ลดไขมันหน้า vs ลดไขมันตัว วิธีไหนยากกว่ากัน และต้องใช้เวลานานแค่ไหน
วิธีลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวไปพร้อมกัน
การลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวไปพร้อมกัน เป็นแนวทางการลดไขมันแบบธรรมชาติที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่เป็นการลดไขมันโดยรวมของร่างกาย ทำให้ไขมันในแต่ละจุดลดลงอย่างสมดุล ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการควบคุมอาหาร การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการออกกำลังกายที่ช่วยให้การลดไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1.ลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวด้วยการควบคุมอาหาร (Dietary Adjustments)
โภชนาการที่ดีมีผลต่อการลดไขมันทั้งร่างกาย รวมถึงการลดไขมันใบหน้าด้วย การเลือกอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้นและลดไขมันได้อย่างปลอดภัย
- ปรับปริมาณแคลอรี่ให้เหมาะสม (Caloric Deficit)
- คำนวณ TDEE (Total Daily Energy Expenditure) เพื่อกำหนดปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการ
- ลดพลังงานลงประมาณ 300-500 kcal ต่อวัน เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันสะสมออกมาใช้
- เพิ่มโปรตีนเพื่อช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ
- การกินโปรตีนที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
- แหล่งโปรตีนที่ดี เช่น อกไก่ ปลา ไข่ เต้าหู้ ถั่ว กรีกโยเกิร์ต
- ลดน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว
- หลีกเลี่ยงขนมหวาน น้ำอัดลม ข้าวขาว ขนมปังขาว
- เปลี่ยนมาเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง มันหวาน ควินัว และธัญพืชเต็มเมล็ด
- เพิ่มไฟเบอร์และกินผักผลไม้มากขึ้น
- ช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ลดการสะสมไขมันส่วนเกิน
- แนะนำผักใบเขียวและผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง เบอร์รี่ อะโวคาโด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ (Hydration)
- ควรดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เพื่อช่วยลดอาการบวมน้ำและขับสารพิษออกจากร่างกาย
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำหวานที่มีโซเดียมสูง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะบวมน้ำและทำให้การลดไขมันช้าลง
การลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวพร้อมกัน ไม่ได้เป็นเรื่องยากหากเลือกแนวทางที่เหมาะสม โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรมการกินก่อน แล้วเสริมด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืน
ลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวด้วยการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญที่ช่วยลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวไปพร้อมกัน เพราะช่วยเผาผลาญพลังงาน กระตุ้นระบบเผาผลาญ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายสามารถลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1.คาร์ดิโอ (Cardio) เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญและลดไขมันสะสม
- การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น ทำให้การลดไขมันหน้าและลดไขมันตัวเป็นไปอย่างสมดุล
- ควรเลือกประเภทของคาร์ดิโอที่เหมาะสม เช่น HIIT (High-Intensity Interval Training) และ LISS (Low-Intensity Steady State)
ตัวอย่างคาร์ดิโอที่ช่วยลดไขมันได้ดี
- HIIT วิ่งเร็ว 30 วินาที สลับเดิน 30 วินาที ทำต่อเนื่อง 15-20 นาที
- LISS เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ อย่างน้อย 30-60 นาที
- ควรทำคาร์ดิโออย่างน้อย 4-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้การลดไขมันเห็นผลเร็วขึ้น
2.เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระชับสัดส่วน
- เวทเทรนนิ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้แม้ในขณะพัก ทำให้ลดไขมันได้อย่างต่อเนื่อง
- เน้นฝึกกล้ามเนื้อหลักเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เช่น Squats, Lunges, Deadlifts, Push-ups, Pull-ups
- ควรออกกำลังกายด้วยเวทเทรนนิ่ง อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟิตกระชับมากขึ้น
3.ออกกำลังกายใบหน้า (Facial Exercises) เพื่อช่วยลดไขมันสะสมบริเวณใบหน้า
- การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับ ลดการสะสมของไขมัน และทำให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น
- ตัวอย่างท่าบริหารใบหน้าที่สามารถช่วยลดไขมันหน้า
- Cheek Puff เป่าลมในปากและสลับไปมาระหว่างแก้มซ้าย-ขวา ทำค้างไว้ 30 วินาที
- Jawline Exercise เงยหน้าขึ้นแล้วขยับขากรรไกรค้างไว้ 10 วินาที
- Tongue Press กดลิ้นกับเพดานปากพร้อมยิ้มค้างไว้เพื่อบริหารกล้ามเนื้อบริเวณคาง
หัตถการลดไขมันบนใบหน้าด้วย EMFACE
ลดไขมันใบหน้าด้วย EMFACE คืออะไร?
EMFACE เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วย ลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้า และกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แตกต่างจากวิธีลดไขมันใบหน้าแบบเดิม เพราะใช้พลังงาน คลื่นไฟฟ้าความถี่สูง (RF) ควบคู่กับ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า HIFES™ (High-Intensity Focused Electromagnetic Stimulation) เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าและช่วยลดไขมันใต้ผิว ส่งผลให้รูปหน้ากระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เทคโนโลยีนี้พัฒนาโดย BTL Aesthetics ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง EMSCULPT (เทคโนโลยีลดไขมันหน้าท้องและปั้นหุ่นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) ทำให้ EMFACE เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดไขมันใบหน้าได้โดยไม่ต้องใช้เข็มหรือศัลยกรรม
หลักการลดไขมันบนใบหน้าของ EMFACE
- ลดไขมันด้วยพลังงานคลื่นความร้อน RF (Radiofrequency)
- คลื่น Monopolar RF ส่งพลังงานความร้อนเข้าสู่ใต้ผิวหนังจนมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 40-42°C
- ความร้อนระดับนี้ช่วยกระตุ้นให้ร่างกาย เผาผลาญและกำจัดเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง ผ่านกระบวนการทางชีวภาพ (Apoptosis - เซลล์ไขมันตายตามธรรมชาติ)
- ช่วยให้ไขมันสะสมที่ แก้ม คาง และกรอบหน้า ลดลง ทำให้รูปหน้าดูคมชัดขึ้น
- กระตุ้นกล้ามเนื้อเพื่อช่วยลดไขมันใบหน้าด้วย HIFES™ (High-Intensity Focused Electromagnetic Stimulation)
- คลื่น HIFES™ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวมากกว่าปกติ สูงถึง 30,000 ครั้งภายใน 20 นาที
- การกระตุ้นนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของ Levator Muscles ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ช่วยพยุงโครงสร้างใบหน้า เช่น
- กล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis)
- กล้ามเนื้อรอบดวงตา (Orbicularis Oculi)
- กล้ามเนื้อแก้ม (Zygomaticus Major & Minor)
- ส่งผลให้ใบหน้าดูกระชับ ริ้วรอยลดลง และปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพื่อช่วยลดไขมันและฟื้นฟูสภาพผิว
- คลื่น RF และ HIFES™ กระตุ้น Neocollagenesis (กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่) และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของ อีลาสติน
- ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ลดความหย่อนคล้อย และเสริมความแน่นของชั้นผิว
- ผิวดูสดใส เปล่งปลั่ง และมีความกระชับมากขึ้น พร้อมกับช่วยลดไขมันใบหน้าไปในตัว
หัตถการลดไขมันบนใบหน้าด้วย Ulthera SPT
ลดไขมันบนใบหน้าด้วย Ulthera SPT คืออะไร?
Ulthera SPT (See, Plan, Treat) เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Ultherapy ที่ใช้ คลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบโฟกัส (Focused Ultrasound) พลังงานสูง หรือที่เรียกว่า HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เพื่อช่วย ลดไขมันบนใบหน้า ควบคู่ไปกับการกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า
Ulthera SPT ได้รับการพัฒนาให้มีความแม่นยำสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิม ด้วยเทคโนโลยี See, Plan, Treat ที่ช่วยให้แพทย์สามารถ มองเห็นชั้นผิวหนังแบบเรียลไทม์ ทำให้การยิงพลังงานเพื่อ ลดไขมันบนใบหน้า และกระชับผิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
หลักการทำงานของ Ulthera SPT ในการลดไขมันบนใบหน้า
1.See - Visualization (มองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์)
- เทคโนโลยี Ulthera SPT มาพร้อมกับ หน้าจอแสดงภาพอัลตราซาวด์แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์และ มองเห็นชั้นผิวและไขมันใต้ผิว ก่อนทำการรักษา
- ช่วยให้การวางแผนการยิงพลังงานเพื่อ ลดไขมันบนใบหน้า แม่นยำขึ้น และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
2.Plan - วางแผนการส่งพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- แพทย์สามารถ กำหนดระดับความลึกของพลังงานอัลตราซาวด์ ให้ตรงกับปัญหาผิวของแต่ละคน
- หากต้องการ ลดไขมันบนใบหน้า พลังงานจะถูกส่งไปยัง ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) และ SMAS
- หากต้องการ ยกกระชับและฟื้นฟูคอลลาเจน พลังงานจะเน้นไปที่ ชั้นหนังแท้ (Dermis) และเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast Cells)
3.Treat - การส่งพลังงาน HIFU ลงสู่ชั้นผิวเพื่อช่วยลดไขมันและยกกระชับ
Ulthera SPT ยิงพลังงาน HIFU ลงไปที่ 3 ระดับชั้นผิว เพื่อช่วย ลดไขมันบนใบหน้า และปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
- ชั้นหนังแท้ (Dermis) - 1.5 mm
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
- ลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียนและแข็งแรงขึ้น
- ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) - 3.0 mm
- ช่วยเผาผลาญและ ลดไขมันสะสมที่แก้มและเหนียง
- ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ชั้น SMAS - 4.5 mm
- กระตุ้นการหดตัวของชั้น SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างรองรับผิว
- ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อย และทำให้รูปหน้าดูได้สัดส่วนมากขึ้น
หัตถการลดไขมันตัวด้วย CoolSculpting
ลดไขมันตัวด้วย CoolSculpting คืออะไร?
การ ลดไขมันตัว ด้วยเทคโนโลยี CoolSculpting เป็นวิธีที่ใช้หลักการ Cryolipolysis หรือการกำจัดไขมันด้วยความเย็นจุดเยือกแข็ง (-11°C ถึง -13°C) เพื่อทำให้เซลล์ไขมันตายลงโดยธรรมชาติ โดยไม่มีการผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม และไม่ต้องพักฟื้น ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการ ลดไขมันตัว แบบเฉพาะจุด
CoolSculpting เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาจาก Harvard Medical School และได้รับการรับรองจาก U.S.FDA ว่าสามารถ ลดไขมันตัว ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ เช่น ผิวหนัง กล้ามเนื้อ หรือเส้นประสาท
หลักการทำงานของ CoolSculpting ในการลดไขมันตัว
1.Cryolipolysis - ใช้ความเย็นทำให้เซลล์ไขมันตายโดยธรรมชาติ
- เทคโนโลยี Fat Freezing ช่วยให้เซลล์ไขมันตกผลึกเมื่อถูกแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำกว่า -11°C
- เมื่อน้ำในเซลล์ไขมันแข็งตัว เซลล์ไขมันจะเข้าสู่กระบวนการ Apoptosis (เซลล์ไขมันตายตามธรรมชาติ)
- เซลล์ไขมันที่ตายแล้วจะค่อย ๆ ถูกกำจัดออกทาง ระบบน้ำเหลืองของร่างกาย ภายใน 2-3 เดือน
2.กำจัดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่กระทบเนื้อเยื่อรอบข้าง
- CoolSculpting ใช้เทคโนโลยีที่สามารถกำหนดอุณหภูมิให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ ทำให้ ลดไขมันตัวเฉพาะจุด ได้อย่างแม่นยำ
- เซลล์ไขมันจะถูกทำลายโดยไม่มีผลกระทบต่อ ผิวหนัง เส้นเลือด หรือกล้ามเนื้อ
- เหมาะสำหรับผู้ที่มี ไขมันสะสมที่ดื้อการออกกำลังกาย และต้องการ ลดไขมันตัวแบบเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และเอว
3.เซลล์ไขมันที่ถูกกำจัดจะไม่กลับมาอีก
- หลังจากที่เซลล์ไขมันถูกทำลายและขับออกจากร่างกาย จะไม่สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้
- หากสามารถ ควบคุมน้ำหนักตัว และ รักษาพฤติกรรมการกิน ได้ดี ไขมันจะไม่กลับมาเพิ่มขึ้นในบริเวณเดิม
- ช่วยให้รูปร่างดูเฟิร์มขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าไขมันจะกลับมา
หัตถการลดไขมันตัวด้วย INDIBA
ลดไขมันตัวด้วย INDIBA คืออะไร?
การ ลดไขมันตัว ด้วย INDIBA เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ Radiofrequency (RF) Therapy หรือ คลื่นวิทยุความถี่สูง ที่ 448 kHz ซึ่งเป็นความถี่เฉพาะที่สามารถส่งพลังงานลงไปกระตุ้นเซลล์ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เกิดการเผาผลาญไขมัน กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และทำให้ผิวกระชับขึ้น
เทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาจากประเทศสเปน และได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์ระดับสากล เช่น CE (มาตรฐานยุโรป) และ U.S.FDA ว่ามีความปลอดภัยและช่วย ลดไขมันตัว ได้จริง รวมถึงช่วยกระชับสัดส่วนและฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ในเวลาเดียวกัน
หลักการทำงานของ INDIBA ในการลดไขมันตัว
1.ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF - Radiofrequency) เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน
- INDIBA ใช้ คลื่นวิทยุความถี่ 448 kHz ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึง ชั้นไขมันใต้ผิวและกล้ามเนื้อ
- การทำงานของ INDIBA ช่วยให้ร่างกายสามารถ เผาผลาญไขมันสะสม ได้ดีขึ้น และลดอาการบวมน้ำที่ทำให้รูปร่างดูไม่กระชับ
- ลดไขมันตัวได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
2.แบ่งการทำงานเป็น 2 โหมดพลังงานในการลดไขมัน
INDIBA มีโหมดพลังงานที่สามารถทำงานได้ทั้งในระดับตื้นและลึก ทำให้สามารถ ลดไขมันตัว ได้อย่างครอบคลุม
CAP Mode (Capacitive Mode) – ลดไขมันและกระชับผิวบริเวณชั้นตื้น
- ทำงานในระดับ ผิวชั้นตื้น (Superficial Layer) และชั้นหนังแท้ (Dermis)
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับขึ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันพร้อมปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
RES Mode (Resistive Mode) – ลดไขมันระดับลึกและกระชับกล้ามเนื้อ
- ทำงานในระดับ ชั้นไขมันลึก (Subcutaneous Fat) และชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle Layer)
- กระตุ้นการสลายไขมันใต้ผิวหนัง พร้อมช่วยให้กล้ามเนื้อเฟิร์มขึ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ลดไขมันตัวแบบลึก และเพิ่มความกระชับของกล้ามเนื้อ
สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการลดไขมัน
การลดไขมันโดยใช้หัตถการทางการแพทย์สามารถแบ่งออกเป็นการลดไขมันบนใบหน้าและการลดไขมันในลำตัว ซึ่งแต่ละบริเวณต้องใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะจุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ลดไขมันให้ได้ผลดีควรเลือกเทคนิคที่ตรงกับความต้องการ เช่น หากต้องการลดไขมันบนใบหน้า ควรเลือกเทคโนโลยีที่ช่วยกระชับผิวพร้อมลดไขมันสะสม หรือหากต้องการลดไขมันลำตัว ควรใช้วิธีที่สามารถกำจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายได้อย่างถาวร
Tweet |