รีวิว Mistine Le Jardin Super Filler Powder

3

สอยเบอร์1มาอ่านรีวิวแล้วเขาบอกเบอร์2คล้ำกว่ารุ่นโบว์กลัวหน้าดำเลยต้องเลือกเบอร์1 ตลับสี่เหลี่ยมมีลายสวยดีแต่ไม่ชอบตรงที่เปิดตลับแล้วเจอพัฟก่อน ชอบแบบเจอแป้งกับกระจกเลยมากกว่า เปิดมาสีแป้งขาวมากจนน้าตกใจ ทาแล้วตอนแรกมันจะดูขาวลอยๆแต่พอมันเซตตัวแล้วโอเคเข้ากับผิวได้พอสมควรแต่สีแป้งออกอมชมพูไม่ค่อยออกเหลืองทำให้ระหว่างวันมันจะดรอปถ้าเจออากาศร้อนมากๆ แต่ก็เติมได้ไม่เป็นคราบ เนื้อแป้งคล้ายรุ่นโบว์ที่เราชอบเลย ปกปิดพอๆกันแต่ตัวนี้พอทาแล้วรู้สึกหน้าจะเนียนกว่าเล็กน้อย ไม่ดูเป็นแป้งๆ คุมมันปานกลางรุ่นโบว์คุมมันดีกว่า ติดทนดี สำหรับเรานะ รู้สึกมันดีคล้ายๆรุ่นโบว์แต่เนียนกว่าคุมมันไม่เท่า เลยใช้สลับๆกันไป แต่ที่ให้3ดาวเพราะว่าใช้แป้งตัวนี้ติดๆกันสัก2-3วันสิวขึ้นทุกที ทั้งๆที่ล้างสะอาดเหมือนเดิม อาจจะเพราะส่วนผสมที่เราแพ้ ตอนนี้เราก็ต้องใช้ๆหยุดๆไปรอดูหนังหน้าอีกที

4

ราคา: จำไม่ได้จริงๆค่ะ คือกลับไทยไปกวาดแป้งมิสทีนมาเยอะมาก น่าจะไม่เกิน 160 บาทจากอีฟแอนบอยนะ
เนื้อ: ของเราสี s2 ออกสีเนื้อ ไม่มีวิ้งวาว เนื้อค่อนข้างเนียน เกลี่ยง่าย เนื้อแป้งพิมพ์ลายมิสทีนด้วย
Package: คือตัวตลับเป็นพลาสติกแต่ดูสวย ดูดีนะ สีเงินลายใบไม้มีสีเขียวเป็นพื้น ถือเป็นเครื่องประดับเวลาหยิบขึ้นมาทาได้เลยล่ะ กระจกพอดีๆ มีพัฟมาให้ซึ่งกินเนื้อแป้งมาก
การใช้งาน: เราว่ารุ่นนี้ทำได้ดีเลยนะ เรียบ เนียน คงเพราะผสมฟิลเลอร์ ทาแล้วจะวอกนิดนึงแต่พอเหงื่อออกจะพอดีเป๊ะ เราทาด้วยพัฟปกปิดดีเลย รอยดำๆหายไปเกือบหมด ไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง เหมาะกะคนผิวมันขาดน้ำเพราะปาดแล้วหน้าไม่แห้ง ดูอิ่มน้ำกะลังดี ราคาก็โอเคถ้ามีโปรจะถูกลงอีก ติดอย่างเดียวที่ทาแล้วจะไม่เป็นธรรมชาติคือดูออกเลยว่าโบ๊ะแป้งมา ไม่เหมือนของเซซาน ราคาสูงกว่าแต่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าอันนี้
จะซื้อต่ออีกไหม: น่าจะค่ะ คือเป็นแป้งมิสทีนตัวแรกๆที่เราลองและชอบ ตลับก็สวยด้วย

5

สีพอดีกับผิวมากไม่วอกไม่เทา ใช้ c2 เนื้อเนียนมากทาแล้วกลืนไปกับผิว ผิวจะดูนวลเนียนดีมาก ติดทนพอสมควร แต่ส่วนตัวรู้สึกรุ่น ริบบ้อน จะติดทนและคุมมันกว่า ส่วนเรื่องเนียนกลืนกับผิวก็พอๆกัน. แต่เบอร 2 ของริบบ้อนขาวกว่าเบอรสองของรุ่นนี้
คุณภาพเกินราคาจริงๆค่ะ. ชอบค่ะ คงใช้สลับๆกับรุ่นริบบ้อน