เสริมคางแก้โหวงเฮ้งแบบไหนดีกว่ากัน? 

การเสริมคางเป็นวิธีการศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับรูปทรงคางให้ดูสวยงามและเข้ากับรูปหน้ามากขึ้น ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนที่ดี เติมเต็มใบหน้าให้มีมิติ และคางเรียวเป็นทรง V-Shape

เสริมคาง

การเสริมคาง เป็นการผ่าตัดตกแต่งใบหน้าเพื่อปรับรูปทรงคางให้ดูสวยงามและเข้ากับรูปหน้ามากขึ้น โดยแพทย์จะใช้ซิลิโคนแท่งหรือฟิลเลอร์ฉีดเข้าไปบริเวณคางเพื่อเพิ่มเนื้อเยื่อและปรับรูปทรงให้ได้ตามต้องการ

วัตถุประสงค์ของการเสริมคาง

• แก้ไขปัญหาคางสั้น คางถอย คางเหลี่ยม คางบุ๋ม หรือคางที่ดูไม่สมส่วน

• ปรับโครงหน้าให้ได้สัดส่วน ใบหน้าดูเรียวขึ้น

• เพิ่มมิติให้กับใบหน้า

• เสริมโหงวเฮ้ง

ค่าใช้จ่ายในการเสริมคางจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สถานที่ให้บริการ ประสบการณ์ของแพทย์ วิธีการเสริมคาง และชนิดของซิลิโคน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-50,000 บาท

เสริมคางมีกี่แบบ

การเสริมคางมี 2 วิธีหลักๆ คือ

1. การเสริมคางด้วยซิลิโคน เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้คางหรือในช่องปาก แล้วใส่ซิลิโคนแท่งเข้าไปเพื่อปรับรูปทรงคางให้ได้ตามต้องการ

2. การฉีดฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมคางแบบชั่วคราว โดยแพทย์จะทำการฉีดสารฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณคางเพื่อปรับรูปทรงให้ดูเต็มขึ้น

เสริมคางใช้ซิลิโคนอะไร

ซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมคางมีหลายแบบ แต่ละแบบมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนี้

1. ซิลิโคนเกาหลี (Korean Silicone)

• มีความนิ่มมาก ทำให้เวลาเสริมแล้วดูเป็นธรรมชาติ

• เหมาะกับผู้ต้องการเสริมคางที่ดูพุ่งและงอนมาด้านหน้า

• แต่มีโอกาสยุบตัวได้ในระยะยาว ขึ้นอยู่กับเนื้อคางของแต่ละคน

2. ซิลิโคน USA

• เป็นซิลิโคนที่มีมาตรฐานพิเศษ มีค่าความบริสุทธิ์สูง ได้รับการยอมรับในวงการศัลยกรรมความงาม

• ทำคางด้วยซิลิโคน USA ทรงคางจะค่อนข้างเป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยต่อร่างกาย

• มีความยืดหยุ่นแต่ไม่นิ่มมาก เหลาขึ้นรูปได้ง่าย เพื่อให้เข้ากับโครงหน้าของคนไข้แต่ละบุคคล

3. ซิลิโคน Mentor

• เป็นซิลิโคนที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ศัลยกรรมความงาม

• มีหลายขนาดและรูปทรงให้เลือก

• เนื้อซิลิโคนนิ่มใกล้เคียงเนื้อเยื่อธรรมชาติ

• ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัยต่อร่างกาย

4. ซิลิโคน Macrolane

• เป็นซิลิโคนที่มีความพิเศษคือ มีผิวสัมผัสแบบ microporous surface ช่วยให้เนื้อเยื่อเกาะซิลิโคนได้ดี ลดโอกาสการเคลื่อนตัวของซิลิโคน

• ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ คงทน ยืดหยุ่นสูง 

การเตรียมตัวก่อนเสริมคาง

การเตรียมตัวก่อนเสริมคาง มีดังนี้

• แจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบโดยละเอียด

• งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด

• งดรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด

• เตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ

ขั้นตอนการเสริมคาง

ขั้นตอนการเสริมคาง มีดังนี้

1. ปรึกษากับแพทย์เพื่อแจ้งปัญหาและความต้องการ

2. แพทย์จะตรวจวิเคราะห์รูปหน้าและแนะนำวิธีการเสริมคางที่เหมาะสม

3. เตรียมตัวก่อนผ่าตัด เช่น งดสูบบุหรี่ งดแอลกอฮอล์

4. ในวันผ่าตัด แพทย์จะทำการฉีดยาชาบริเวณที่ผ่าตัด

5. แพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลและใส่ซิลิโคนหรือฉีดฟิลเลอร์

6. ปิดแผลและทำความสะอาด

7. นัดติดตามผลหลังผ่าตัด

หลังเสริมคางแล้วคางไม่สวยแก้คางได้ไหม

การแก้คางควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมความงามที่ทำการเสริมคางให้ โดยแพทย์จะประเมินปัญหาและหาสาเหตุ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วการแก้ไขคางหลังเสริมสามารถทำได้ แต่ต้องรอให้ครบระยะเวลาพักฟื้นก่อน ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับเคส

กรณีเสริมคางแล้วคางไม่สวย แก้ไขได้ไหม ขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัญหาที่พบ ดังนี้

1. ปัญหาเกิดจากการบวมหลังผ่าตัด เป็นเรื่องปกติที่หลังเสริมคางจะมีอาการบวม ช้ำ ซึ่งอาจทำให้รูปทรงคางดูไม่สมส่วน โดยทั่วไปอาการบวมจะค่อยๆ ยุบลงภายใน 1-2 เดือน และดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์แล้วรอให้ครบระยะเวลาพักฟื้นก่อนตัดสินใจว่าคางสวยหรือไม่

2. ปัญหาเกิดจากซิลิโคนเบี้ยวเอียง โดยสังเกตได้จากรูปทรงคางที่ดูไม่สมมาตร กรณีนี้ต้องแก้ไขโดยการผ่าตัดเอาซิลิโคนเดิมออกและใส่ซิลิโคนใหม่

3. ปัญหาเกิดจากขนาดหรือรูปทรงของซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม ซึ่งคางอาจดูใหญ่หรือยาวเกินไป หรือไม่เข้ากับรูปหน้า กรณีนี้ต้องแก้ไขโดยการผ่าตัดเอาซิลิโคนเดิมออกและใส่ซิลิโคนใหม่ที่มีขนาดหรือรูปทรงที่เหมาะสม

4. ปัญหาเกิดจากเทคนิคการผ่าตัด เช่น ซิลิโคนถูกวางไว้ผิดตำแหน่ง กรณีนี้ต้องแก้ไขโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

5. ปัญหาเกิดจากภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ แผลอักเสบ กรณีนี้ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา

เลือกเสริมคางที่ไหนดี

การเสริมคางเป็นศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีคลินิกเสริมคางให้บริการมากมาย แต่การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยนั้นสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อผลลัพธ์และความปลอดภัยของคุณ ซึ่งมีหลักเกณฑ์ใรการพิจารณา ดังนี้

• เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบว่าคลินิกนั้นๆ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ สามารถตรวจสอบว่าแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านศัลยกรรมความงามโดยเฉพาะ คลินิกมีรีวิวหรือผลลัพธ์หลังเสริมคางจากคนไข้จริงหรือไม่

• เปรียบเทียบราคาและบริการจากหลายๆ คลินิก ควรเปรียบเทียบราคา บริการ และโปรโมชั่นจากหลายๆ คลินิก และเลือกคลินิกที่มีราคาและบริการที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ

• ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแจ้งปัญหาและความต้องการของคุณ โดยแพทย์จะประเมินรูปหน้าและโครงสร้างของใบหน้า แนะนำวิธีการเสริมคางที่เหมาะสม และอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัดเสริมคาง

• เลือกคลินิกที่เดินทางสะดวก อยู่ใกล้บ้านหรือที่ทำงานของคุณ เพื่อความสะดวกในการไปพบแพทย์และติดตามผลหลังผ่าตัด

• เลือกคลินิกที่มีบริการหลังการขายที่ดี มีการติดตามผลหลังผ่าตัดอย่างสม่ำเสมอ และสามารถให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาหลังผ่าตัดได้

เสริมคางกี่วันหายบวม

โดยทั่วไปแล้ว อาการบวมหลังเสริมคางจะค่อยๆ ลดลงภายใน 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาตนเอง เพื่อให้แผลบริเวณคางยุบและจางหายไป ซึ่งสามารถทำตามข้อแนะนำด้านล่างนี้

การปฏิบัติตัวหลังเสริมคางให้แผลหายไว ลดอาการบวม

การดูแลตัวเองหลังเสริมคาง เพื่อลดอาการบวม มีดังนี้

• ประคบเย็นบริเวณที่ผ่าตัดเพื่อลดอาการบวม

• ทานอาหารอ่อนๆ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด

• แปรงฟันเบาๆ และบ้วนปากด้วยน้ำเกลือทุกครั้งหลังทานอาหาร

• งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือน

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ผ่าตัด

• ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจติดตามผล

ผลลัพธ์ของการเสริมคางจะปรากฏชัดหลังจากผ่าตัดประมาณ 1-2 เดือน และจะคงอยู่ได้หลายปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล ก่อนตัดสินใจเสริมคางควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เปรียบเทียบราคาและบริการจากหลายๆ คลินิก และเลือกสถานที่ที่ได้มาตรฐาน