ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) สารมหัศจรรย์แห่งการบำรุงผิว
Room : Others
Beauty Editor | ผิวมัน | 35-39 Yrs | 0 รีวิว 05/11/2024 12:53     

ไฮยาลูรอนิค แอซิด (HyaluronicAcid) สารมหัศจรรย์แห่งการบำรุงผิว


เมื่อพูดถึงการดูแลผิวและความงามหนึ่งในสารที่คนในวงการสกินแคร์และเครื่องสำอางยกย่องเป็นอย่างมากคงหนีไม่พ้น"ไฮยาลูรอนิค แอซิด" (Hyaluronic Acid) หรือเรียกสั้นๆ ว่า "กรดไฮยาลูรอนิค" ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีผลในการดูแลและฟื้นฟูผิวที่มีประสิทธิภาพสูงบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับไฮยาลูรอนิค แอซิดตั้งแต่ต้นกำเนิด ประโยชน์การเลือกใช้ และการดูแลผิวที่เหมาะสมให้ตรงตามสภาพผิวของแต่ละบุคคลเพื่อการบำรุงที่ตรงจุด


ไฮยาลูรอนิค แอซิด คืออะไร?

ไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA)เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ โดยสามารถพบได้ตามส่วนต่างๆ เช่น ผิวหนัง ข้อต่อ และน้ำในดวงตา มีหน้าที่สำคัญในการเก็บกักน้ำให้กับผิวทำให้ผิวคงความชุ่มชื้น ดูเรียบเนียน และอ่อนเยาว์ อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้นระดับไฮยาลูรอนในร่างกายจะลดลงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเริ่มแห้งและเกิดริ้วรอยขึ้นมาการเติมไฮยาลูรอนเข้าสู่ผิวจึงช่วยเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวและเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการดูแลรักษาริ้วรอยที่เกิดขึ้น


ประโยชน์ของไฮยาลูรอนิค แอซิดต่อผิวพรรณ

·  ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวไฮยาลูรอนมีคุณสมบัติพิเศษในการกักเก็บน้ำโดยสามารถดึงน้ำจากสภาพแวดล้อมภายนอกเข้าสู่ผิวได้สูงสุดถึง 1,000เท่าของน้ำหนักตัวเองการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนจึงช่วยทำให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำและเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่แห้งหรือขาดน้ำ

·  ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกเมื่อไฮยาลูรอนเข้าสู่ผิว จะช่วยทำให้ผิวดูเต่งตึงมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณที่มีริ้วรอย เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา ร่องแก้ม และหน้าผากทำให้ผิวดูเนียนใส และคงลุคแบบ "glass skin" ที่คนในวงการความงามหลงใหล

·  ปรับโครงสร้างผิวให้ยืดหยุ่นไฮยาลูรอนช่วยเสริมสร้างโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ฟื้นฟูและป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

·  ฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งและบอบบางเนื่องจากไฮยาลูรอนเป็นสารที่อ่อนโยนและมีความปลอดภัยสูงจึงสามารถใช้ได้แม้ในคนที่มีผิวบอบบาง ช่วยลดการระคายเคืองและฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านให้กลับมามีชีวิตชีวา


ประเภทของไฮยาลูรอน

ไฮยาลูรอนิค แอซิดมีหลายประเภท โดยจำแนกตามขนาดของโมเลกุลซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

·  ไฮยาลูรอนโมเลกุลใหญ่(HighMolecular Weight Hyaluronic Acid) ไฮยาลูรอนชนิดนี้มีโมเลกุลขนาดใหญ่ทำให้ไม่สามารถซึมลงไปในชั้นผิวได้ลึก แต่มักจะเคลือบอยู่บนผิวชั้นนอกทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันการสูญเสียน้ำเหมาะสำหรับการใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวในระยะสั้น

·  ไฮยาลูรอนโมเลกุลขนาดกลาง(MediumMolecular Weight Hyaluronic Acid) ไฮยาลูรอนชนิดนี้มีขนาดโมเลกุลที่เล็กลงทำให้สามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดีกว่าไฮยาลูรอนโมเลกุลใหญ่เหมาะสำหรับการเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและให้ความชุ่มชื้นที่ยาวนานกว่า

·  ไฮยาลูรอนโมเลกุลเล็ก(LowMolecular Weight Hyaluronic Acid) ไฮยาลูรอนประเภทนี้มีโมเลกุลที่เล็กมากทำให้สามารถซึมลึกลงไปถึงชั้นล่างของผิวช่วยฟื้นฟูและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยลึกหรือผิวที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้าง

·  Cross-linkedHyaluronic Acid เป็นไฮยาลูรอนที่มีการปรับโครงสร้างโมเลกุลให้คงตัวและยืดหยุ่นดีขึ้นเหมาะสำหรับใช้ในฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้นในการปรับโครงสร้างใบหน้า

·  HydrolyzedHyaluronic Acid ไฮยาลูรอนที่ผ่านกระบวนการย่อยให้มีโมเลกุลที่เล็กลงไปอีกเพื่อให้สามารถซึมลงสู่ชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้นเหมาะกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เน้นการฟื้นฟูและให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก


ผลิตภัณฑ์ที่มีไฮยาลูรอนิคแอซิดเป็นส่วนประกอบ


ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ใช้ไฮยาลูรอนเป็นส่วนประกอบหลักไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ เซรั่ม ครีมบำรุงผิว มาส์กหน้า และยาฉีด

·  ฟิลเลอร์(DermalFillers) ใช้สำหรับการเติมเต็มผิวบริเวณที่มีร่องลึก เช่น ร่องแก้มริมฝีปาก หน้าผาก และคาง ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูทันทีหลังการฉีดผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และการดูแลผิว เช่น Juvederm,Restylane และ Belotero

·  เซรั่มบำรุงผิว(HyaluronicAcid Serums) เซรั่มที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษเหมาะสำหรับการใช้เป็นประจำทุกวัน ตัวอย่างเช่น The Ordinary HyaluronicAcid 2% + B5, Vichy Mineral 89 Hyaluronic Acid Booster

·  ครีมบำรุงผิว(HyaluronicAcid Moisturizers) ครีมบำรุงที่มีไฮยาลูรอนช่วยกักเก็บน้ำและป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวเหมาะสำหรับการใช้ในขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิว

·  มาส์กหน้า(HyaluronicAcid Masks) มาส์กที่มีไฮยาลูรอนมักใช้เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างรวดเร็วช่วยให้ผิวดูสดชื่นและอิ่มน้ำในทันทีหลังการใช้

·  ยาฉีด(InjectableHyaluronic Acid) ใช้ในทางการแพทย์เพื่อช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อหรือรักษาข้อต่อ


วิธีใช้ไฮยาลูรอนให้ได้ประโยชน์สูงสุด

การใช้ไฮยาลูรอนให้ได้ผลดีที่สุดควรใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังจากทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อให้สารซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่จากนั้นควรตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงอื่น ๆเพื่อช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวนานขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกผลิตภัณฑ์ไฮยาลูรอนตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล


วิธีเลือกใช้ไฮยาลูรอนตามสภาพผิว

-  ผิวแห้งเลือกไฮยาลูรอนโมเลกุลใหญ่และขนาดกลางที่ช่วยล็อคความชุ่มชื้นในผิวได้นาน

- ผิวมันเลือกผลิตภัณฑ์ไฮยาลูรอนที่เบาบาง ไม่หนักผิว เพื่อลดการเกิดความมันเพิ่ม

- ผิวบอบบาง เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนแบบLowMolecular Weight หรือ Cross-linked

- ผิวมีปัญหาริ้วรอยลึกควรใช้ไฮยาลูรอนโมเลกุลเล็กหรือผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขร่องลึกอย่างมีประสิทธิภาพ


ไฮยาลูรอนิคแอซิดเป็นสารที่มีความสำคัญอย่างมากในวงการความงามไม่ว่าจะเป็นในการบำรุงผิวหรือการแก้ไขริ้วรอยที่ลึกลงไปในชั้นผิวดังนั้นการเลือกใช้ไฮยาลูรอนให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากสารนี้ได้อย่างเต็มที่ทั้งความชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มฟู และการคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ปรับรูปหน้าเพิ่มมิติ ใบหน้าได้รูปมากขึ้น โดยหากใครที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรหรือใบหน้าของเราต้องฉีดแบบไหนเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์มากประสบการณ์ที่ Vincent Clinic ได้เลย เพราะนอกจากแพทย์จะมีฝีมือดีแล้ว ยังใช้ฟิลเลอร์แท้จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย


อ่านบทความเพิ่มเติม

https://vincent.clinic/th/article/detail/106

https://vincent.clinic/th/service/detail/16

https://vincent.clinic/th





Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -