รีวิว Dior Diorskin Nude Air

4

เราชอบความเป็นธรรมชาติ เคยใช้ไปถ่ายงานที่สนามกีฬา แต่ไม่รู้ทำไมใช้แล้วหน้าเราเป็นคราบ ช่วงแก้มอาจจะเพราะหน้ามันมากแล้วก็เหงื่อด้วย แต่ส่วนตีวยังความบางเบา ถ้าใช้เดินห้างไม่ลุยมากคงรอด คิดว่าต้องพื้นฐานผิวดีระดับนึง

5

ปกติเราไม่ค่อยใช้รองพื้นที่เนื้อบางเบาเลย เพราะผิวมีรอยสิวรอยแดงเยอะ แต่เวลาผ่านไป รู้สึกว่าแบบปกปิดมากทำให้หนักผิว เหมือนผิวหายใจไม่ได้ เลยชอบอะไรบางเบา ไม่ปกปิดก็ช่าง ซึ่งรองพื้นของดิออร์รุ่นนี้เป็นตามนั้นทั้งหมด คือ บางเบาสบายผิวมาก ไม่ปกปิด ไม่หนักผิว และไม่ทำให้หน้าแมท สามารถเพิ่มเลเยอร์ได้เรื่อยๆ แต่การปกปิดยังไงก็ไม่เกินระดับ light (สุดๆ เราว่าได้ประมาณ medium-light คือเป็นปกปิดระดับกลางค่อนไปทางปกปิดน้อย ถึงแม้จะลงรองพื้นไปหลายชั้นแล้วก็ตาม) แต่ที่ดีคือ ผิวจะยังสวยอยู่ ถ้าใช้แป้งเซ็ทรองพื้นดีๆ แล้ว ผิวจะเนียนดีแบบเป็นธรรมชาติ ไม่โบกเลย เหมือนช่วยปรับสีผิวให้เรียบเสมอกัน (ส่วนตัวชอบมากกว่า no7 airbrush away ทั้งเรื่องเนื้อสัมผัส และผลลัพธ์ที่ได้)

แพ็กเกจเป็นขวดแก้วทรงรี ดูดีมาก ดูหรูหราดี มีดรอปเปอร์ เนื้อจะค่อนข้างแยกชั้น ต้องเขย่าให้เข้ากันก่อน ไม่ได้กลิ่นน้ำหอมนะ เนื้อฟลูอิดเหลวมาก เหลวเป็นน้ำเลย เกลี่ยง่ายดี ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ ซึมไว แต่ไม่คุมมันนะ เหมาะกับคนผิวดีและผิวแห้งมากกว่า

5

Diorskin Nude Air รองพื้นเซรั่ม แนะนำเลย สำหรับคนที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่พื้นฐานผิวดี ใช้แล้ว กลืนไปกับผิว

เนื้อ Diorskin Nude Air เราใช้เบอร์ 010 สีพอดีผิวเลย พิกเมนท์สีแน่นมากแต่เนียน บางไปกับผิว เนื้อรองพื้นเป็นน้ำเหลว เหลวกว่า No7 Airbrush Away Foundation ที่เอามาเปรียบเทียบกับตัวนี้ เพราะเป็นรองพื้นเนื้อเซรั่ม ใช้ตัวหัวขวดรองพื้นเป็นลักษณะ Dropper เหมือนกัน จะใช้กับฟองน้ำหรือแปรงก็ได้หมด สามารถลงทับได้หลายชั้นโดยไม่ได้รู้สึกหนักหน้า เปรียบเทียบแล้ว No7 เนื้อจะหนากว่า Dior นิดหน่อย ***ก่อนใช้ต้องเขย่าก่อน เพื่อให้เนื้อเข้ากัน สำคัญมาก***

รองพื้น Diorskin Nude Air ถ้าอากาศร้อนมาก มีความรู้สึกว่า เหมือนรองพื้นจะหลุดหายไป คือ รองพื้นตัวนี้ ไม่ค่อยทนกับอากาศที่ร้อนมากๆ โดยเฉพาะแถวข้างจมูก แต่ถ้าอยู่ในออฟฟิศ ก็จะสวยทั้งวัน เป็นรองพื้นที่ไม่คุมมัน แต่พอซับมันก็สวยเด้งเหมือนเดิม และติดทนเกิน 8 ชั่วโมง เราไม่ได้ลงไพร์เมอร์ ตกเย็นผิวก็ยังสวยอยู่ ดีจริงๆ