ครั้งนี้จะมาเล่าถึงผลการใช้ SK-II Genoptics Aura Essence อย่างต่อเนื่องถึง 9 สัปดาห์ค่ะ

Background เราเป็นคนผิวสองสี เมลานินทำงานเก็บแดดดีีดี เรียกว่าดำง่าย-คลายยากไม่แพ้เครื่องสำอางอะไรง่ายๆ เหตุที่ตัดสินใจใช้ SK-II แบบยกเซ็ต คือไปตากแดดช่วงหยุดสงกรานต์จนคล้ำ ทำให้มีปัญหากับการใช้รองพื้นเพราะสีของผิวหน้าคล้ำกว่าเดิม ด้วยความไม่อยากซื้อรองพื้นใหม่ เลยตัดสินใจจัด SK-II แทน (แค่ค่า SK-II แพงกว่ารองพื้นเยอะเลยนะ 5555)

ลำดับและวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา คือ หลังล้างหน้าจะเช็ดหน้าด้วย SK-II Facial Treatment Clear Lotion ก่อน แล้วเพิ่มความฉ่ำให้หน้าด้วย SK-II Cellumination Mask-in Lotion จากนั้นเสริมพลังด้วยน้ำป้าเจี๊ยบ SK-II Facial Treatment Essence
โดยสองอย่างหลังนี้จะใช้โดยเทใส่ฝ่ามือ วอร์มเล็กน้อย แล้วกดเบาๆ ทั่วใบหน้า

จากนั้นใช้ SK-II Genoptics Spot Essence ทาทั่วหน้าและนวดเน้นตรงจุดที่มีเม็ดสีเข้มกว่าที่อื่น ต่อด้วย SK-II Genoptics Aura Essence ... สองสัปดาห์สุดท้ายเราเปลี่ยนจากการใช้ทีละขวด แบ่งใช้เช้า-เย็น มาเป็นใช้พร้อมกันทั้งเช้าและเย็น (เนื่องจากได้คำแนะนำจาก BA ที่งาน Marie Clair) จากที่เคยเกรงว่าใช้พร้อมกันจะเยอะไป จะหนักหน้าไป มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย แม้จะใช้คู่กัน ผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้ก็ยังซึมลงบนผิวหน้าได้ดี ไม่มีปัญหากับการลง Moisturizer ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มยกกระชับ จบด้วย Eye Cream และถ้าเป็นกลางวันจะเพิ่มกันแดดด้วย

ครบ 9 สัปดาห์ ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น และดูสว่างสดใสมากขึ้น เห็นได้ชัดจากการใช้รองพื้นเบอร์ที่เมื่อก่อนรู้สึกว่าขาวกว่าผิวจริงนิดๆ แต่ตอนนี้พอดีเป๊ะ ส่วนเบอร์ที่เคยใช้แล้วพอดี ตอนนี้ก็จะมืดกว่าผิวจริงนิดหน่อย

สำหรับจุดด่างดำที่สีเข้มๆ แม้จะไม่ได้จางจนมองไม่เห็น แต่ตอนนี้จางลงกว่าตอนที่รีวิวคราวก่อนในระดับที่น่าพอใจ ควรค่าแก่การให้ 5 ดาวในแง่ของผลลัพธ์ ข้อดีอีกอย่างคือซึมเร็วและไม่ทำให้หน้ามัน เข้ากับผลิตภัณฑ์อื่นที่เราใช้อยู่ได้ดี... รักเลย!

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ผิวขาวใส | ไม่ระคายเคือง


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• กำลังจะใช้หมดในไม่ช้า
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1467300474
• Review link :
• Click to open

เนื้อ oil เหมือนจะหนืดหนัก ตอนแรกก็กลัวล้างยาก แต่เอาเข้าจริงล้างออกง่ายมากเลย ชอบตรงมันอุ่นขึ้นด้วย แต่เพิ่งได้ตัวอย่างทดลองใช้แค่ 4 ครั้ง ยังไม่รู้ว่าจะอุดตันหรือเปล่า กำลังพิจารณาว่าจะซื้อขนาดจริงมาใช้ดีไหม

• Overall rating :
• 4


• Benefit received :
• ไม่ระคายเคือง | ล้างออกง่าย


• Shopped at :
• ได้รับตัวอย่างทดลองใช้
• Reviewed when :
• ใช้แค่ตัวอย่างทดลองเท่านั้น
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1466336149
• Review link :
• Click to open

ช่วงนี้ in love กับ cushion และผลิตภัณฑ์ที่ใช้โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์พวกแปรงแต่งหน้าทุกชนิด เพราะมันเหมาะกับชีวิตคนทำงานที่ต้องบึ่งรถออกจากบ้านอย่างไวเพื่อหนีรถติด หน้าตาเลยได้ไปแต่งกันในรถเมื่อถึงที่ทำงานแล้ว อะไรที่สวยได้โดยใช้แค่อุปกรณ์ในตลับอย่างพัฟหรือปลายนิ้วจึงเป็นสิ่งที่ใช่สุดๆ

ชอบ cushion blush ของ lancome มาก เพราะมีสีที่เหมาะกับวันง่ายๆ วันที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ เนื้อสีก็สดใส ใช้ง่าย เกลี่ยสบาย เอาพัฟแตะเบาๆ แล้วกดเกลี่ยเป็นวงออกไปก็สวยได้ในพริบตา

ไม่ได้แน่นหนึบแบบขัดถูเท่าไรก็ไม่ออก แต่ก็มีความทนทานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ถามว่าพอใจขนาดนี้ทำไมถึงหัก 1 ดาว … ต้องหักสิจ๊ะ เพราะพัฟของนางช่างไม่อึดเอาซะเลย ใช้มาแค่เดือนเดียว ด้านหลังพัฟปริซะแล้ว ><!

• Overall rating :
• 4


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | เนื้อบางเบา | สีสวย


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1466335991
• Review link :
• Click to open

ไปทดลองที่เคาน์เตอร์เพราะกำลังชั่งใจว่าจะซื้อดีไหม สิ่งแรกที่ไม่ค่อยปลื้มคือเรื่องเฉดสีอันน้อยนิด จนขาดความเชื่อมั่นว่าจะมีสักอันไหมที่เข้ากับผิวเรา ส่วนที่ประทับใจมากๆ คือกลิ่นหอมสุดๆ เรียกว่าหอมชนะเลิศฆ่า cushion แบรนด์อื่นตายเรียบ เนื้อสัมผัสเย็นสดชื่นสบายผิว แน่ละว่าต้องแลกมากับการปกปิดที่บางเบา ใครพื้นฐานหน้าไม่ดีและไม่อยากอวดผิวไม่แนะนำให้ใช้เลย เรื่องคุมมันก็เป็นข้อด้อยอีกอย่างของแบรนด์นี้

ส่วนประเด็นที่ตัดสินใจไม่ซื้อผลิตภัณฑ์จริง คือ … วันนั้นเรากลับบ้านมาแล้วรู้สึกเหนียวหน้า แบบเหนียวเหงื่อแต่ยังไม่อยากอาบน้ำ เลยเอามือพรมน้ำใส่หน้าเบาๆ กะว่าพอให้สดชื่นขึ้นนิด ปรากฏว่าน้อง cushion ไหลลงมาเป็นคราบขาวๆ ส่องกระจกถึงกับร้องเฮ้ย! ใช้ cushion มาหลายตัวไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ช่วงนี้หน้าฝนด้วยเหอะ ถ้าวันไหนไม่เอาร่มไปหน้าตรูมิเละเลยเรอะ

แม้จะประทับใจในกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัส แต่รวมความแล้วคิดว่าขอผ่านแบรนด์นี้ไปก่อนดีกว่า -.-"

• Overall rating :
• 2


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | เป็นธรรมชาติ | กลิ่นหอม


• Shopped at :
• อื่น ๆ
• Reviewed when :
• อื่น ๆ
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1466335084
• Review link :
• Click to open

สมกับที่นาง claim ว่าเป็น Queen of Cushion …​ เฉดสีเพียบ เนื้อสบายผิว ปกปิดปานกลาง ให้ความเนียนฉ่ำแบบเป็นธรรมชาติ กันแดดระดับ SPF 50 มี refill กับ case ขายแยกกัน แถมยังมี case ลายน่ารักๆ แบบ limited edition ออกมาดูดเงินเราเป็นระยะๆ คือไม่รักไม่ได้นะแบบนี้

สีไม่ drop ไม่หมอง เติมหน้าระหว่างวันก็ไม่เป็นคราบ คุมมันในระดับหนึ่ง พัฟล้างยากกว่าป๋าชู แต่ยังล้างง่ายกว่า Sulwhasoo มากกกก … ใช้แล้วไม่อุดตัน อันนี้น่ารักที่สุด ใครยังกล้าๆ กลัวๆ กับ cushion ตัวนี้เป็นอีกอันที่อยากให้ลองค่ะ

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | เป็นธรรมชาติ | ปกปิด | กันแดด


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1466333711
• Review link :
• Click to open

งานผิวกระเบื้องเคลือบต้องยกให้ YSL จ้า… ลงหน้าเสร็จปุ๊บ ถ้าไม่ได้ไปออกแดดรัวๆ นี่ไม่ต้องลงแป้งเลยนะ เพราะเขาให้ finished look แบบตุ๊กจากระเบื้องเคลือบชั้นดี ดูแพง ดูปังมากๆ ถ้าจะให้เหมาะก็ตามด้วย blush on เนื้อครีมหรือ cushion blush ไปโลด ชอบถึงขนาดว่าไม่มี refill ยังยอมจ่ายแพงไปซื้อมาตุนอีกตลับอ้ะ ถ้าอยากได้งานกริบ ก็ลง cushion เพิ่มอีกสักชั้น consealer อีกหน่อยแล้วตบแป้งฝุ่น เป็นอันแจ่มแมว

เนื้อ cushion สบายผิว เติมได้ระหว่างวัน แต่ขอหัก 1 แต้มเพราะเฉดสีมีน้อยและไม่มี refill กว่าเราจะตัดใจหยิบเบอร์ 40 มาได้นี่คิดแล้วคิดอีก ถ้ามี refill และเฉดสีเพิ่มก็น่าจะได้เป็นลูกค้ากันเรื่อยๆ ละ

• Overall rating :
• 4


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | เป็นธรรมชาติ | กลิ่นหอม


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1466332215
• Review link :
• Click to open

ถ้าใครชอบ cushion ที่ให้การปกปิดดี ต้องป๋าชูเท่านั้นค่ะ แต่ถ้าชอบปกปิดปานกลาง แนะนำให้แตะพัฟกับ cushion อย่างเบามือ แล้วกดไล่จากหน้าผาก แก้ม ไล่ออกเป็นแนวไปหากรอบหน้า และไม่ต้องแตะพัฟกับ cushion ใหม่ เพื่อความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ส่วนจะลงแป้งฝุ่นตามหรือไม่ แล้วแต่ความชอบและหนังหน้าของเรา (คนผิวผสมหรือผิวมันควรลงแป้งตาม) ถ้าไม่ลงแป้ง หน้าก็จะฉ่ำหน่อย วันอากาศแห้งพอจะเอาได้อยู่

โดยส่วนตัวชอบพัฟของป๋าชู เพราะมันไม่อมเนื้อผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดก็ง่าย ให้ความมั่นใจได้ว่าเราล้างผลิตภัณฑ์ออกจากพัฟเกลี้ยงจริงๆ เมื่อเทียบกับพัฟยี่ห้ออื่น … (โดยเฉพาะของ Sulwhasoo นี่ล้างน้ำก็ขังน้ำไว้ในพัฟ อันนี้ไม่ผ่านอย่างแรง)

เฉดสีก็มีให้เลือกมากมาย หาสีที่เหมาะกับตัวเองได้ไม่ยาก ใช้แล้วไม่อุดตันด้วย มี refill และกันแดดถึง SPF 50 … สรุปว่าเลิฟๆๆๆๆ <3 <3 <3 <3 <3

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ปกปิด | กันแดด


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1466331268
• Review link :
• Click to open

สัมผัสแรกที่ปลื้มคือ แตะลงบนหน้าปุ๊บ รู้สึกเย็นฉ่ำปั๊บ (ความรู้สึกคล้ายๆ ตอนเราเอาวักน้ำล้างหน้าเวลาไปออกแดดแล้วรู้สึกสดชื่นอ้ะ) เนื้อของ Estee ไม่เหนอะหรือหนักหน้าเหมือนงานสายเกาหลี เฉพาะจุดนี้น่าจะโดนใจสาวไทยผิวผสมไปเต็มๆ และยังมีข้อดีอีกอันคือ SPF 50 (บางแบรนด์จะแค่ 15-25)

งานปกปิด ถ้าลงคร้งแรก จะเนียนแบบธรรมชาติ แต่ไม่เนียนกริบ ถ้าจะเอากริบต้องลงซ้ำและตามด้วยแป้งฝุ่น ส่วนงานติดทน ถ้าไม่เอามือไปขัดไปถู ก็อยู่ตั้งแต่เช้ายันค่ำกันไปตามที่ claim ไว้จริง คนหน้ามันน่าจะชอบตัวนี้มากอยู่ ส่วนคนหน้าแห้งก็ลง cushion กันแบบเพียวๆ ไม่ต้องลงแป้งฝุ่น

สรุปคือชอบมาก ซื้อมาตุนไว้ละ แต่หัก 1 แต้มเพราะไม่มี refill กับ case ขายแยก ทั้งๆ ที่ผลิตภัณฑ์ออกจะดี๊ดี แต่เหมือนนางไม่ตั้งใจจะขายแต่จำต้องทำเพราะกระแสมาแรง

• Overall rating :
• 4


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | เป็นธรรมชาติ | ติดทนนาน | กันแดด


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• กำลังจะใช้หมดในไม่ช้า
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1466311050
• Review link :
• Click to open

ต้นกำเนิด cushion มาเอง ก็ต้องลองกันสักหน่อย … อุปสรรคก็มาตั้งแต่เริ่มต้นละ คือเฉดสีมีน้อย ตอนที่เราซื้อมีสีเข้มสุดคือ No.23 ทาหน้าแล้วยังขาวกว่าคอนิดๆ แต่ด้วยความอยากลองก็ต้องจัดมา

เนื้อสัมผัส... คนผิวผสมเมืองร้อนไม่น่าจะปลื้มนะ เพราะนางหนึบและให้ความรู้สึกหนักหน้าเกินไป แถมยังเยิ้มได้อีก ขนาดเรานั่งทำงานในห้องแอร์เป็นส่วนใหญ่ ยังรู้สึกว่าผ่านไปแค่ 2-3 ชม. ส่องกระจกอีกทีนี่ตกใจเพราะนึกว่าไปงานออกร้านกลางสนามหลวงมา แต่เนื้อนี้น่าจะดีเลยสำหรับคนเกาหลี เพราะเขาอาศัยในที่หนาวและแห้งกว่าบ้านเรา

งานปกปิดถือว่าไม่มาก แต่ถ้ากดซ้ำก็จะดูหนาดูโบ๊ะเกินไปอีก สรุปว่าคนที่ไม่ต้องการความกริบอย่างเรา ทาแค่รอบเดียวสบายใจกว่า

ที่รับไม่ได้สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือ …​ ใช้ไปพักหนึ่ง สิวอุดตันบานตะไททั่วใบหน้า และรวมตัวหนาแน่นแถวข้างแก้มกับแนวกราม ต้องหยุดใช้ cushion พร้อมทั้งระดมสรรพกำลังป้าพอลล่า BHA มาช่วยกันขับไล่ สิวอุดตันจึงล่าถอยไป เป็นอันต้องตัดความสัมพันธ์กับ cushion ยี่ห้อนี้ด้วยเหตุผลคลาสสิค... เพราะเราเข้ากันไม่ได้ T_T

• Overall rating :
• 1


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | กลิ่นหอม


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• กำลังจะใช้หมดในไม่ช้า
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1466304333
• Review link :
• Click to open

เราเป็นคนผิวสองสี ชอบดูดกลืนแสงแดดมาเก็บไว้กับตัว แถมยังไม่ชอบปล่อยมันออกจากผิวอีก พูดง่ายๆ คือดำง่ายแต่คลายยาก หลังเที่ยวตากแดดจัดช่วงสงกรานต์ จังหวะดีที่ห้างมีโปร SK-II Genoptics Aura Essence และ SK-II Genoptics Spot Essence ขนาด 50 ml เลยได้เอามาลองใช้ทั้งสองตัวคู่กัน

เพื่อให้เห็นผลจากผลิตภัณฑ์สองตัวนี้แบบจริงจัง เราเลยหยุดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงยี่ห้ออื่น และเปลี่ยนใช้ผลิตภัณฑ์ของ SK-II เกือบครบชุด

ขั้นตอนการใช้เริ่มจากตอนเช้าเราใช้แค่โฟมล้างหน้ากลุ่ม Whitening สัญชาติฝรั่งเศส ส่วนตอนเย็นจะล้างเครื่องสำอางด้วย Clensing Oil สัญชาติญี่ปุ่น ตามด้วยโฟมล้างหน้า ควบคู่กับการใช้แปรงขัดหน้า

ส่วนการบำรุงจะมีลำดับดังนี้
- เช็ดหน้าด้วย SK-II Facial Treatment Clear Lotion
- เพิ่มความฉ่ำให้หน้าด้วย SK-II Cellumination Mask-in Lotion
- เสริมพลังด้วยน้ำป้าเจี๊ยบ SK-II Facial Treatment Essence
- มาถึงผลิตภัณฑ์ที่รอคอย... SK-II Genoptics Aura Essence ตัวนี้จะใช้ตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนจะใช้เป็น SK-II Genoptics Spot Essence โดยเน้นนวดตรงจุด่ดางดำให้นานหน่อย (สลับเวลาใช้ผลิตภัณฑ์อย่างละตัว เพราะเกรงว่าใช้พร้อมกันสองตัวมันจะเยอะเกิ๊นนน)
- ตามด้วย Moisturizer ซึ่งตอนนี้จะใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มยกกระชับละ (ป้าแก่แล้ว จะมัวห่วงขาวใสอย่างเดียวไม่ด๊ายยยย) ตอนนี้ใช้ Organic Day cream/Night cream สัญชาติฝรั่งเศสอยู่ เลยใช้ต่อไปให้หมดก่อนเพราะไม่อยากเปิดผลิตภัณฑ์ organic ทิ้งไว้นานๆ
- แล้วก็มาลง Eye cream สัญชาติฝรั่งเศสอีกเช่นกัน
- ถ้าเป็นตอนกลางวัน จะลงครีมกันแดดตัวโปรดที่ใช้แล้วไม่เคยเปลี่ยนใจเลยอีก 1 ชั้น เป็นอันเสร็จพิธี

ผลการใช้มาประมาณ 5 สัปดาห์ พบว่าใบหน้าโดยรวมขาวขึ้นเร็วกว่าตอนที่ไม่ได้กระหน่ำใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Whitening (ปรกติต้องใช้เวลาสัก 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อย ถึงจะกลับมายืนที่เดิม) ส่วนจุดด่างดำจางลงบ้าง แต่หวังว่าถ้าใช้ต่อจนครบ 8 สัปดาห์ มันจะจางลงในระดับที่น่าพอใจกว่านี้ (เราไม่หวังให้จางอย่างรวดเร็วนะ เพราะถ้าเร็วขนาดนั้นมันดูอันตรายเกินไป แต่หวังว่าจะค่อยๆ จางจนเห็นได้ยากขึ้นถ้าไม่สังเกต) ที่ชอบอีกอย่างคือซึมเร็วและไม่ทำให้หน้ามัน รวมทั้งเข้ากับผลิตภัณฑ์อื่นที่เราใช่อยู่ได้ดี

Dropper ก็ช่วยให้ควบคุมปริมาณผลิตภัณฑ์สะดวก จะติบ้างก็เรื่องขวดทึบแสง เวลาของใกล้หมดมันจะดูยากมากว่าหมดจริงหรือเปล่า ราคาก็แรงไม่ใช่เล่น อยากใช้อย่างคุ้มค่าน่ะ .. รวมๆ ข้อที่อยากให้ปรับปรุงแล้วขอหัก 1 ดาว

ถ้าหมดขวดนี้ ตั้งใจว่าจะซื้อมาใช้ต่อเพื่อให้เห็นผลที่ต่อเนื่องกันค่ะ

• Overall rating :
• 4


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ผิวขาวใส | ไม่ระคายเคือง


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1464713716
• Review link :
• Click to open