดยประมาณใต้ร่องตาหรือในบริเวณที่มีความต้องการ การฉีดฟิลเลอร์จะถูกดำเนินการโดยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันการเจ็บเป็นบาง

  • - การประเมินผลลัพธ์ หลังจากการทำฟิลเลอร์ใต้ตา เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะทำการประเมินผลลัพธ์และให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังจากการรักษา อาจมีการตรวจสอบและปรับปรุงผลลัพธ์ในครั้งต่อไปตามความเหมาะสม

  • - การติดตาม ผู้ป่วยอาจถูกแนะนำให้มีการติดตามระยะเวลาหลังจากการทำฟิลเลอร์ เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบผลลัพธ์และให้คำแนะนำเพิ่มเติมต่อไป

ฉีด Filler ใต้ตาใช้กี่ครั้ง และ CC เท่าไหร่ถึงจะเห็นผล ?

ฉีด filler ใต้ตาบวมกี่วัน ? อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเข้าที่ ? การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามักใช้ประมาณ 1-2 ครั้งเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดี ปริมาณของฟิลเลอร์ที่ใช้อาจแตกต่างไปตามความต้องการและปัญหาที่ต้องการแก้ไข โดยปกติมักใช้ปริมาณปานกลาง (1-2 CC) ในแต่ละครั้ง เพื่อปรับปรุงรอยคล้ำ ถุงใต้ตา และริ้วรอยใต้ตาให้ดูเต็มเนื้อในระยะเวลาประมาณ 6-12 เดือนหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 


แต่ผลลัพธ์อาจเริ่มแสดงตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันหลังการทำการรักษาเช่นกัน ความเป็นไปได้ของผลข้างเคียงจะลดลงเมื่อใช้ปริมาณที่ถูกต้องโดยแพทย์ผิวหนังและการดูแลที่เหมาะสมหลังการเติมเต็มใต้ตา

ฉีด Filler ใต้ตา VS ฉีดไขมันใต้ตา แตกต่างกันอย่างไร ?

การฉีดใต้ตา เป็นการใช้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มเพื่อลดริ้วรอย ถุงใต้ตา หรือปัญหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริเวณนี้ ซึ่งเป็นกระบวนการไม่ต้องผ่าตัดและมีผลลัพธ์ทันที 


ส่วนการฉีดไขมันใต้ตาคือการเอาไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายเข้าไปฉีดใต้ตาเพื่อเติมเต็มใต้ตา  มักจะใช้ในกรณีที่ต้องการผลที่ยั่งยืนและคงทนยาวนานขึ้น แต่ต้องใช้กระบวนการผ่าตัดเพื่อเอาไขมันมาฉีด ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและเวลาฟื้นตัวหลังผ่าตัดที่นานกว่าการฉีดฟีลเลอร์ใต้ตาปกติ


การเลือกวิธีจะขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของแต่ละบุคคลโดยดูจากคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลสุขภาพผิวหนังใต้ตาและความต้องการที่แตกต่างกันไปของแต่ละบุคคล

เลือกคลินิกฉีด Filler ใต้ตาอย่างไรให้ปลอดภัยได้มาตรฐาน

เพื่อเลือกฉีด Filler ใต้ตาอย่างปลอดภัยและมีมาตรฐาน สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้


  • - เลือกคลินิกที่มีความเชื่อถือ ค้นหาคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขหรือมีความน่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการ

  • - เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ ค้นหาแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา และสามารถตรวจสอบประวัติแพทย์ได้

  • - ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ให้แน่ใจว่าใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและมีการรับรองจากองค์กรทางการแพทย์

  • - ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์และวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้เพื่อป้องกันการใช้สารปลอม

  • - ดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ศึกษาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตารีวิวความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับการรักษามาก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจฉีดจากรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา

  • - ติดตามผลและปฏิบัติตามคำแนะนำ หลังการทำฟิลเลอร์ใต้ตา ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ดีและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม

สรุป

การฉีด Filler ใต้ตามักเป็นกระบวนการที่รวดเร็วและปลอดภัย ใช้เวลาฟื้นตัวไม่นาน โดยสามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ในเวลาอันรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเลือกคลีนิกที่มีคุณภาพและแพทย์ที่มีความชำนาญเป็นสำคัญเพื่อให้การทำฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีผลลัพธ์ที่ดีในที่สุด





Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -