ฉีด Juvelook ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหมช่วยเรื่องอะไรบ้าง กี่ครั้งเห็นผล?
Juvelook เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการฉีดที่ช่วยให้ผิวพรรณดูอิ่มน้ำกระจ่างใส และเต่งตึงโดยเป็นนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศเกาหลีซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากในวงการความงามเนื่องจากสามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้หลายด้านโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นยาวนานในบทความนี้จะพาทุกคนมารู้จัก Juvelook ว่าคืออะไรมีประโยชน์อย่างไร เหมาะกับใคร และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน
Juvelook คืออะไร?
Juvelook เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่ม HybridBiostimulator ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญสองอย่าง คือ PolyD-L-Lactic Acid (PDLLA) และ Non-crosslinked HyaluronicAcid (HA) โดย PDLLA เป็นสารไบโอพอลิเมอร์ที่สามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวและช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดีขึ้นสารนี้ยังช่วยเติมเต็มผิวที่มีความเสื่อมสภาพหรือเหี่ยวย่น ในขณะที่ HA มีบทบาทในการเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำและเปล่งปลั่ง ช่วยลดเลือนริ้วรอยใต้ตาทำให้ผิวดูสวยใสเป็นธรรมชาติ
Juvelook ช่วยแก้ปัญหาผิวด้านใดบ้าง?
การฉีด Juvelook สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง ริ้วรอยขนาดเล็ก และปัญหาผิวหมองคล้ำโดยผลลัพธ์ที่ได้มีดังนี้
1. ลดเลือนริ้วรอยขนาดเล็กช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่มและริ้วรอยลดเลือนลง
2. ลดรูขุมขนกว้างทำให้ผิวหน้าแลดูละเอียดเรียบเนียนมากขึ้น
3. เพิ่มความชุ่มชื้นเติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว
4. ชะลอความเสื่อมสภาพของผิวช่วยให้ผิวไม่เสื่อมสภาพเร็ว ลดโอกาสการเกิดริ้วรอยลึกก่อนวัย
5. ลดรอยแดงรอยดำ และรอยสิว ช่วยให้รอยแดง รอยดำ หรือรอยสิวที่มีอยู่จางลง
6. ผิวเนียนเรียบและกระจ่างใสปรับผิวให้เนียนเรียบและกระจ่างใส ดูสุขภาพดี
7. ยกกระชับและฟื้นฟูผิวให้แน่นช่วยให้ผิวเต่งตึงและกระชับขึ้น
8. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง
Juvelook เหมาะกับใคร?
Juvelook เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวจากปัจจัยภายนอกเช่น มลภาวะและสารพิษต่าง ๆ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาดังนี้
- รูขุมขนกว้างผิวหน้าไม่เรียบเนียน
- ผิวรอบดวงตาหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส
- ผิวแห้ง ผิวไม่อิ่มฟูแต่งหน้าไม่ค่อยติด
- ผิวมีริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น
การฉีด Juvelook ดีหรือไม่?
Juvelook นับเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในการดูแลและฟื้นฟูผิวเพราะช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว กระจ่างใสเหมือนสาวเกาหลีโดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังการฉีดเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วนและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ค่าใช้จ่ายของการฉีด Juvelook
ค่าใช้จ่ายของ Juvelookจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการวางแผนการรักษาของแพทย์เนื่องจากปริมาณที่ใช้และตำแหน่งในการฉีดจะต้องปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ต้องฉีด Juvelook กี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยาวนานแนะนำให้ฉีด Juvelook จำนวน 1 ขวด (ประมาณ 6cc) ต่อครั้ง โดยทำต่อเนื่อง 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 เดือนหลังจากนั้นเพื่อคงผลลัพธ์ไว้ แนะนำให้ฉีดเพิ่มเติมทุก 6-12 เดือนตามความเหมาะสม
Juvelook ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล?
การทำงานของ Juvelook แบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ดังนี้
- หลังฉีดทันทีผิวจะดูเรียบเนียนและกระชับขึ้นจากการทำงานของ HA ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ
- 2-4 สัปดาห์หลังฉีด PDLLAจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและไฟโบรบลาสต์ใต้ชั้นผิวทำให้ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่นมากขึ้น
- หลังฉีด 6 เดือน ผลลัพธ์เต็มที่จากการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ผิวหน้าดูกระชับเนียน และอิ่มฟู
Juvelook อยู่ได้นานแค่ไหน?
Juvelook สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ยาวนาน 12-18 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปัจจัยด้านการใช้ชีวิตของแต่ละคน
Juvelook สามารถฉีดบริเวณใดได้บ้าง?
Juvelook สามารถฉีดได้ในหลายจุดบนใบหน้าและร่างกายตามความเหมาะสมของสภาพผิวของแต่ละคนโดยแพทย์จะพิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาผิวของแต่ละคน เช่น
- ทั่วใบหน้า
- บริเวณหน้าแก้ม
- หน้าผาก
- ใต้ตา
- บริเวณที่มีปัญหาหลุมสิว
- บริเวณที่มีริ้วรอยและรอยตีนกา
ความแตกต่างระหว่าง Juvelook และ Sculptra
Juvelook และ Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูและดูแลผิวแต่มีความแตกต่างในส่วนประกอบและการใช้งาน
- Juvelook เป็น HybridBiostimulator ประกอบด้วย PDLLA และ HAเหมาะสำหรับการปรับสภาพผิว เติมเต็มความชุ่มชื้น
- Sculptra เป็น CollagenBiostimulator มี PLLA เน้นการกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิวแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย
Juvelook และ Rejuran ต่างกันอย่างไร?
Juvelook และ Rejuran มีความแตกต่างในวัตถุประสงค์การใช้งาน
- Juvelook เน้นการกระตุ้นคอลลาเจนเติมเต็มผิวให้อิ่มฟู
- Rejuran เน้นการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
Juvelook และ Filler แตกต่างกันอย่างไร?
Juvelook และ Filler ช่วยแก้ปัญหาผิวที่ต่างกัน Juvelook เน้นกระตุ้นคอลลาเจนและให้ผิวดูฉ่ำวาวเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิว ส่วน Filler ใช้เพื่อเติมเต็มในจุดที่ขาดหายเช่น กระดูกทรุดทำให้ผิวยุบ และต้องการยกกระชับหน้าในทันที
ข้อดีของการฉีด Juvelook
- สามารถยึดเกาะกับชั้นผิวได้ดีลดโอกาสเกิดการเคลื่อนตัวของตัวยา
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและให้ความชุ่มชื้น
- ให้ผิวดูฉ่ำวาวและกระชับ
- ใช้สำหรับการเติมหลุมสิวและแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง
การดูแลหลังฉีด Juvelook
การดูแลตัวเองหลังฉีดเป็นสิ่งสำคัญ
-ควรทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ขัดหรือถูบริเวณที่ฉีด
-งดแต่งหน้า 24 ชั่วโมง
-ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
-งดการอาบน้ำร้อน ซาวน่า หรือออกแดดจัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
Juvelook เป็นตัวช่วยฟื้นฟูผิวให้ฉ่ำวาวฟูเนียน ดูอ่อนเยาว์ โดยต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์แท้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัยจึงต้องเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและได้มาตรฐานหากใครที่มีความกังวลเรื่องของผิวพรรณรวมถึงอยากดูแลใบหน้าแบบครบวงจรสามารถเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์มากประสบการณ์ของ Vincent Clinic ได้เลย
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่
https://vincent.clinic/th/service/detail/25
https://vincent.clinic/th