ขอขอบคุณvanilla และSenkaที่ได้ให้ผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ เนื้อโฟมนุ่ม ล้างออกง่ายเกลี้ยงสะอาดและผิวหน้านุ่มลื่นดี ชอบค่ะ ใช้ดีทีเดียว แนะนำเลยค่ะ
4
ต้องขอขอบคุณทาง vanilla และ Lancome ที่ได้ส่งผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองมาให้ใช้นะคะ เราจึงอยากร่วมแชร์ประสบการณ์ความรู้สึกและผลลัพธ์หลังใช้
จากคำเคลมว่า เซรั่มอันทรงประสิทธิภาพจากที่ช่วยต่อโปรผิวให้ดีขึ้นภายใน 3 วัน “ NEW ADVANCED GÉNIFIQUE”เป็นสูตรที่พัฒนามากกว่าสูตรเดิมถึง 40% และเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดจากลังโคมทั่วโลก กวาดรางวัลยอดเยี่ยมในระดับนานาชาติมาไม่น้อยกว่า 130 รางวัล และทรงประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุง 10 สัญญาณแห่งผิวอ่อนเยาว์ ที่สามารถสังเกตเห็นและสัมผัสได้ อันได้แก่ ริ้วรอยตื้น ริ้วรอยลึก ความเปล่งปลั่ง ความกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ผิวสัมผัส ความยืดหยุ่น ความเต่งตึง ความกระชับ และความหย่อนคล้อย ให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ สวยสมบูรณ์แบบ ซึ่งถ้าไม่ดีจริง คงไม่จำหน่ายมานานกว่า 8 ปีและการันตีรางวัลได้
จะยอดเยี่ยมขนาดไหน เรามาดูส่วนผสมของผลิตภัณฑ์กันดูนะ
ส่วนผสมสำคัญที่ทั้งสองผลิตภัณฑ์มีเหมือนกันก็คือ
1.โปรไบโอติก แฟร็กชั่นส์ 2 ชนิด
– ชนิดที่ 1 คือสารสกัดจากไบพีโตแบคทีเรีย (Bifida Ferment Lysate ) เป็นสารสกัดที่ได้จากการหมักบ่มแบคทีเรีย น่าจะมีความเข้มข้น 10 จะช่วยให้ผิวชั้นนอกแข็งแรงขึ้นและมีความชุ่มชื่นมากขึ้น ช่วยให้ผิวสุขภาพดีนั่นเอง
–ชนิดที่ 2 คือยีสต์สายพันธุ์ Saccharomyces Cerevisiae ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูโรนิคแอซิด ทำให้ผิวชุ่มชื่นและอิ่มฟู
2. Adenosine ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับผิวและเป็น Anti-Aging ได้
3. Sodium Hyaluronate เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื่นกับผิวชั้นนอก
ต่อไปเราจะมาดูว่าทั้งสองผลิตภัณฑ์มีอะไรที่แตกต่างเฉพาะตัวไปบ้าง
สำหรับ ADVANCED GÉNIFIQUE YOUTH ACTIVATING CONCENTRATE(เซรั่มสำหรับตอนเช้า)
– Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพตามธรรมชาติได้อย่างอ่อนโยน
– Ascorbyl Glucoside อนุพันธุ์วิตามินซีที่นิยมใช้กัน เคลมถึงคุณมบัติในการต้านอนุมูลอิสระไวท์เทนนิ่ง
– Salicyloyl Phytosphingosine หรือ Phytosphingosine SLC ช่วยเสริมการทำงานของ Skin Barrier ในการกระตุ้นการสร้าง Ceramide เพื่อให้ผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น
ส่วนผสมที่อยู่ในผลิตภัณฑ์นี้จะเน้นไปที่เรื่องการชะลอ ต่อต้านริ้วรอย และช่วยเสริมการเป็นไวท์เทนนิ่งและ Anti-Aging มาด้วย
สำหรับADVANCED GÉNIFIQUE SENSITIVE DUAL CONCENTRATE(เซรั่มสำหรับยามค่ำคืน)
ทางแบรนด์เคลมว่าประกอบด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99 % มีส่วนผสมเพิ่มเติมดังนี้
– Ferulic Acid เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ที่ดีมากตัวหนึ่ง ต้านการอักเสบ และช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงแดด
– Centaurea Cyanus Flower Water น้ำสกัดจากดอกไม้สีม่วงนี้มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ใช้เพื่อปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง
– Tocopherol เป็นวิตามินอีรูปแบบหนึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ
– Arginine กรดอะมิโนมีคุณสมบัติพื้นฐานในการให้ความชุ่มชื่นผิวและการต้านอนุมูลอิสระ
– Lactobacillus Ferment สารสกัดที่ได้จากการหมักบ่มแบคทีเรียสายพันธุ์ Lactobacillus Paracasei จะช่วยลดการระคายเคืองและทำให้ผิวแข็งแรงได้
– Madecassoside เป็นสารที่ได้จากพืชตระกูลใบบัวบกอย่าง Centella Asiatica เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ต้านการอักเสบ เสริมการเยียวยาบาดแผล และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ด้วย
– Leontopodium Alpinum Extract หรือ Edelweiss เป็นพืชสมุนไพรดั้งเดิม สารสำคัญคือ Leontopodic Acid มีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบ
– Caffeine มีจุดเด่นที่ดูซึมเข้าผิวได้ดีและเป็นแอนติออกซิแดนท์เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ได้
– Hydrolyzed Wheat Protein สารสกัดโปรตีนข้าวมีคุณสมบัติพื้นฐานในแง่ของการปรับสภาพผิวและให้ความชุ่มชื่น
– Ananas Sativus Fruit Extract / Pineapple Fruit Extract หรือสารสกัดจากสับปะรด ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้และเป็นแอนติออกซิแดนท์ ทำให้ผิวชุ่มชื่น
– Adenosine มีประโยชน์ในการลดริ้วรอย
ซึ่งจะเน้นไปที่การทำฟื้นฟูผิวชั้นนอกให้แข็งแรง ชุ่มชื่นและมีตัวที่ช่วยลดการอักเสบ การระคายเคือง กับสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลายกว่า คุ้มค่ากับราคาที่สูงของผลิตภัณฑ์
เนื้อผลิตภัณฑ์
เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์มีความคล้ายกัน เป็นเซรั่มเหลว แต่เข้มข้น เกลี่ยลงผิวแล้วไม่เหนอะหนะ ซึมไว แต่ Advanced Génifique (เซรั่มตอนเช้า)จะมีความบางเบากว่าเล็กน้อย สีขาวใสๆ ส่วน Génifique Sensitive(เซรั่มตอนกลางคืน) สีฟ้าอ่อนนิดๆ เวลาทาจะรู้สึกเย็นๆผิวเล็กน้อย จะมีความชุ่มชื่นบนผิวที่มากกว่าเซรั่มตอนเช้า ทั้งสองตัวมีกลิ่นหอมอ่อนนิดๆ คล้ายอโรม่า ทำให้รู้สึกสดชื่นเวลาทาลงผิวหน้าค่ะ
ความรู้สึกที่ได้และผลลัพธ์หลังการทดลองใช้ 3 วัน
เนื่องจากเป็นขนาดทดลองใช้ 5 วัน จึงยังไม่เห็นผลลัพธ์ครบทั้ง 10 ประการตามคำเคลม แต่ก็เห็นผลได้ชัดเจนและสัมผัสได้ 3 วัน คือ ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง เรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น ผิวเต่งตึงกระชับ รูขุมขนละเอียดขึ้น รู้สึกได้ว่าผิวยืดหยุ่น ชุ่มชื่น อิ่มฟู และความแดงของผิวน้อยลง และเวลาทาแป้งแต่งหน้าตอนเช้า จะง่ายขึ้น ติดผิวหน้าดีขึ้น ส่วนเรื่องริ้วรอยยังเห็นไม่ได้ชัดเจนเท่าไร ซึ่งถ้าได้ทดลองใช้นานกว่านี้ ก็อาจจะเห็นผลครบทั้ง 10 ประการ และถ้าได้เป็นผู้โชคดีทดลองใช้เซรั่มคู่ขนาดจริงก็จะกลับมารีวิวผลการใช้ให้ทราบอีกครั้งค่ะ
ความประทับใจที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์
ขอให้คะแนนหลังจากได้ทดลองใช้ 3 วัน ตามคำเคลมของผลิตภัณฑ์ ขอให้คะแนน 4.8 จาก 5 คะแนน เนื่องจากได้ใช้ระยะเวลาสั้น อาจจะยังไม่เห็นผลเรื่องริ้วรอย ถ้าได้ใช้นานกว่านี้อาจจะให้คะแนนเต็ม 5 ก็ได้ค่ะ
และสุดท้าย "The Little Black Bottle" เซรั่มลังโคมที่หญิงสาวหลายล้านคนต้องมีไว้ครอบครอง เป็นเซรั่มที่น่าสนใจและดีตัวหนึ่งทีเดียว
5
ต้องขอขอบคุณทาง vanilla และ Lancome ที่ได้ส่งผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองมาให้ใช้นะคะ เราจึงอยากร่วมแชร์ประสบการณ์ความรู้สึกและผลลัพธ์หลังใช้
จากคำเคลมว่า เซรั่มอันทรงประสิทธิภาพจากที่ช่วยต่อโปรผิวให้ดีขึ้นภายใน 3 วัน “ NEW ADVANCED GÉNIFIQUE”เป็นสูตรที่พัฒนามากกว่าสูตรเดิมถึง 40% และเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดจากลังโคมทั่วโลก กวาดรางวัลยอดเยี่ยมในระดับนานาชาติมาไม่น้อยกว่า 130 รางวัล และทรงประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุง 10 สัญญาณแห่งผิวอ่อนเยาว์ ที่สามารถสังเกตเห็นและสัมผัสได้ อันได้แก่ ริ้วรอยตื้น ริ้วรอยลึก ความเปล่งปลั่ง ความกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ผิวสัมผัส ความยืดหยุ่น ความเต่งตึง ความกระชับ และความหย่อนคล้อย ให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ สวยสมบูรณ์แบบ ซึ่งถ้าไม่ดีจริง คงไม่จำหน่ายมานานกว่า 8 ปีและการันตีรางวัลได้
จะยอดเยี่ยมขนาดไหน เรามาดูส่วนผสมของผลิตภัณฑ์กันดูนะ
ส่วนผสมสำคัญที่ทั้งสองผลิตภัณฑ์มีเหมือนกันก็คือ
1.โปรไบโอติก แฟร็กชั่นส์ 2 ชนิด
– ชนิดที่ 1 คือสารสกัดจากไบพีโตแบคทีเรีย (Bifida Ferment Lysate ) เป็นสารสกัดที่ได้จากการหมักบ่มแบคทีเรีย น่าจะมีความเข้มข้น 10 จะช่วยให้ผิวชั้นนอกแข็งแรงขึ้นและมีความชุ่มชื่นมากขึ้น ช่วยให้ผิวสุขภาพดีนั่นเอง
–ชนิดที่ 2 คือยีสต์สายพันธุ์ Saccharomyces Cerevisiae ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูโรนิคแอซิด ทำให้ผิวชุ่มชื่นและอิ่มฟู
2. Adenosine ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับผิวและเป็น Anti-Aging ได้
3. Sodium Hyaluronate เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื่นกับผิวชั้นนอก
ต่อไปเราจะมาดูว่าทั้งสองผลิตภัณฑ์มีอะไรที่แตกต่างเฉพาะตัวไปบ้าง
สำหรับ ADVANCED GÉNIFIQUE YOUTH ACTIVATING CONCENTRATE(เซรั่มสำหรับตอนเช้า)
– Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพตามธรรมชาติได้อย่างอ่อนโยน
– Ascorbyl Glucoside อนุพันธุ์วิตามินซีที่นิยมใช้กัน เคลมถึงคุณมบัติในการต้านอนุมูลอิสระไวท์เทนนิ่ง
– Salicyloyl Phytosphingosine หรือ Phytosphingosine SLC ช่วยเสริมการทำงานของ Skin Barrier ในการกระตุ้นการสร้าง Ceramide เพื่อให้ผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น
ส่วนผสมที่อยู่ในผลิตภัณฑ์นี้จะเน้นไปที่เรื่องการชะลอ ต่อต้านริ้วรอย และช่วยเสริมการเป็นไวท์เทนนิ่งและ Anti-Aging มาด้วย
สำหรับADVANCED GÉNIFIQUE SENSITIVE DUAL CONCENTRATE(เซรั่มสำหรับยามค่ำคืน)
ทางแบรนด์เคลมว่าประกอบด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99 % มีส่วนผสมเพิ่มเติมดังนี้
– Ferulic Acid เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ที่ดีมากตัวหนึ่ง ต้านการอักเสบ และช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงแดด
– Centaurea Cyanus Flower Water น้ำสกัดจากดอกไม้สีม่วงนี้มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ใช้เพื่อปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง
– Tocopherol เป็นวิตามินอีรูปแบบหนึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ
– Arginine กรดอะมิโนมีคุณสมบัติพื้นฐานในการให้ความชุ่มชื่นผิวและการต้านอนุมูลอิสระ
– Lactobacillus Ferment สารสกัดที่ได้จากการหมักบ่มแบคทีเรียสายพันธุ์ Lactobacillus Paracasei จะช่วยลดการระคายเคืองและทำให้ผิวแข็งแรงได้
– Madecassoside เป็นสารที่ได้จากพืชตระกูลใบบัวบกอย่าง Centella Asiatica เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ต้านการอักเสบ เสริมการเยียวยาบาดแผล และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ด้วย
– Leontopodium Alpinum Extract หรือ Edelweiss เป็นพืชสมุนไพรดั้งเดิม สารสำคัญคือ Leontopodic Acid มีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบ
– Caffeine มีจุดเด่นที่ดูซึมเข้าผิวได้ดีและเป็นแอนติออกซิแดนท์เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ได้
– Hydrolyzed Wheat Protein สารสกัดโปรตีนข้าวมีคุณสมบัติพื้นฐานในแง่ของการปรับสภาพผิวและให้ความชุ่มชื่น
– Ananas Sativus Fruit Extract / Pineapple Fruit Extract หรือสารสกัดจากสับปะรด ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้และเป็นแอนติออกซิแดนท์ ทำให้ผิวชุ่มชื่น
– Adenosine มีประโยชน์ในการลดริ้วรอย
ซึ่งจะเน้นไปที่การทำฟื้นฟูผิวชั้นนอกให้แข็งแรง ชุ่มชื่นและมีตัวที่ช่วยลดการอักเสบ การระคายเคือง กับสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลายกว่า คุ้มค่ากับราคาที่สูงของผลิตภัณฑ์
เนื้อผลิตภัณฑ์
เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์มีความคล้ายกัน เป็นเซรั่มเหลว แต่เข้มข้น เกลี่ยลงผิวแล้วไม่เหนอะหนะ ซึมไว แต่ Advanced Génifique (เซรั่มตอนเช้า)จะมีความบางเบากว่าเล็กน้อย สีขาวใสๆ ส่วน Génifique Sensitive(เซรั่มตอนกลางคืน) สีฟ้าอ่อนนิดๆ เวลาทาจะรู้สึกเย็นๆผิวเล็กน้อย จะมีความชุ่มชื่นบนผิวที่มากกว่าเซรั่มตอนเช้า ทั้งสองตัวมีกลิ่นหอมอ่อนนิดๆ คล้ายอโรม่า ทำให้รู้สึกสดชื่นเวลาทาลงผิวหน้าค่ะ
ความรู้สึกที่ได้และผลลัพธ์หลังการทดลองใช้ 3 วัน
เนื่องจากเป็นขนาดทดลองใช้ 5 วัน จึงยังไม่เห็นผลลัพธ์ครบทั้ง 10 ประการตามคำเคลม แต่ก็เห็นผลได้ชัดเจนและสัมผัสได้ 3 วัน คือ ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง เรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น ผิวเต่งตึงกระชับ รูขุมขนละเอียดขึ้น รู้สึกได้ว่าผิวยืดหยุ่น ชุ่มชื่น อิ่มฟู และความแดงของผิวน้อยลง และเวลาทาแป้งแต่งหน้าตอนเช้า จะง่ายขึ้น ติดผิวหน้าดีขึ้น ส่วนเรื่องริ้วรอยยังเห็นไม่ได้ชัดเจนเท่าไร ซึ่งถ้าได้ทดลองใช้นานกว่านี้ ก็อาจจะเห็นผลครบทั้ง 10 ประการ และถ้าได้เป็นผู้โชคดีทดลองใช้เซรั่มคู่ขนาดจริงก็จะกลับมารีวิวผลการใช้ให้ทราบอีกครั้งค่ะ
ความประทับใจที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์
ขอให้คะแนนหลังจากได้ทดลองใช้ 3 วัน ตามคำเคลมของผลิตภัณฑ์ ขอให้คะแนน 4.8 จาก 5 คะแนน เนื่องจากได้ใช้ระยะเวลาสั้น อาจจะยังไม่เห็นผลเรื่องริ้วรอย ถ้าได้ใช้นานกว่านี้อาจจะให้คะแนนเต็ม 5 ก็ได้ค่ะ
และสุดท้าย "The Little Black Bottle" เซรั่มลังโคมที่หญิงสาวหลายล้านคนต้องมีไว้ครอบครอง เป็นเซรั่มที่น่าสนใจและดีตัวหนึ่งทีเดียว
5
ได้รับสินค้ามาทดลองใช้ค่ะ เคยใช้คลีนซิ่งของนีเวียตัวที่เป็นน้ำนมมาก่อน รู้สึกสะอาดและอ่อนโยน พอได้ใช้คลีนซิ่งตัวใหม่ของนีเวีย คือ Nivea micellair expert micellarwater พอได้ใช้ครั้งแรกลบเครื่องสำอางและครีมกันแดดได้หมดจดจริงๆ แม้ว่าเมดอัพและครีมกันแดดจะติดทนหรือกันน้ำ ก็ล้างได้หมดจด และไม่ทิ้งคราบมันบนใบหน้า
ใช้ดีค่ะ ประทับใจ กด love ให้เลยค่ะ
5
เป็นครีมที่ตอบโจทย์สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายและผู้ที่ต้องการครีมบำรุงที่เน้นสารสกัดจากธรรมชาติ100% ปราศจากแอลกอฮอล์ ซิลิโคนใดๆตัวนี้ใช่เลย ใช้แล้วสิวไม่ขึ้น รอยดำแดงจากสิวจางลง ด้วยเนื้อครีมสีส้ม บางเบาซึมง่ายสู่ผิว ผิวจะเนียนนุ่ม ตึงกระชับตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ด้วยสารสกัดจากสาหร่ายสีแดงที่มีสรรพคุณดีกว่าวิตามินซีถึง 6,000 เท่า และ beta glucanจากเห็ดชิตาเกะ ทำให้ผิวเด้งนุ่มดีต่อผิวมักๆ
ตอนนี้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแพคเกจจากกระปุกเป็นหลอด ทำให้ใช้ง่าย และรักษาคุณสมบัติเนื้อครีมได้ดียิ่งขึ้น
และยังชอบที่ว่า ทุกครั้งที่สั่งซื้อครีม kindness จะบริจาคน้ำสะอาดให้ขุมชนที่ขาดแคลนน้ำอีกด้วย เหมือนได้ทำบุญเลย ตรงกับสโลแกนผลิตภัณฑ์ที่ว่า healthy skin happy world ความสุขจากความสวยงามเปลี่ยนแปลงโลกได้... ตื่นมาหน้าเด้งแล้วยังอิ่มสุขที่ใจอีกด้วย อย่างนี้กดlike ให้เลยค่ะ
5
