ลดไขมันหน้า vs ลดไขมันตัว วิธีไหนยากกว่ากัน และต้องใช้เวลานานแค่ไหน
Room : How To
nerd | ผิวมัน | > 50 Yrs | 0 รีวิว 27/02/2025 17:30     

ลดไขมันหน้า vs ลดไขมันตัว วิธีไหนยากกว่ากัน และต้องใช้เวลานานแค่ไหน

วิธีลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวไปพร้อมกัน
การลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวไปพร้อมกัน เป็นแนวทางการลดไขมันแบบธรรมชาติที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่เป็นการลดไขมันโดยรวมของร่างกาย ทำให้ไขมันในแต่ละจุดลดลงอย่างสมดุล ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการควบคุมอาหาร การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการออกกำลังกายที่ช่วยให้การลดไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น


1.ลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวด้วยการควบคุมอาหาร (Dietary Adjustments)

โภชนาการที่ดีมีผลต่อการลดไขมันทั้งร่างกาย รวมถึงการลดไขมันใบหน้าด้วย การเลือกอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้นและลดไขมันได้อย่างปลอดภัย


  1. ปรับปริมาณแคลอรี่ให้เหมาะสม (Caloric Deficit)
    1. คำนวณ TDEE (Total Daily Energy Expenditure) เพื่อกำหนดปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการ
    2. ลดพลังงานลงประมาณ 300-500 kcal ต่อวัน เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันสะสมออกมาใช้
  2. เพิ่มโปรตีนเพื่อช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ
    1. การกินโปรตีนที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
    2. แหล่งโปรตีนที่ดี เช่น อกไก่ ปลา ไข่ เต้าหู้ ถั่ว กรีกโยเกิร์ต
  3. ลดน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว
    1. หลีกเลี่ยงขนมหวาน น้ำอัดลม ข้าวขาว ขนมปังขาว
    2. เปลี่ยนมาเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง มันหวาน ควินัว และธัญพืชเต็มเมล็ด
  4. เพิ่มไฟเบอร์และกินผักผลไม้มากขึ้น
    1. ช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ลดการสะสมไขมันส่วนเกิน
    2. แนะนำผักใบเขียวและผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง เบอร์รี่ อะโวคาโด
  5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ (Hydration)
    1. ควรดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เพื่อช่วยลดอาการบวมน้ำและขับสารพิษออกจากร่างกาย
    2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำหวานที่มีโซเดียมสูง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะบวมน้ำและทำให้การลดไขมันช้าลง


การลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวพร้อมกัน ไม่ได้เป็นเรื่องยากหากเลือกแนวทางที่เหมาะสม โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรมการกินก่อน แล้วเสริมด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืน


ลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวด้วยการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญที่ช่วยลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวไปพร้อมกัน เพราะช่วยเผาผลาญพลังงาน กระตุ้นระบบเผาผลาญ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายสามารถลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


1.คาร์ดิโอ (Cardio) เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญและลดไขมันสะสม

  1. การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น ทำให้การลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวเป็นไปอย่างสมดุล
  2. ควรเลือกประเภทของคาร์ดิโอที่เหมาะสม เช่น HIIT (High-Intensity Interval Training) และ LISS (Low-Intensity Steady State)


ตัวอย่างคาร์ดิโอที่ช่วยลดไขมันได้ดี

  1. HIIT วิ่งเร็ว 30 วินาที สลับเดิน 30 วินาที ทำต่อเนื่อง 15-20 นาที
  2. LISS เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ อย่างน้อย 30-60 นาที
  3. ควรทำคาร์ดิโออย่างน้อย 4-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้การลดไขมันเห็นผลเร็วขึ้น


2.เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระชับสัดส่วน

  1. เวทเทรนนิ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้แม้ในขณะพัก ทำให้ลดไขมันได้อย่างต่อเนื่อง
  2. เน้นฝึกกล้ามเนื้อหลักเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เช่น Squats, Lunges, Deadlifts, Push-ups, Pull-ups
  3. ควรออกกำลังกายด้วยเวทเทรนนิ่ง อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟิตกระชับมากขึ้น


3.ออกกำลังกายใบหน้า (Facial Exercises) เพื่อช่วยลดไขมันสะสมบริเวณใบหน้า

  1. การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับ ลดการสะสมของไขมัน และทำให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น
  2. ตัวอย่างท่าบริหารใบหน้าที่สามารถช่วยลดไขมันหน้า
    1. Cheek Puff เป่าลมในปากและสลับไปมาระหว่างแก้มซ้าย-ขวา ทำค้างไว้ 30 วินาที
    2. Jawline Exercise เงยหน้าขึ้นแล้วขยับขากรรไกรค้างไว้ 10 วินาที
    3. Tongue Press กดลิ้นกับเพดานปากพร้อมยิ้มค้างไว้เพื่อบริหารกล้ามเนื้อบริเวณคาง


หัตถการลดไขมันบนใบหน้าด้วย EMFACE
ลดไขมันใบหน้าด้วย EMFACE คืออะไร?
EMFACE เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วย ลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้า และกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แตกต่างจากวิธีลดไขมันใบหน้าแบบเดิม เพราะใช้พลังงาน คลื่นไฟฟ้าความถี่สูง (RF) ควบคู่กับ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า HIFES™ (High-Intensity Focused Electromagnetic Stimulation) เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าและช่วยลดไขมันใต้ผิว ส่งผลให้รูปหน้ากระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ


เทคโนโลยีนี้พัฒนาโดย BTL Aesthetics ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง EMSCULPT (เทคโนโลยีลดไขมันหน้าท้องและปั้นหุ่นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) ทำให้ EMFACE เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดไขมันใบหน้าได้โดยไม่ต้องใช้เข็มหรือศัลยกรรม


หลักการลดไขมันบนใบหน้าของ EMFACE

  1. ลดไขมันด้วยพลังงานคลื่นความร้อน RF (Radiofrequency)
    1. คลื่น Monopolar RF ส่งพลังงานความร้อนเข้าสู่ใต้ผิวหนังจนมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 40-42°C
    2. ความร้อนระดับนี้ช่วยกระตุ้นให้ร่างกาย เผาผลาญและกำจัดเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง ผ่านกระบวนการทางชีวภาพ (Apoptosis - เซลล์ไขมันตายตามธรรมชาติ)
    3. ช่วยให้ไขมันสะสมที่ แก้ม คาง และกรอบหน้า ลดลง ทำให้รูปหน้าดูคมชัดขึ้น
  2. กระตุ้นกล้ามเนื้อเพื่อช่วยลดไขมันใบหน้าด้วย HIFES™ (High-Intensity Focused Electromagnetic Stimulation)
    1. คลื่น HIFES™ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวมากกว่าปกติ สูงถึง 30,000 ครั้งภายใน 20 นาที
    2. การกระตุ้นนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของ Levator Muscles ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ช่วยพยุงโครงสร้างใบหน้า เช่น
      1. กล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis)
      2. กล้ามเนื้อรอบดวงตา (Orbicularis Oculi)
      3. กล้ามเนื้อแก้ม (Zygomaticus Major & Minor)
    3. ส่งผลให้ใบหน้าดูกระชับ ริ้วรอยลดลง และปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
  3. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพื่อช่วยลดไขมันและฟื้นฟูสภาพผิว
    1. คลื่น RF และ HIFES™ กระตุ้น Neocollagenesis (กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่) และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของ อีลาสติน
    2. ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ลดความหย่อนคล้อย และเสริมความแน่นของชั้นผิว
    3. ผิวดูสดใส เปล่งปลั่ง และมีความกระชับมากขึ้น พร้อมกับช่วยลดไขมันใบหน้าไปในตัว


หัตถการลดไขมันบนใบหน้าด้วย Ulthera SPT

ลดไขมันบนใบหน้าด้วย Ulthera SPT คืออะไร?

Ulthera SPT (See, Plan, Treat) เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Ultherapy ที่ใช้ คลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบโฟกัส (Focused Ultrasound) พลังงานสูง หรือที่เรียกว่า HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เพื่อช่วย ลดไขมันบนใบหน้า ควบคู่ไปกับการกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า

Ulthera SPT ได้รับการพัฒนาให้มีความแม่นยำสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิม ด้วยเทคโนโลยี See, Plan, Treat ที่ช่วยให้แพทย์สามารถ มองเห็นชั้นผิวหนังแบบเรียลไทม์ ทำให้การยิงพลังงานเพื่อ ลดไขมันบนใบหน้า และกระชับผิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล


หลักการทำงานของ Ulthera SPT ในการลดไขมันบนใบหน้า

1.See - Visualization (มองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์)

  1. เทคโนโลยี Ulthera SPT มาพร้อมกับ หน้าจอแสดงภาพอัลตราซาวด์แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์และ มองเห็นชั้นผิวและไขมันใต้ผิว ก่อนทำการรักษา
  2. ช่วยให้การวางแผนการยิงพลังงานเพื่อ ลดไขมันบนใบหน้า แม่นยำขึ้น และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น


2.Plan - วางแผนการส่งพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

  1. แพทย์สามารถ กำหนดระดับความลึกของพลังงานอัลตราซาวด์ ให้ตรงกับปัญหาผิวของแต่ละคน
  2. หากต้องการ ลดไขมันบนใบหน้า พลังงานจะถูกส่งไปยัง ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) และ SMAS
  3. หากต้องการ ยกกระชับและฟื้นฟูคอลลาเจน พลังงานจะเน้นไปที่ ชั้นหนังแท้ (Dermis) และเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast Cells)


3.Treat - การส่งพลังงาน HIFU ลงสู่ชั้นผิวเพื่อช่วยลดไขมันและยกกระชับ

Ulthera SPT ยิงพลังงาน HIFU ลงไปที่ 3 ระดับชั้นผิว เพื่อช่วย ลดไขมันบนใบหน้า และปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น

  1. ชั้นหนังแท้ (Dermis) - 1.5 mm
    1. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
    2. ลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียนและแข็งแรงขึ้น
  2. ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) - 3.0 mm
    1. ช่วยเผาผลาญและ ลดไขมันสะสมที่แก้มและเหนียง
    2. ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
  3. ชั้น SMAS - 4.5 mm
    1. กระตุ้นการหดตัวของชั้น SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างรองรับผิว
    2. ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อย และทำให้รูปหน้าดูได้สัดส่วนมากขึ้น


หัตถการลดไขมันตัวด้วย CoolSculpting

ลดไขมันตัวด้วย CoolSculpting คืออะไร?

การ ลดไขมันตัว ด้วยเทคโนโลยี CoolSculpting เป็นวิธีที่ใช้หลักการ Cryolipolysis หรือการกำจัดไขมันด้วยความเย็นจุดเยือกแข็ง (-11°C ถึง -13°C) เพื่อทำให้เซลล์ไขมันตายลงโดยธรรมชาติ โดยไม่มีการผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม และไม่ต้องพักฟื้น ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการ ลดไขมันตัว แบบเฉพาะจุด
CoolSculpting เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาจาก Harvard Medical School และได้รับการรับรองจาก U.S.FDA ว่าสามารถ ลดไขมันตัว ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ เช่น ผิวหนัง กล้ามเนื้อ หรือเส้นประสาท


หลักการทำงานของ CoolSculpting ในการลดไขมันตัว

1.Cryolipolysis - ใช้ความเย็นทำให้เซลล์ไขมันตายโดยธรรมชาติ

  1. เทคโนโลยี Fat Freezing ช่วยให้เซลล์ไขมันตกผลึกเมื่อถูกแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำกว่า -11°C
  2. เมื่อน้ำในเซลล์ไขมันแข็งตัว เซลล์ไขมันจะเข้าสู่กระบวนการ Apoptosis (เซลล์ไขมันตายตามธรรมชาติ)
  3. เซลล์ไขมันที่ตายแล้วจะค่อย ๆ ถูกกำจัดออกทาง ระบบน้ำเหลืองของร่างกาย ภายใน 2-3 เดือน

2.กำจัดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่กระทบเนื้อเยื่อรอบข้าง

  1. CoolSculpting ใช้เทคโนโลยีที่สามารถกำหนดอุณหภูมิให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ ทำให้ ลดไขมันตัวเฉพาะจุด ได้อย่างแม่นยำ
  2. เซลล์ไขมันจะถูกทำลายโดยไม่มีผลกระทบต่อ ผิวหนัง เส้นเลือด หรือกล้ามเนื้อ
  3. เหมาะสำหรับผู้ที่มี ไขมันสะสมที่ดื้อการออกกำลังกาย และต้องการ ลดไขมันตัวแบบเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และเอว

3.เซลล์ไขมันที่ถูกกำจัดจะไม่กลับมาอีก

  1. หลังจากที่เซลล์ไขมันถูกทำลายและขับออกจากร่างกาย จะไม่สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้
  2. หากสามารถ ควบคุมน้ำหนักตัว และ รักษาพฤติกรรมการกิน ได้ดี ไขมันจะไม่กลับมาเพิ่มขึ้นในบริเวณเดิม
  3. ช่วยให้รูปร่างดูเฟิร์มขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าไขมันจะกลับมา


หัตถการลดไขมันตัวด้วย INDIBA

ลดไขมันตัวด้วย INDIBA คืออะไร?

การ ลดไขมันตัว ด้วย INDIBA เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ Radiofrequency (RF) Therapy หรือ คลื่นวิทยุความถี่สูง ที่ 448 kHz ซึ่งเป็นความถี่เฉพาะที่สามารถส่งพลังงานลงไปกระตุ้นเซลล์ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เกิดการเผาผลาญไขมัน กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และทำให้ผิวกระชับขึ้น

เทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาจากประเทศสเปน และได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์ระดับสากล เช่น CE (มาตรฐานยุโรป) และ U.S.FDA ว่ามีความปลอดภัยและช่วย ลดไขมันตัว ได้จริง รวมถึงช่วยกระชับสัดส่วนและฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ในเวลาเดียวกัน


หลักการทำงานของ INDIBA ในการลดไขมันตัว

1.ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF - Radiofrequency) เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน

  1. INDIBA ใช้ คลื่นวิทยุความถี่ 448 kHz ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึง ชั้นไขมันใต้ผิวและกล้ามเนื้อ
  2. การทำงานของ INDIBA ช่วยให้ร่างกายสามารถ เผาผลาญไขมันสะสม ได้ดีขึ้น และลดอาการบวมน้ำที่ทำให้รูปร่างดูไม่กระชับ
  3. ลดไขมันตัวได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง


2.แบ่งการทำงานเป็น 2 โหมดพลังงานในการลดไขมัน

INDIBA มีโหมดพลังงานที่สามารถทำงานได้ทั้งในระดับตื้นและลึก ทำให้สามารถ ลดไขมันตัว ได้อย่างครอบคลุม
 CAP Mode (Capacitive Mode) – ลดไขมันและกระชับผิวบริเวณชั้นตื้น

  1. ทำงานในระดับ ผิวชั้นตื้น (Superficial Layer) และชั้นหนังแท้ (Dermis)
  2. ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับขึ้น
  3. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันพร้อมปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน


 RES Mode (Resistive Mode) – ลดไขมันระดับลึกและกระชับกล้ามเนื้อ

  1. ทำงานในระดับ ชั้นไขมันลึก (Subcutaneous Fat) และชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle Layer)
  2. กระตุ้นการสลายไขมันใต้ผิวหนัง พร้อมช่วยให้กล้ามเนื้อเฟิร์มขึ้น
  3. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ลดไขมันตัวแบบลึก และเพิ่มความกระชับของกล้ามเนื้อ


สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการลดไขมัน
การลดไขมันโดยใช้หัตถการทางการแพทย์สามารถแบ่งออกเป็นการลดไขมันบนใบหน้าและการลดไขมันในลำตัว ซึ่งแต่ละบริเวณต้องใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะจุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ลดไขมันให้ได้ผลดีควรเลือกเทคนิคที่ตรงกับความต้องการ เช่น หากต้องการลดไขมันบนใบหน้า ควรเลือกเทคโนโลยีที่ช่วยกระชับผิวพร้อมลดไขมันสะสม หรือหากต้องการลดไขมันลำตัว ควรใช้วิธีที่สามารถกำจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายได้อย่างถาวร




Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -