สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Vanilla ทุกคนค่าาาาา : ) เราเองห่างหายไปจากการรีวิวในเว็บมาพักนึง ไหนจะเรื่องงานที่เครียดทุกวัน ไหนจะเวลาพักผ่อนน้อย แล้วอายุก็ใกล้เลขสามเข้าไปทุกที ช่วงนี้ผิวเราทรุดโทรมสุดๆ เลยค่ะ จะบำรุงผิวเน้นขาวใสแบบเมื่อก่อนก็ไม่ได้แล้ว พออายุมากขึ้น เรื่องความเอจความแก่เป็นอะไรที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะใคร ๆ ก็อยากมีผิวอ่อนเยาว์หน้าเด็กตลอดเวลา จริงมั้ยคะ? นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่เราพยายามหาครีมเอย เซรั่มเอย ที่จะช่วยฟื้นบำรุงผิวที่เหนื่อยล้าจากการทำงานหนักและอายุที่มากขึ้น แต่จะซื้อเซรั่มหรือครีมบำรุงแพง ๆ ก็คงไม่ไหวสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา เราก็เลยลองใช้ POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence เซรั่มเอสเซ้นส์ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ในราคาที่มนุษย์เงินเดือนที่แสนจะน้อยนิดอย่างเราเอื้อมถึง

เหตุผลที่เราลองหยิบเซรั่มเอสเซ้นต์ตัวนี้มา อย่างแรกเพราะเรื่องราคาเลยค่ะ ราคาจับต้องได้ เพียงแค่ 599 บาท ตอนที่เราดูในแผนกบิวตี้ของซูเปอร์มาเก็ตมีจัดโปรเหลือ 520 บาท กรี๊ดดดดด คำว่า sale มีผลต่อการตัดสินใจไปแล้วนิดนึง รีบหยิบมาดูแบบไม่ลังเลเลยค่ะ ข้างกล่องเขียนว่า..
"ตัวช่วยเผยผิวเปล่งประกายความอ่อนเยาว์ ด้วยพลังจากส่วนผสมอันทรงคุณค่า ช่วยฟื้นบำรุง และเร่งการผลัดเซลล์ผิว พร้อมเผยผิวใหม่เร็วขึ้น ริ้วรอยดูลดเลือน เพื่อผิวใส เนียนนุ่ม ดูอ่อนเยาว์ สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงภายใน 7 วัน"

TRIPLE HYALURONIC ACID
deeply penetrates to moisturise and hydrate your skin from deep within
ไฮยาลูรอนิค x3 เติมเต็มความชุ่มชื้นสู่ชั้นผิวอย่างล้ำลึก

RED ALGAE
famous for reduction of fine lines and wrinkles
สาหร่ายสีแดงจากประเทศฝรั่งเศส ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกอย่างมีประสิทธิภาพ

FERMENTED BIFIDA
repairs skin barrier for soft, smooth, healthy skin
ไบฟิด้า เฟอร์เมนต์ ฟื้นบำรุงและเสริมเกราะป้องกันให้ชั้นผิว เพื่อผิวดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี

ACTIVATED COLLAGEN
improve skin elasticity for supple, plump skin
คอลลาเจน ฟื้นบำรุงชั้นผิว สัมผัสผิวนุ่ม เรียบเนียน อิ่มฟู

PEPTIDE BOOSTER
firms, tightens and lifts
เปปไทด์บูสเตอร์ ช่วยกระชับผิว เพื่อผิวเด้ง เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์

VITAMIN B3
brightens and reduces dark spots
วิตามินบี3 ปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมลดเลือน ฝ้า กระ และจุดด่างดำ

จากคำเคลมข้างกล่องและหน้าตาของขวดเซรั่มเอสเซ้นส์ที่หยิบแล้วเรียบหรูดูแพงน่าใช้ ประกอบกับราคาที่จับต้องได้ อยากจะคว้าน้องกลับบ้านมากๆ ซื้อๆๆๆๆๆๆๆ แต่เราก็ต้องดึงสตินิดนึง! เรื่องราคาสำคัญก็จริง แต่เรื่องประสิทธิภาพต้องมาก่อน จะลงทุนทั้งที ต้องเลือกก่อนว่าดีรึป่าว หยิบมือถือมาเสิร์ชดูข้อมูลและรีวิวต่าง ๆ อยู่สักพักนึง เห้ยดีอะแกรรรร! คนอื่นใช้ก็บอกว่าโอเคมาก ๆ เราก็หยิบน้องใส่ตะกร้าไปจ่ายตังค์เลยค่ะ ต้องกอบกู้ผิวหน้าที่เหนื่อยล้ากลับมาให้ได้ !

แกะกล่องกันเลยค่าาาา..
ขวดเซรั่มเอสเซ้นส์สีแดงรูปทรงสวยงาม ดูหรูหราเหมือนกับขวดเซรั่มแพง ๆ ตั้งไว้บนโต๊ะแป้งแล้วแบบเริ่ชชชมาก ตรงฝาเป็นดรอปเปอร์ แค่กดด้านบนเซรั่มเอสเซ้นส์ก็จะเข้าไปในหลอดปริมาณพอดีต่อการใช้ 1 ครั้ง

เนื้อเซรั่มเอสเซ้นส์สีขาวมุก ไม่เหลวจนเกินไป เนื้อสัมผัสมีความบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว แต่ไม่ถึงกับทาแล้วไม่เหลืออะไรไว้บนผิวหน้านะคะ เราจะรู้สึกว่าตัวเอสเซ้นส์ยังคงเคลือบอยู่ที่ผิว ให้สัมผัสที่ผิวเรียบลื่นขึ้น แต่ไม่รู้สึกเหนอะหนะ และยังคงความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า

ส่วนเรื่องกลิ่น เป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ น่าจะมีส่วนผสมของน้ำหอม ส่วนตัวเราไม่แพ้นะคะ เพื่อน ๆ คนไหนที่ผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อนนะ

ปริมาณ 30 กรัม
ราคา 599 บาท
#นอกจากนี้ยังมีแบบซองด้วยนะคะ ปริมาณ 7 กรัม ราคา 39 บาท ซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อ ไปหยิบมาลองเทสต์ก่อนได้เด้อ

วิธีการใช้
หยดเซรั่มเอสเซนส์แล้วทาลงบนผิวหน้าหลังจากล้างทำความสะอาดแล้วเช็ดด้วยโทนเนอร์
จากนั่นค่อย ๆ ลูบไล้เนื้อเซรั่มเอสเซนส์ให้ทั่วใบหน้าใบ และลูบไล้เนื้อเซรั่มเอสเซนส์ลงมาถึงลำคอ
เทคนิคคือการการนวดกระชับผิวต้องนวดขึ้นตามแนวใบหน้าจากล่างขึ้นบนนะคะ ผิวเราจะได้ไม่หย่อนคล้อยไปตามแรงดึงดูดของโลก ><
ควรใช้เป็นประจำเช้า เย็น จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้
หลังจากทาเซรั่มเอสเซ้นส์และตามด้วยครีมบำรุงก่อนนอน พอตื่นเช้าเราจะรู้สึกว่าผิวของเรามีความชุ่มชื่นขึ้น พอใช้ไปสักพักจะรู้สึกว่าผิวเหนื่อยล้าน้อยลง มีความอิ่มน้ำขึ้น สัมผัสที่ผิวจะนุ่มเนียนขึ้น
ช่วงเช้าก่อนแต่งหน้า เซรั่มเอสเซ้นส์จะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิว มีความบางเบา ซึมซาบไว้ ไม่เหนอะ แต่ไม่ใช่ซึมหายไปเลยทีเดียวนะคะ ยังคงมีความรู้สึกว่าเซรั่มเอสเซ้นส์ยังคงเคลือบคลุมบาง ๆ อยู่ที่ผิว และช่วยปรับผิวให้เรียบลื่นขึ้น ทาครีมกันแดดและแต่งหน้าได้ง่าย ไม่ทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบ
หลังจากใช้ไปประมาณ 2 สัปดาห์ ผิวที่เหนื่อยล้าของเราก็ได้รับการเติมเต็มความชุ่มชื่นที่ล้ำลึกมากขึ้น ช่วยฟื้นฟูให้ผิวค่อย ๆ อิ่มฟูขึ้น และสัมผิสที่ผิวจะเรียบเนียนอ่อนนุ่มมากขึ้น

ความประทับใจของเรา เพียงแค่ใช้ไปประมาณ 2 สัปดาห์ เราก็รู้สึกได้ว่าผิวหน้ามีการเปลี่ยนแปลง จากผิวที่เหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย และอายุที่เพิ่มมากขึ้น ได้รับการฟื้นฟูให้ได้รับความชุ่มชื่นและช่วยกระชับผิวให้ดูอ่อนเยาว์จากสารบำรุงที่ใส่มาอย่างอัดแน่นภายใต้ขวดเซรั่มเอสเซ้นส์ราคาหลักร้อย เชื่อว่าถ้าใช้ต่อเนื่องจนหมวดขวดต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและหน้าต้องดูด็กลงแน่ๆ

เพื่อนๆ คนไหนสนใจหรือกำลังมองหาเซรั่มเอสเซ้นส์คุณภาพดีในราคาจับต้องได้สบายกระเป๋า เราขอแนะนำให้ไปลองหยิบ POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence มาใช้ดูค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังตังค์ยังเหลือ : ) หรือถ้าไม่มั่นใจว่าจะใช้ดีมั้ย จะเข้ากับผิวรึป่าว แวะไปที่ร้านสะดวกซื้อ หยิบแบบซอง 39 บาท มาลองใช้ก่อนแบบกรุบกริบก็ได้นะคะ หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้นน้าาา : )

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | กระชับรูขุมขน | ลดเลือนริ้วรอย | ยกกระชับผิว | ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม


• Shopped at :
• ซุปเปอร์มาร์เก็ต (เช่น ท็อปส์, โฮม เฟรช มาร์ท)
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1568912626
• Review link :
• Click to open

สมัยนี้ถ้าออกไปนอกบ้านแล้วไม่ทาครีมกันแดดถือว่าผิดค่ะ!!! ไปเรียน ไปเที่ยว ไปทำงาน หรือแม้แต่เดินไปแค่หน้าปากซอย ไปเซเว่น ก็ต้องทา ครีมกันแดดนะคะ ไม่อย่างนั้นมีหวังเจอแดดเผาจนผิวเราคล้ำเสีย กลายเป็นสาวผิวสองสีไปเลยค่าาาา.. ซึ่งผิวสองสีที่ว่าก็คือผิวลาเต้นั่นเอง ข้างนอกกับข้างในเสื้อผ้าเป็นคนละสีกัน ข้างในเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยโดนแสงแดดก็ยังขาวกระจ่างใสอยู่ แต่บริเวณที่โดดแสงแดดคล้ำเสียสุดๆ สีผิวไม่สม่ำเสมอ แยกกันเป็นชั้นกาแฟกับนมอย่างชัดเจนเหมือนกาแฟลาเต้นั่นเอง ทีนี้จะใส่เสื้อผ้าโชว์ผิวสวยๆ ก็ไม่กล้า เพราะกลัวคนเห็นผิวสองสีขาวดำตัดกันอย่างชัดเจนของเรา หมดความมั่นใจกันพอดี

เมื่อก่อนเราเองก็เคยประสบปัญหาผิวลาเต้นะคะ เพราะเป็นคนชอบใส่เสื้อแขนสั้น บางครั้งก็ลืมทาครีมกันแดด ทีนี้ตรงแขนก็จะแบ่งครึ่งส่วนที่ขาวกับส่วนที่คล้ำอย่างชัดเจน อยากจะใส่เสื้อปาดไหล่หรือเดรสแขนกุดก็ไม่กล้าเลยค่ะ ต้องใส่เสื้อที่แขนยาวลงมาเพื่อปิดไว้ ทนขัดผิว ทาครีมบำรุงอย่างหนักหน่วง กว่าบริเวณหมองคล้ำจะจางลง แต่จะให้ทนใส่เสื้อแขนยาวไปตลอดคงไม่ไหว เราเลยเลือกตัวช่วยที่คอยปกป้องผิวจากแสงแดดรวมถึงช่วยปรับสีผิวที่หมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้น และที่สำคัญต้องมีเนื้อบางเบาด้วยนะคะ ทีนี้ก็สามารถใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

สำหรับตัวช่วยที่เราใช้อยู่ในช่วงนี้ก็คือ NIVEA SUN DAILY PROTECT Whitening sun body serum SPF50 PA+++ กันแดดทาตัวเนื้อเซรั่มที่ให้มากกว่าการปกป้อง แต่ยังช่วยฟื้นบำรุงผิวคล้ำเสีย สีผิวไม่สม่ำเสมอเพื่อผิวดูขาวกระจ่างใสทั่วเรือนร่างอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ได้ป็นประจำทุกวัน

คุณสมบัติของกันแดดตัวนี้ก็คือ..
- UV & Collagen Protection ปกป้องแดดที่ทำร้ายผิวลึกถึงระดับคอลลาเจน ด้วย SPF50 และ PA+++ ปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA, UVB สาเหตุหนึ่งของผิวคล้ำเสีย ฝ้าแดด กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย
- Intensive Whitening ฟื้นบำรุงผิวให้ดูขาวกระจ่างใสทั่วเรือนร่าง ไม่กลับมาคล้ำเสียด้วยสารสกัดจากวิตามินซีเข้มข้น 50 เท่า และสารสกัดจาก Acerola Cherry
- Anti-Pollution Complex ทำงานเสมือนเกราะปกป้องจากมลภาวะ ฝุ่นควันและสิ่งสกปรก ผิวจึงไม่แห้งกร้านเสียและหมองคล้ำจากมลภาวะที่ทำร้ายผิว
- Non-Chemical ปราศจากเคมี (BHA) ที่ทำให้ผิวไวต่อแดด
- Light Texture and Non-Sticky เนื้อบางเบา สบายผิว สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน

ปริมาณ 180 มิลลิลิตร
ราคา 290 บาท

มาดูแพคเกจกันค่ะ
สำหรับครีมกันแดด NIVEA SUN DAILY PROTECT Whitening sun body serum SPF50 PA+++ มาในรูปแบบของครีมกันแดดทาตัวแบบหลอดบีบ ฝาเปิดปิดใช้งานได้สะดวก บีบเนื้อครีมได้ง่าย

เนื้อครีมกันแดด
ครีมกันแดดเป็นสีขาว เนื้อค่อนข้างเหลว บีบออกจากหลอดได้ง่าย ด้วยความที่เป็นกันแดดเนื้อเซรั่มจึงให้ความรู้สึกบางเบา ไม่เหนียวหนอะหนะ เพียงแค่ใช้มือลูบไล้เบาๆ เนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นเนื้อเซรั่ม ทำให้เกลี่ยได้ง่าย ซึมซาบไว ทาแล้วหายไปกับผิวเลยค่ะ

กลิ่น
สำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นครีมกันแดดแรงๆ หรือกลิ่นฉุน ต้องมาทาครีมกันแดดตัวนี้ค่ะ หมดกังวลเรื่องกลิ่นไปได้เลย เพราะเราทาครีมกันแดดแต่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังทาครีมทาผิวของนีเวียยังไงยังงั้น เป็นกลิ่นหอมสไตล์ครีมบำรุงผิวของนีเวียที่มีความเป็นเอกลักษณ์ แถมยังหอมติดผิวยาวนานด้วยนะคะ

วิธีใช้
ลูบไล้เซรั่มให้สม่ำเสมอทั่วผิวกายก่อนออกแดดเป็นประจำทุกวัน สามารถทาซ้ำได้ถ้าต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน

ความรู้สึกหลังใช้
อย่างแรกที่ประทับใจเลยก็คือเนื้อครีมกันแดดที่บางเบามากๆ เนื้อเซรั่มเกลี่ยง่าย เวลาลูบไล้ที่ผิวจะเป็นเนื้อน้ำ ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิว เป็นกันแดดที่เราทาแล้วไม่ทำให้ผิวขาววอก ไม่เป็นคราบขาวๆ หรือติดกับเส้นขน เพราะเนื้อครีมจะซึมซาบหายไปกับผิวเลย
อย่างต่อมาคือประทับใจเรื่องกลิ่นค่ะ เป็นการทาครีมกันแดดที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังทาครีมบำรุงผิวของนีเวียมากกว่า ไม่มีกลิ่นครีมกันแดดแรงๆ เลย ทำให้ทาได้เป็นประจำทุกวัน และไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นครีมกันแดดจะฉุนหรือทำให้คนรอบข้างเวียนหัวเลย
สำหรับประสิทธิภาพการกันแดดถือว่าผ่านค่ะ เราจะทาทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน จะไม่รู้สึกว่าแสบร้อนผิวจากการโดนแดดแรงๆ กลับมาถึงบ้านผิวก็ยังคงปกติอยู่ ไม่หมองคล้ำขึ้น

เราเป็นคนนึงที่ชอบใช้เวลาว่างในการไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือร้านกาแฟชิคๆ รวมถึงชอบถ่ายรูปอัพลง facebook instagram แดดจะร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะแสงแดดนั้นทำให้รูปถ่ายของเราสวยและดูมีชีวิตชีวา ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยผ่านประสบการณ์ผิวตัวคล้ำเสียเพราะใส่เสื้อแขนสั้นบ้าง เสื้อปาดไหล่บ้าง จนกลายเป็นผิวลาเต้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวของเราได้ ตั้งแต่หันมาใช้ครีมกันแดดทาตัวเนื้อเซรั่ม NIVEA SUN DAILY PROTECT Whitening sun body serum SPF50 PA+++ ถือว่าช่วยได้มากเลยทีเดียวค่ะ เหมาะกับคนที่มองหาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพดี เนื้อบางเบาไม่เหนอะผิว เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่ขาววอก ไม่เป็นคราบติดเสื้อผ้า และที่สำคัญมีกลิ่นหอมด้วยค่ะ เมื่อใช้เป็นประจำจะรู้สึกได้ว่าผิวที่คล้ำเสียดูจางลง มีสีผิวที่สม่ำเสมอมากขึ้น สามารถอัพรูปโชว์ผิวสวยได้ในทุกที่ทุกเวลา

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ทาง่าย / เกลี่ยง่าย | ไม่เหนียวเหนอะหนะ | กันน้ำ | ไม่ระคายเคือง | กันแดด | กลิ่นหอม | ล้างออกง่าย


• Shopped at :
• ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
• Reviewed when :
• กำลังจะใช้หมดในไม่ช้า
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1541325323
• Review link :
• Click to open

เพื่อนชาววนิลาคนไหนมีปัญหาผิวหน้า จุดดำ กระ ฝ้า คอยกวนใจ เชิญมามุงทางนี้จ้า เรามีผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวที่เป็นฝ้ามาแชร์ให้เพื่อนๆ รู้จัก ซึ่งตัวนี้เคลมว่าเห็นผลใน 3 สัปดาห์ นั่นก็คือ Concept Anti-Melasma Cream ที่ยืนยันประสิทธิภาพโดยแพทย์ผิวหนังจากสถาบัน Spin Control Asia มั่นใจได้ว่าปลอดภัย และที่สำคัญยังผลิตด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ทำให้ผิวหน้าบาง ไม่ทำร้ายผิว และไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วย
บอกลาครีมทาฝ้าอันตรายแบบเก่าๆ แล้วเรามาเริ่มต้นดูแลผิวหน้าใหม่กันค่ะ

คุณสมบัติ
- ยืนยันประสิทธิภาพโดยแพทย์ผิวหนังจากสถาบัน SpinControl Asia
- เพียง 3 สัปดาห์ ฝ้าดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด
- ผลิตด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
- ไม่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน สารปรอท และกรดเรทิโนอิก
- ไม่ทำให้หน้าบาง ไม่ทำร้ายผิว
- เมื่อฝ้าหาย สามารถหยุดใช้ได้ทันทีไม่มีผลข้างเคียง

ส่วนประกอบ
- Alpha-Arbutin ช่วยให้ฝ้าและจุดด่างดำ แลดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
- Vitamin B3, Licorice Extract , Pea Seed Extract , Octadecenedioic Acid เป็น Multi Whitening ช่วยให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใส เผยผิวใสเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
- Vitamin E, Aloe Vera Powder, Cogongrass Extract ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

อ่านคุณสมบัติและส่วนประกอบของครีมไปแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิวแน่นอน ทีนี้เรามาลองใช้กันค่ะ

แพคเกจ
ครีมทาฝ้า Concept Anti-Melasma Cream มาในรูปแบบหลอดบีบสีขาว-แดง ฝาหมุนเปิด-ปิด ใช้งานสะดวก หลอดบีบง่าย ขนาดหลอดครีมกำลังดี วางบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วไม่เปลืองพื้นที่ สามารถพกพาในกระเป๋าเครื่องสำอางเวลาเดินทางได้

ปริมาณ 24 กรัม
ราคา 450 บาท
เมื่อเทียบปริมาณกับราคาแล้วเราถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ เพราะบีบมาใช้แค่นิดเดียว ทาบางๆ บริเวณที่มีปัญหาผิวรอยดำ กระ ฝ้า ทำให้ครีมหนึ่งหลอดสามารถใช้ได้นานมาก
นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็ก 4 กรัม และ 12 กรัม ด้วยนะคะ ราคาอยู่ที่ 99 และ 290 บาท ถ้าใครสนใจแต่ยังลังเลว่าจะเหมาะกับตัวเองไหม ลองซื้อขนาดเล็กมาใช้ก่อนก็ได้ค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์
เนื้อครีมมีสีขาว ลักษณะเป็นเนื้อครีมบางเบา มีกลิ่นอ่อนๆ คล้ายกลิ่นยา แต่ถ้าไม่โฟกัสหรือดมใกล้มากๆ ก็ไม่ค่อยได้กลิ่นนะคะ ครีมทาฝ้าอื่นๆ กลิ่นแรงกว่านี้อีกก็มีเด้อ อันนี้ถือว่ารับได้ ทาแล้วเกลี่ยง่ายมาก เหมือนทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวทั่วไป ซึบซาบไว พอทาไปสักพักกลิ่นก็จางหายไป สามารถทาครีมกันแดดและแต่งหน้าต่อได้ทันที ไม่ทิ้งความเหนอะหนะหรือจับตัวเป็นคราบเวลาแต่งหน้า

วิธีใช้
-ทาครีมบาง ๆ บริเวณที่เป็นฝ้า ตอนเช้าและก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน
-หากใช้ครีมทาฝ้าจากแบรนด์อื่นให้หยุดใช้ 1 สัปดาห์ก่อน แล้วค่อยใช้ครีมทาฝ้าตัวนี้

สภาพผิวหน้าก่อนใช้
เนื่องจากเราเป็นคนที่ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ จึงไม่ค่อยมีปัญหาฝ้ามากนัก แต่ก็ยังมีกวนใจอยู่บ้าง บริเวณโหนกแก้มที่โดนแดดเป็นประจำ แม้แต่กันแดดก็เอาไม่อยู่ จะเห็นเป็นรอยฝ้าจางๆ จุดเล็กๆ อยู่บริเวณนั้น ต้องคอยแต่งหน้าทาแป้งเน้นๆ เพื่อปกปิดตลอด นอกจากนี้ยังมีรอยดำจากสิวที่ยังไม่จางหายไปสักทีบริเวณแก้ม

ความรู้สึกเมื่อทาด้วย Concept Anti-Melasma Cream
เนื้อครีมมีความบางเบา ทาแล้วเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะผิว ทำให้ทาครีมอื่นๆ และแต่งหน้าต่อได้ทันที

ผลลัพธ์หลังใช้
หลังจากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลาราวๆ 3 สัปดาห์ รอยฝ้าที่เป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ บริเวณโหนกแก้มดูจางลง รอยดำจากสิวที่ข้างแก้มจางลง

ความประทับใจ
อย่างแรกที่เราชื่นชอบครีมทาฝ้าของ Concept Anti-Melasma Cream ก็คือสามารถทาได้ทั้งเช้าและเย็น จะเห็นว่าครีมทาฝ้าต่างๆ ถูกบ้างแพงบ้าง ทั้งที่ปลอดภัยและวางขายตามตลาด ส่วนใหญ่มักจะให้ทาก่อนนอน ทาปุ๊บปิดไฟปั๊บ ไม่ให้โดนแสงกันเลยทีเดียว นั่นคงเป็นเพราะมีส่วนผสมที่ไวต่อแสง หรือส่วนผสมที่ค่อนข้างแรง ต้องทาก่อนนอนเท่านั้น แต่ตัวนี้สามารถทาได้ทั้งเช้าและเย็น มีความอ่อนโยนเพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และยังบำรุงผิวไปในตัวอีกด้วย
พอได้ใช้ก็รู้สึกว่าเนื้อครีมบางเบา ทาง่าย เกลี่ยง่ายและซึมซาบไวเหมือนมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ทั่วไป ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ความมัน หรือเป็นคราบ อาจจะติดนิดหน่อยตรงกลิ่นที่เหมือนกลิ่นยา แต่ก็ไม่ถึงกับกลิ่นฉุนมากจนรับไม่ได้ พอทาไปสักพักกลิ่นก็จางหายไป ถ้ากลิ่นอ่อนกว่านี้อีกนิดนึงจะเลิฟมาก
หลังจากใช้ไปราว 3 สัปดาห์ สังเกตว่ารอยฝ้าและรอยดำจากสิวดูจางลง อาจจะจางลงไม่เยอะหรือหายวับไปกับตา ก็ต้องเข้าใจว่าค่อยเป็นค่อยไปเนอะ เพราะการรักษาผิวหน้าต้องใช้ระยะเวลาและการบำรุงที่ต่อเนื่อง อย่างน้อยเราก็รักษาด้วยผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย ดีกว่าใช้ครีมที่เห็นผลไวแล้วหน้าพังทีหลังเด้อ

ปัญหาเรื่อง ฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้ใครหลายๆ คน รวมทั้งเราด้วย เพราะถ้าเป็นรอยดำมากๆ จะรักษาทีก็ใช้เวลานาน เห็นผลช้า นอกจากจะไปทำเลเซอร์แพงๆ ซึ่งก็เปลืองเงินสุดๆ แถมยังทำให้ผิวหน้าบางด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องรีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ พอสังเกตว่าผิวเริ่มมีรอยฝ้าจางๆ ให้รีบทาครีม โอกาสหายจะมีเยอะกว่า
แต่จะมัวรักษาอย่างเดียวโดยไม่ป้องกันก็ไม่ได้นะคะ สาวๆ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะแดดเมืองไทยร้อนมากเว่อร์แถมยังมีรังสีต่างๆ ที่ทำร้ายผิว ให้เป็นฝ้าหน้าหมอง หมดความมั่นใจกันพอดี และที่สำคัญเวลาเลือกครีมกันแดดหรือครีมทาฝ้าต้องใส่ใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหน้านะคะ
สำหรับใครที่อยากลองใช้ Concept Anti-Melasma Cream สามารถไปซื้อมาลองใช้ได้นะคะ มีทั้งหลอดเล็ก 12 กรัม และหลอดใหญ่ 24 กรัม หาซื้อได้ตามร้านขายยา วัตสัน หรือซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้ค่ะ จะได้บอกลาผิวฝ้า หน้าใส มั่นใจในทุกๆ วัน

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ไม่ระคายเคือง | ลดจุดด่างดำ | ลดกระ ฝ้า


• Shopped at :
• ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1534916239
• Review link :
• Click to open

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ศศิ แบรนด์น้องใหม่ที่เป็นน้องสาวของแบรนด์ศรีจันทร์ เชื่อว่าสาวๆ ส่วนใหญ่คงคุ้นเคยและใช้ผลิตภัณฑ์ของศรีจันทร์มาบ้างแล้ว อย่างเช่นแป้งฝุ่นคุมมันที่โด่งดังมากๆ คราวนี้มาถึงแบรนด์ Sasi กันบ้าง เราเห็นตอนเปิดตัวใหม่แล้วสนใจมาก เพราะเขาจะเน้นกลุ่มวัยรุ่นใสใส ด้วยแพคเกจที่น่ารักสดใสนั่นเอง

ตอนนี้เรากำลังใช้แป้ง Sasi Magic Matte Foundation Powder #W2 ผิวขาวเหลือง ใช้แล้วชอบมากๆ ค่ะ ชอบตั้งแต่แพคเกจเลย ออกแบบได้น่ารักมาก ดอกไม้กับสาวน้อยใสๆ เราว่าแพคเกจเข้ากับวัยรุ่นนักเรียนนักศึกษา แถมราคายังย่อมเยาสุดๆ แค่ 129 บาทก็ได้แป้งตลับนี้มาครองแล้ว ขอบอกว่าตลับเล็กจิ๋วแต่แจ๋วนะคะ ได้ปริมาณตั้ง 8.5 กรัม ทาได้นานลื๊มมมม..

เรามาดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กันก่อนนะว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
Sasi Magic Matte Foundation Powder แป้งพัฟศศิ "ล็อคผิวแมท บอกลาผิวมัน เนียนกริบตลอดวัน"
สวยทุกองศา ด้วยแป้งพัฟศศิ แป้งพัฟผสมรองพื้นสูตรควบคุมความมัน สำหรับทุกวันของคุณ เนื้อแป้งเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย เนียนเข้ากับสีผิว และช่วยปกปิดอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวแลดูแมทสวยและเนียนได้ตลอดวัน
แป้งพัฟศศิมีทั้งหมด 3 เฉดสีในโทนเหลือง ที่เหมาะกับผิวของผู้หญิงไทย
W1 ผิวขาว
W2 ผิวขาวเหลือง
W3 ผิวสีน้ำผึ้ง
ระดับการปกปิด ปานกลาง ถึง มาก โดยสามารถเพิ่มระดับการปกปิดได้ตามต้องการโดยการใช้พัฟค่อยๆ แตะเนื้อแป้งขึ้นมาเพิ่มเติม และกดเบาๆบนใบหน้าในบริเวณที่ต้องการการปกปิดมากยิ่งขึ้น
ปราศจาก พาราเบน น้ำมัน น้ำหอม และแอลกอฮอลล์

แพคเกจ : แป้งพัฟศศิมาในรูปแบบตลับกลมสีขาว เป็นตลับพลาสติก อาจจะดูก๊องแก๊งไม่หรูหราเท่าไร เพราะเน้นออกแบบมาให้น่ารักเข้ากับนักเรียนนักศึกษา ด้านหน้าออกแบบเป็นลายภาพเขียนหญิงสาวกับดอกไม้ ดูสดใสน่ารักมากๆ ด้านในบรรจุเนื้อแป้ง มีพัฟและกระจกมาให้ ซึ่งตัวพัฟเป็นฟองน้ำ ยืดหยุ่นได้น้อย แล้วก็ไม่นุ่มเท่าไร เทียบกับราคาก็ถือว่าโอเคนะ

สี : W2 ผิวขาวเหลือง
ปริมาณ : 8.5 กรัม
ราคา : 129 บาท

วิธีใช้ : หากต้องการ การปกปิดมาก ให้ใช้พัฟค่อยๆ ทา ในลักษณะของการกดวนๆ ทั่วใบหน้าและลำคอ  หรือหากต้องการลุคธรรมชาติ บางเบา ให้ใช้แปรงในการทา

ความรู้สึกหลังใช้
เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อแป้งมีสีขาวเหลือง เหมาะสำหรับผิวของสาวไทยที่มีอันเดอร์โทนเหลือง เวลาทาแล้วจะกลมกลืนเข้ากับสีผิวได้ดี เนื้อแป้งละเอียดดี ไม่หนาหนักจนเกินไป ทาทับแล้วไม่เป็นคราบ ใช้คู่กับพัฟจะได้เนื้อแป้งที่หนาแน่นกว่า ใช้คู่กับแปรงปัดแป้งจะได้เนื้อแป้งบางเบาและดูเป็นผิว
การปกปิด : สำหรับแป้งตัวนี้จะให้การปกปิดปานกลาง เหมาะกับคนที่ไม่ชอบแต่งหน้าหนาหนัก เน้นลุคใสใสเป็นธรรมชาติ ใครที่มีรอยสิวหรือร่องรอยที่ต้องการปกปิดเราแนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์ช่วยจะปกปิดได้ดีกว่า
การควบคุมความมัน : สำหรับเราถือว่ายังสู้แป้งศรีจันทร์พี่สาวไม่ได้ เพราะระหว่างวันผิวยังมันอยู่ ต้องคอยซับหน้าเติมแป้งบ่อยๆ คนผิวมันแบบเราเลยยังไม่ถึงกับปลื้มมากเท่าไร คนผิวแห้งหรือผิวผสมน่าจะเหมาะกว่า

ความประทับใจ
สำหรับเราจะหยิบแป้ง Sasi Magic Matte Foundation Powder มาใช้ในวันสบายๆ นอกจากจะใช้ตอนแต่งหน้าก่อนออกจากห้องแล้ว เรายังชอบพกไปเติมระหว่างวันด้วย เพราะตลับเล็กพกพาสะดวก มีพัฟเล็กๆ และกระจกให้ด้วย
ส่วนเนื้อแป้งนั้นก็สีเนื้อเนียนละเอียด ทาแล้วเนียนกลืนไปกับผิว การปกปิดปานกลาง อาจจะคุมมันได้ไม่มากนัก แต่ก็สามารถเติมระหว่างวันก็ไม่ป็นคราบ ไม่ดรอป ไม่หมอง ผ่องเด้งดิวอี้ตลอดทั้งวัน
สาวๆ ที่มีผิวมันไม่ชอบแต่งหน้าหนาหนัก แต่ยังต้องการการควบคุมความมันและปกปิดได้ในระดับหนึ่ง รับรองต้องชอบแป้งตัวนี้ค่ะ ราคาสบายกระเป๋ามากๆ มีให้เลือกถึง 3 เฉดสี ลองเลือกแบบที่เข้ากับสีผิวมาใช้ดูนะคะ

• Overall rating :
• 4


• Benefit received :
• เป็นธรรมชาติ | เนื้อแมทท์


• Shopped at :
• ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1528597283
• Review link :
• Click to open

เพื่อนๆ เคยมีความรู้สึกอยากตะโกนใส่ดวงอาทิตย์แบบเราบ้างมั้ยคะ 'พักร้อนบ้างก็ได้! เอาน้ำแข็งไสมั้ย! จะร้อนมากเว่อร์เบอร์ไหนกันเนี่ย!' เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบอากาศร้อนเอาซะเลย ไหนจะอุณหภูมิสูงพุ่งปรี๊ดแทบตับไหม้ แค่จะออกไปไหนมาไหนยังคิดแล้วคิดอีก ร้อนแผดเผาเหมือนอยู่ในเตาอบ ไม่สบายผิวเลยค่ะ แล้วไหนจะรังสียูวีตัวการทำร้ายผิว อย่าง UVA1, UVA2, และ UVB ที่พร้อมใจเดินทางมากับแสงแดดนั่นอีก คนที่มีไลฟ์สไตล์แอกทีฟอย่างเราที่ต้องทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะหลบเลี่ยงยังไงก็ไม่พ้นอยู่ดี : (

เอาล่ะ.. ถึงจะบ่นให้ดวงอาทิตย์ไปก็เท่านั้น จะย้ายดวงอาทิตย์ไปให้ไกลอีกหน่อย หรือส่งน้ำแข็งไสไปให้ก็คงไม่ได้ เราก็ต้องมาเผชิญกับแสงแดดอย่างมั่นใจกันค่ะ แต่จะให้ออกไปท้าแดดแบบมั่นๆ คงไม่น่าจะไหว ก่อนอื่นต้องหาตัวช่วยกันสักหน่อย วันนี้เรามีไอเทมเด็ดมาแชร์ให้เพื่อนๆ รู้จักค่ะ ตัวนี้เป็น Must Have Item ของเราเลยก็ว่าได้ เพราะคอยช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ เปลี่ยนแดดให้เย็น ลดผิวแสบร้อน กับกันแดดเย็นทาตัว Biore UV Body Serum Refresh Bright SPF50+ PA+++

ก่อนหน้านี้เราเคยใช้ครีมกันแดดทาตัวของ Biore มาสองสูตร คือ Biore UV Anti-Pollution Body Serum Extra Moist SPF50+ PA+++ และ Biore UV Anti-Pollution Body Serum Intensive White SPF50+ PA+++ เรื่องประสิทธิภาพการกันแดดเราก็พอรู้อยู่แล้วว่าครีมกันแดดของ Biore รุ่นที่ผ่านๆ มา มีคุณสมบัติในการกันแดดได้ดีมาก มีค่า SPF50+ PA+++ จะเผชิญแสงแดดแค่ไหนผิวก็ไม่หมองคล้ำ ข้อดีอีกอย่างคือมีเนื้อครีมกันแดดเป็นเนื้อเซรั่ม ทาแล้วกลายเป็นน้ำซึมเข้าผิวได้ทันที ไม่ทิ้งความเนียวเหนอะหนะหรือคราบขาวไว้บนผิวให้เกิดความรำคาญใจ กันน้ำกันเหงื่อได้ดีเยี่ยม จะแดดร้อนเหงื่อออกแค่ไหนก็หายห่วง แต่เดี๋ยวก่อน.. มีเด็ดยิ่งกว่านั้นอีกค่ะ! เพราะ Biore UV Body Serum Refresh Bright SPF50+ PA+++ รุ่นใหม่นี้เป็นกันแดดเย็นทาตัว ที่ช่วยให้เย็นสดชื่นทันทีที่ทา ลดความแสบร้อนจากผิว ทาปุ๊บเย็นปั๊บ เรียกว่าเหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ

เรามาดูคุณสมบัติกันก่อนค่ะว่าเจ้ากันแดดตัวนี้มีดีอะไรบ้าง..
อย่างแรกเลยคือประสิทธิภาพในการกันแดดและป้องผิวจากมลภาวะ ด้วย Ultra UV Protection SPF50+ PA+++ ป้องกันผิว จาก รังสี UVA1, UVA2 และ UVB นอกจากนี้ยังมี Anti-Pollution Shield เกราะปกป้องผิวจากมลภาวะ ทั้งฝุ่น ควัน และสิ่งสกปรก เหมาะสาวๆ ที่มีไลฟ์สไตล์แอกทีฟที่ต้องเผชิญทั้งแสงแดดและมลภาวะอยู่ตลอดเวลาอย่างเรามากๆ
อีกหนึ่งคุณสมบัติโดดเด่นไม่เหมือนใครก็คือ ความเย็นสดชื่นที่มาในเนื้อครีมกันแดด สูตรผสาน Cucumber Extract, Hydro Boost Jelly และ Menthol ให้ผิวเย็นสดชื่น สบายตัวตลอดวัน ลดความแสบร้อน ป้องกันผิวไหม้จากแดด พร้อม Moisturizing Pack และน้ำแร่ธรรมชาติจากญี่ปุ่น เติมความชุ่มชื่นให้ผิวแม้หลังออกแดด
นอกจากสองคุณสมบัติที่ว่ามาแล้ว ครีมกันแดดเย็นของบีโอเรตัวนี้ยังมีประสิทธิภาพในการกันน้ำกันเหงื่อด้วยนะ จะร้อนเหงื่อออกแค่ไหนก็ไม่เยิ้มไม่เป็นคราบแน่นอน

โอ้โห.. แค่ได้ฟังคุณสมบัติก็กดไลค์รัวๆ ให้แล้วเด้ออออ.. ครีมกันแดดอะไรจะครบครันเบอร์นั้น แต่สิบปากเล่าก็ไม่เท่าลองเอง เราก็เลยไปสอยมาทดลองใช้บ้าง หลังจากใช้ไปสักพักจนรักในที่สุด วันนี้จะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังนะคะว่าประทับใจอะไรในครีมกันแดดตัวนี้บ้าง

แพคเกจผลิตภัณฑ์ : Biore UV Body Serum Refresh Bright SPF50+ PA+++ มาในรูปแบบของหลอดบีบ มีฝาเปิด-ปิด ใช้งานได้สะดวก ด้านหน้ามีชื่อยี่ห้อและสูตรของครีมกันแดด ด้านหลังมีรายละเอียดผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ และวิธีใช้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้สีสันบนหลอดเป็นโทนสีฟ้า-ขาว มีรูปหิมะน่ารักๆ ที่มองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่านี่คือกันแดดสูตรเย็น ทาแล้วต้องเย็นสบายผิวเหมือนอยู่ท่ามกลางหิมะแน่นอน

ปริมาณ : 150 มิลลิลิตร
ราคา : 290 บาท

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมกันแดดสีขาว บางเบา เมื่อทาลงไปบนผิว เนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นเนื้อเซรั่มซึมลงไปทันทีที่ทา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะและไม่ทิ้งคราบไว้บนผิว ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นสบายผิว

กลิ่น : มีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากครีมกันแดดทั่วไป เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นครีมกันแดดแรงๆ เราว่าต้องชอบตัวนี้ค่ะ

วิธีใช้ : ลูบไล้โลชั่นให้สม่ำเสมอทั่วร่างกายก่อนออกแดดเป็นประจำทุกวัน สำหรับใครที่ต้องเผชิญแสงแดดตลอดทั้งวันสามารถทาเพิ่มระหว่างวันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการกันแดดที่ดีขึ้น

ความรู้สึกหลังใช้ :
-เนื้อครีมกันแดดสีขาว บางเบา พอทาลงบนผิวก็จะเปลี่ยนเป็นเนื้อน้ำ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว ไม่เหนอะหนะผิว
-กลิ่น เราชอบมากเพราะยี่ห้ออื่นๆ มักจะกลิ่นแรง แต่ครีมกันแดดของบีโอเรจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น
-ความเย็นสดชื่น หลังจากทาครีมกันแดดแล้วจะรู้สึกเย็นสบายผิว ไม่ได้เย็นสุดคูลเหมือนทาแป้งเย็นนะคะ เป็นความรู้สึกเย็นแบบอ่อนๆ ให้ความรู้สึกเฟรช สบายผิว
-ประสิทธิภาพการกันน้ำกันเหงื่อ จะแดดร้อนเหงื่อออกแค่ไหนครีมกันแดดที่ทาก็ไม่ไหลเยิ้มเลยค่ะ
-ประสิทธิภาพการกันแดด ในชีวิตประจำวันของเราที่ทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เผชิญแสงแดดตลอดวัน เราจะทาครีมกันแดดก่อนออกแดดเสมอ หากต้องตากแดดนานๆ จะหาโอกาสมาทาครีมกันแดดเพิ่ม ต่อให้แดดร้อนแค่ไหนก็ไม่รู้สึกแสบร้อนผิว ผิวไม่หมองคล้ำกว่าเดิม ช่วยให้มั่นใจได้ทุกสถานการณ์
-การปกป้องผิวจากมลภาวะ เนื่องจากครีมกันแดดที่ทาซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะ ทำให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกไม่เกาะผิว เวลาอาบน้ำขัดผิวจะรู้สึกได้ว่าไม่มีคราบสกปรกหรือคราบไคล

ความประทับใจ : เราเคยใช้ครีมกันแดดทาตัวของ Biore มาสองสูตร คือ Biore UV Anti-Pollution Body Serum Extra Moist SPF50+ PA+++ และ Biore UV Anti-Pollution Body Serum Intensive White SPF50+ PA+++ ทั้งสองสูตรให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ทั้งเนื้อกันแดดที่บางเบาและประสิทธิภาพการกันแดดที่เวิร์คสุดๆ ก็เลยใช้มาเรื่อยๆ พอเห็นว่ามีสูตรใหม่ Biore UV Body Serum Refresh Bright SPF50+ PA+++ เป็นกันแดดเย็นทาตัว ก็เลยไม่พลาดที่จะลองใช้ พอใช้แล้วก็ประทับใจเลยค่ะ เรียกว่าเป็นครีมกันแดดที่ครบจบในหลอดเดียว เนื้อเซรั่มบางเบาดี ป้องกันจากแสงแดดและยูวีได้ ไหนจะเกราะปกป้องมลภาวะตลอดวัน และที่สำคัญเย็นสดชื่นสบายผิวสุดๆ เรียกว่าเป็น Must Have Item ที่เราต้องมีและทาทุกวันก่อนออกไปเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะรวมถึงอากาศร้อนของเมืองไทยค่ะ

ไหนจะอากาศร้อนของเมืองไทย ไหนจะมลภาวะมากมายในชีวิตประจำวัน คนที่มีไลฟ์สไตล์แอกทีฟทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดด อุณหภูมิร้อน รวมทั้งฝุ่นควันและมลภาวะ เราอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ เลือกหาตัวช่วยที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการดูแลและปกป้องผิวอย่างกันแดดเย็นทาตัว Biore UV Body Serum Refresh Bright SPF50+ PA+++ มาลองใช้กันนะคะ จะได้กล้าออกไปเผชิญแดด ดับเบิ้ลบล็อคมั่นใจ ดูไบรท์ ไม่แสบผิว พอมีผิวสวยใสมั่นใจไม่แคร์แดด ก็สามารถสวมใส่เสื้อผ้าแบบต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ จะโชว์ผิวแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวล ไปไหนมาไหนได้ตามไลฟ์สไตล์ของเราโดยไม่มีอะไรมาเป็นอุปสรรคแล้วล่ะค่ะ

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ทาง่าย / เกลี่ยง่าย | ไม่เหนียวเหนอะหนะ | กันน้ำ | ไม่ระคายเคือง | กันแดด | กลิ่นหอม | ล้างออกง่าย


• Shopped at :
• ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1527580506
• Review link :
• Click to open

"ผู้หญิงอย่าหยุดสวย" หลายคนคงคุ้นเคยกับประโยคที่เป็นสโลแกนของ Oriental Princess ก็ความสวยความงามกับสาวๆ ต้องมาเป็นของคู่กันนี่นา แต่การจะสวยได้เราก็ต้องมีตัวช่วยดีๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหรือเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้า เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นสมาชิกและใช้ผลิตภัณฑ์ของ Oriental Princess เป็นประจำ เพราะมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลายหมวดหมู่ ชอบกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำและแชมพูสระผม รักเซ็ตบำรุงผิวหน้า Natural Vit C ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และล่าสุดได้มีโอกาสแวะไปที่ร้าน พี่พนักงานได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นกันแดด Beneficial All Day Sun Protection Foundation Powder SPF 50 PA++++ ที่เนื้อแป้งเนียนสนิทไปกับผิว ติดทนยาวนาน และที่สำคัญมีค่าสารป้องกันแสงแดดสูงมากกกก.. หลังจากได้ลองทาแป้งเทสเตอร์ลงบนผิวหน้าและไปเดินช้อปปิ้งอยู่นานสองนาน พอมาเช็คดูผิวหน้าแล้วยังเนียนสวยเป๊ะ เลยตัดสินใจซื้อมาใช้ มั่นใจว่าดีเลยมารีวิวเพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้ใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อค่ะ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับแป้งพัฟผสมรองพื้นกันแดดรุ่นนี้กันก่อนนะคะ
Beneficial All Day Sun Protection Foundation Powder SPF 50 PA++++ แป้งพัฟผสมรองพื้นกันแดดที่ปกป้องผิวจากแสงแดดได้มากที่สุด ด้วยประสิทธิภาพปกป้องผิวจากแสงแดดได้ล้ำลึกถึงผิวชั้นในจากรังสี UVA, UVB และปัจจัยภายนอกที่คอยทำร้ายผิว พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดระดับ SPF 50 PA++++ ติดทนนานตลอดทั้งวัน กันแดดได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง อณูแป้งเนียนสนิทเป็นเนื้อเดียวกับผิวอย่างสมบูรณ์แบบ แม้เวลาจะผ่านไปก็ไม่เกิดเป็นรอยคราบแป้ง ด้วยคุณสมบัติที่ทนเหงื่อและความมัน และผสาน Mirror Ball Powder ช่วยกระเจิงแสงที่ตกกระทบ อำพรางใบหน้าให้สวยสมบูรณ์แบบยาวนานถึง 6 ชั่วโมง กลมกลืนกับผิวราวกับผิวแท้ คงความสวยแห่งผิวได้นานตลอดวันเหมือนเพิ่งได้แต่งเติม

แค่ฟังคุณสมบัติก็ต้องร้องว้าวววว! เพราะนอกจากจะเป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นกันแดดที่ติดทนแล้วยังมีค่าป้องกันแสงแดดเยอะกว่าแป้งอื่นๆ อีกด้วย จะเผชิญแสงแดดร้อนแรงแค่ไหนก็มั่นใจได้ว่าผิวหน้าจะได้รับการปกป้อง และอีกหนึ่งความมั่นใจสำหรับการแต่งหน้าของสาวๆ ก็คงไม่พ้นการที่สีแป้งเนียนไปกับสีผิว ไม่วอกไม่ลอย ต้องบอกว่าแป้ง Beneficial All Day Sun Protection Foundation Powder SPF 50 PA++++ มีโทนสีที่เหมาะกับผิวคนไทยที่อันเดอร์โทนเหลือง และยังมีให้เลือกถึง 3 เฉดสีด้วยกัน จะผิวสีไหนก็สามารถสวยได้ ซึ่งเฉดสีของแป้งมีดังนี้ค่ะ
- Ivory
- Sand 
- Honey 

สำหรับสีที่เราเลือกใช้คือ Ivory เหมาะสำหรับผิวขาว

สภาพผิวหน้า : เราเป็นคนผิวหน้ามัน โดยเฉพาะบริเวณทีโทนจะมีความมันมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้บริเวณสองข้างแก้มยังมีรูขุมขนกว้าง และมีรอยแดงรอยดำจากสิว เวลาเลือกใช้แป้งหรือแป้งผสมรองพื้นจะใส่ใจเลือกเนื้อแป้งที่มีความละเอียด บางเบา ไม่ตกร่อง ช่วยอำพรางรูขุมขน มีสีแป้งที่ตรงกับสีผิว ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอและเนียนเป็นธรรมชาติ

ปริมาณ : 11 กรัม
ราคา : 515 บาท (ถ้าเป็นสมาชิกจะได้ส่วนลดด้วย)

แพคเกจผลิตภัณฑ์ : แป้งพัฟผสมรองพื้นกันแดด Beneficial All Day Sun Protection Foundation Powder SPF 50 PA++++ สี Ivory บรรจุมาในกล่องกระดาษแข็งสีขาวเรียบง่าบ ด้านหน้ากล่องมีชื่อผลิตภัณฑ์ ด้านหลังกล่องมีรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ วิธีการใช้ และส่วนผสมไว้อย่างชัดเจน พอแกะกล่องมาแล้วก็จะมีกล่องด้านในซ้อนอีกชั้น เราคิดว่าน่าจะเพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนจนตลับด้านในเสียหาย
ตลับแป้งออกแบบเป็นรูปไข่ โค้งมนจับได้ถนัดมือ ทำจากพลาสติกแข็งแรงทนทาน สีเทา เนื้อมันวาว มีโลโก้ของแบรนด์อยู่ตรงกลาง ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้สึกเรียบหรูแล้ว ตัวตลับที่มีเนื้อมันวาวยังมีข้อดีคือสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เลอะเป็นคราบหรือเกิดรอยขีดข่วน
ตัวตลับเปิดปิดด้วยแม่เหล็ก จึงไม่ต้องกังวลว่าจะทำตัวล็อคของตลับหักพังแล้วปิดไม่ได้ เมื่อเปิดออกมาจะพบกับตลับสองชั้น แบ่งเป็น ส่วนที่บรรจุเนื้อแป้ง และส่วนที่ใช้เก็บพัฟ เพื่อป้องกันไม่ให้พัฟสัมผัสกับเนื้อแป้งตลอดเวลา อันเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก ตัวพัฟมีความหนานุ่มและยืดหยุ่นกำลังดี นอกจากนี้ยังมีกระจกติดมาให้ด้วย สะดวกต่อการพกพาไปเติมระหว่างวัน ไม่ต้องมองหากระจกอื่นให้ยุ่งยาก

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อแป้งมีอณูละเอียดมาก มีความเนียนลื่น เมื่อใช้พัฟแตะแล้วค่อยๆ ทาลงบนใบหน้าจะได้ปริมาณแป้งที่พอเหมาะ บางเบา เกลี่ยง่าย และไม่ตกร่องรูขุมขน หากต้องการปกปิกบริเวณไหนเป็นพิเศษ เช่น รอยสิว รอยดำรอยแดง ก็สามารถทาเพิ่มได้โดยการใช้พัฟกดย้ำเบาๆ เป็นอีกหนึ่งชั้น โดยแป้งที่เราทาเพิ่มจะไม่เป็นคราบหนา หรือจับตัวเป็นก้อน นอกจากนี้ยังสามารถเติมได้ระหว่างวันโดยไม่เป็นคราบอีกด้วย

วิธีใช้ : ใช้ทาบริเวณใบหน้าและลำคอ โดยใช้ควบคู่กับพัฟที่ให้มาในตลับ แตะเบาๆ แล้วทาให้ทั่วใบหน้า สามารถกดเน้นย้ำบริเวณที่ต้องการปกปิดเพิ่มเติมได้
นอกจากจะใช้กับพัฟที่ให้มาคู่กันแล้ว วันสบายๆ ที่ไม่ได้ต้องการความเป๊ะหรือการปกปิด เราจะหยิบแป้งตัวนี้มาใช้คู่กับแปรงปัดแป้ง จะได้ลุคที่บางเบา เป็นผิว ดูธรรมชาติมากๆ

ความรู้สึกหลังใช้ :
-สีของแป้ง คือสี Ivory มีความเข้ากับสีผิวได้ดี เหมาะกับสาวผิวขาวเหลืองแบบเรา พอทาลงบนใบหน้าแล้วดูกลมกลืน ไม่วอกไม่ลอย เวลาผ่านไปนานก็ไม่ดร็อป ไม่หมองคล้ำ นอกจากนี้ยังผสาน Mirror Ball Powder ช่วยทำให้แสงตกกระทบ อำพรางใบหน้าให้ดูสวยสมบูรณ์แบบ ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง จะแสงไหนก็สวย สำหรับคนชอบถ่ายรูปเซลฟี่แบบเราชื่นชอบมากเลยค่ะ หน้าดูเนียนเป็นธรรมชาติสุดๆ
-เนื้อแป้ง มีความบางเบา เกลี่ยง่าย สามารถเติมระหว่างวันได้โดยไม่เป็นคราบ มีความติดทนยาวนาน ถึงแม้จะผ่านไปนานหลายชั่วโมง พอมาเช็คดูอีกทีก็ยังเป๊ะอยู่
-กลิ่นของแป้ง สำหรับแป้งตัวนี้เราชอบมากกกก เพราะแทบไม่มีกลิ่นใดๆ เลยค่ะ ต้องดมใกล้มากๆ ถึงจะได้กลิ่นแป้งอยู่บ้าง เท่าที่ดูในส่วนผสมแล้วก็ไม่มีน้ำหอม ตัวนี้ตอบโจทย์เลยสำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมในแป้งแรง ๆ
-ความหนาแน่นของแป้ง อยู่ในระดับกลางๆ คือ ทาชั้นเดียวจะไม่รู้สึกว่าทาแป้งอยู่ พอเริ่มทาทับชั้นที่สองถึงจะรู้สึกว่าทาแป้งอยู่ในระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นแป้งผสมรองพื้น ความหนาแน่นจะมากกว่าแป้งธรรมดาอยู่แล้ว แต่เนื้อแป้งจะไม่แห้งผากแบบแป้งผสมรองพื้นทั่วไป เพราะในแป้งมีส่วนผสมของ Vitamin E ทาไปแล้วรู้สึกว่าช่วยให้ความชุ่มชื้นด้วย
-การปกปิดของแป้ง เพียงแค่เราทาบางๆ หนึ่งชั้นก็สามารถปกปิดรูขุมขนได้ดูเรียบเนียนมากขึ้น สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอดูจางลง ส่วนบริเวณที่มีรอยชัดเจนมากๆ จะยังมองเห็นอยู่บ้าง แต่พอทาเน้นย้ำลงไปอีกชั้นบางๆ ก็สามารถปกปิดได้เกือบมิด ถ้าใครมีรอยชัดเจนมากเราขอแนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์ช่วย จะปกปิดได้เนียนกริบเลยทีเดียว
-การควบคุมความมัน ถือว่าทำได้ดี สำหรับคนผิวมันแบบเราที่หลังแต่งหน้าไม่กี่ชั่วโมงก็หน้ามัน ต้องคอยซับหน้าและเติมแป้งบ่อยๆ พอใช้แป้งพัฟผสมรองพื้นกันแดด Beneficial All Day Sun Protection Foundation Powder ก็ซับหน้าน้อยลง อาจจะมีช่วงบริเวณทีโซนที่ยังมีความมันอยู่บ้าง แต่พอซับหน้าแล้วเติมแป้งก็กลับมาเนียนเป๊ะอีกครั้ง
-การป้องกันแสงแดด เป็นสิ่งที่ทำให้แตกต่างจากแป้งอื่นๆ เพราะปกติแล้วแป้งส่วนใหญ่จะใส่สารป้องกันแสงแดดมาในปริมาณที่น้อยมาก ไม่สามารถเผชิญแสงแดดร้อนมากเว่อร์ของเมืองไทยได้ ต้องทาครีมกันแดดก่อนแล้วค่อยทาแป้ง แต่แป้ง Beneficial All Day Sun Protection Foundation Powder มีสารป้องกันแสงแดดมาให้ในปริมาณที่เยอะมาก คือ SPF 50 PA++++ เรียกว่าเยอะพอๆ กับการทาครีมกันแดดเลยทีเดียว ทำให้เรามั่นใจได้ว่าใบหน้าของเราจะได้รับการปกป้อง หมดกังวลเรื่องฝ้า กระ และผิวคล้ำเสียจากรังสียูวีที่มาพร้อมกับแสงแดด

ความประทับใจ : เป็นครั้งแรกที่เราลองใช้แป้งพัฟผสมรองพื้นกันแดด Beneficial All Day Sun Protection Foundation Powder SPF 50 PA++++ เพราะพี่พนักงานที่ร้านแนะนำ เราเห็นว่าน่าสนใจเพราะเป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นที่มีค่าสารป้องกันแสงแดดสูง และยังมีคำเคลมว่าสวยในทุกแสง เลยตัดสินใจลองซื้อมาใช้ พอดีมีส่วนลดบัตรสมาชิกเลยได้มาในราคาสบายกระเป๋า หลังจากใช้แล้วก็รู้สึกประทับใจในผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งเนื้อแป้งที่เนียนละเอียด บางเบา ไม่ตกร่องรูขุมขน จะแต่งหน้าใสใสเป็นธรรมชาติด้วยการทาแป้งบางๆ หรือใช้แปรงปัดแป้งปัดลงบนผิวหน้าเบาๆ หรือจะอัพลุคให้สวยเป๊ะเนียนกริบก็สามารถทาทับเพื่อเพิ่มการปกปิดได้ตามความต้องการ โดยไม่กังวลว่าจะหนาหรือเป็นคราบ นอกจากนี้ตัวแป้งยังช่วยกระจายแสงให้ใบหน้าดูเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่วอกไม่ลอยหรือหน้าเทาให้สาวๆ อย่างเรากังวลใจ เวลาหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูป ไม่ว่าจะแสงธรรมชาติหรือแสงไฟแบบไหนก็สวยเป๊ะทุกมุม เรียกว่าโดนใจคนชอบเซลฟี่แบบเรามาก นอกจากนี้ยังมีสารป้องกันแสงแดดมากกว่าแป้งทั่วไป สบายใจได้ว่าจะร้อนเว่อร์เบอร์แรงแค่ไหน ผิวหน้าก็ยังได้รับการปกป้องอยู่ เรียกว่าเป็นแป้งที่ช่วยให้สวยครบจบทุกความต้องการสำหรับเราเลยค่ะ

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาแป้งพัฟผสมรองพื้นเนื้อดี มีเฉดสีที่ออกแบบมาเพื่อสาวไทย เนื้อบางเบาเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญยังมีสารกันแดดปริมาณสูง เราขอแนะนำให้เพื่อนๆ ลองแวะไปที่ร้าน Oriental Princess เพื่อทดลองใช้แป้งพัฟผสมรองพื้นกันแดด Beneficial All Day Sun Protection Foundation Powder SPF 50 PA++++ แล้วเลือกสีที่เหมาะกับผิวของตัวเองดูนะคะ ทดลองใช้จากเทสเตอร์จะได้ดูว่าเหมาะกับตัวเองแค่ไหน เผื่อว่าโดนใจจะได้ซื้อกลับไปใช้กันค่ะ แอบกระซิบว่าให้เพื่อนๆ รอซื้อในช่วงที่มีโปรโมชั่นและใช้บัตรสมาชิกจะได้รับส่วนลดด้วยนะคะ เราจะได้แต่งหน้าได้อย่างมั่นใจ ผิวสวยในทุกแสง พร้อมรับในทุกสถานการณ์ค่ะ

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ผิวขาวใส | เป็นธรรมชาติ | เนื้อแมทท์ | ปกปิด | ติดทนนาน | กันแดด


• Shopped at :
• ร้านค้าของแบรนด์
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1527248399
• Review link :
• Click to open

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมีรีวิวแป้งบีบีที่ใช้อยู่ในช่วงนี้ค่ะ นั่นก็คือ Twelve Plus BB Perfect Smooth Perfume Fresh Powder แป้งน้ำหอม BB สีเนื้อ ผิวเนียนกระจ่างใส เบลอจุดด่างดำ มี Vitamin C & Whitening Essence

สภาพผิว : เราเป็นคนผิวขาวเหลือง ผิวมัน โดยเฉพาะบริเวณทีโซน เป็นสิวง่าย มีรอยแดงและรอยดำจากสิว เวลาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะเลือกที่สามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใส ทำให้จุดด่างดำดูจางลง อ่อนโยนไม่ระคายเคืองผิว

แพคเกจ : แป้ง Twelve Plus BB Perfect Smooth Perfume Fresh Powder มาในรูปแบบกระป๋องขนาด 50 กรัม ขวดสีเหลืองส้มและมีลายดอกไม้สวยงามน่าใช้ จับได้ถนัดมือ จะใช้อยู่ที่บ้านหรือพกพาในการเดินทางก็สะดวก เพราะสามารถใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อแป้งเป็นสีเนื้อเนียนละเอียด ตามชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเนื้อบีบี เพราะฉะนั้นเนื้อแป้งจะมีโทนสีเข้ากับผิว เวลาทาแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่วอกไม่ลอย เนื้อแป้งเกลี่ยได้ง่าย สามารถเทใส่มือแล้วทาได้เลย หรือใครชอบใช้กับแปรงหรือพัฟนุ่มๆ ก็ได้เหมือนกัน

กลิ่น : กลิ่นหอมสดชื่นคล้ายแป้งเย็น เราว่ากลิ่นกำลังดี ไม่หอมจนฉุนหรือหวานเลี่ยน ทาแล้วสดชื่น และที่สำคัญเหมาะกับอากาศร้อนของเมืองไทยมากๆ ทาแล้วสบายผิวและกลิ่นหอมยาวนาน เขาบอกว่ามีส่วนผสมของน้ำหอมแท้น้ำเข้า ทาตัวเดียวไม่ต้องใส่น้ำหอมเพิ่มเลยก็ยังไหว

ความประทับใจ : เราชอบแป้งตัวนี้มาก อย่างแรกเลยคือเนื้อแป้งเป็น BB สีเนื้อที่เข้ากับผิว เวลาเอามาทาหน้าแล้วหน้าดูผ่องขึ้น ไม่วอกไม่ลอย ใช้แล้วไม่อุดตันผิว ไม่ทำให้เป็นสิว วันสบายๆ ที่ไม่อยากแต่งหน้าจะหยิบแค่แป้งตัวนี้มาทาก็สามารถไปไหนมาไหนได้เลย ไม่เฉพาะแค่ทาหน้านะ เรายังเอามาทาตัวด้วย เพราะราคาถูกแสนถูก ทาตัวก็ไม่กลัวเปลือง เนื้อแป้งจะช่วยปรับให้ผิวตัวเราดูเนียนมากขึ้น แถมกลิ่นหอมและความเย็นของแป้งยังช่วยให้สดชื่นมากๆ

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจก็ลองไปหามาใช้ดูนะคะ รุ่นนี้มี 2 สีด้วยกัน คือ
1. Twelve Plus BB Perfect Smooth Perfume Fresh Powder แป้งน้ำหอม BB สีเนื้อ (ที่เราใช้และรีวิว)
2. Twelve Plus CC Pink Aura Perfume Fresh Powder แป้งน้ำหอม CC สีชมพู
เลือกแบบที่เหมาะกับสีผิวของเรา จะได้มีผิวสวยและกลิ่นหอมยาวนานตลอดทั้งวันกันค่ะ

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความรู้สึกสดชื่น | ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม | เนื้อเนียนละเอียด


• Shopped at :
• ร้านสะดวกซื้อ (เช่น 7-11, แฟมิลี่ มาร์ท)
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1525009354
• Review link :
• Click to open

ได้รับตัวอย่างทดลองมาจากการเข้าร่วมกิจกรรมในเว็บ vanilla ต้องขอบคุณกิจกรรมดีๆ จากทางเว็บและ olay ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ขนาด 40 มล. มาให้ หลังจากลองใช้ได้ 5 วัน รู้สึกว่าเนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา ซึมซาบได้ง่าย ไม่ระคายเคืองผิว ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีมาก ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวแน่นขึ้น กระชับขึ้น จะใช้ต่อไปจนหมด แล้วจะมารีวิวเพิ่มเติมอีกนะคะ

• Overall rating :
• 4


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | กระชับรูขุมขน | ไม่ระคายเคือง


• Shopped at :
• ได้รับตัวอย่างทดลองใช้
• Reviewed when :
• เพิ่งเริ่มใช้
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1435801357
• Review link :
• Click to open

ซื้อมาจากรานหิ้ว ใช้ได้นานมาก เขียนแล้วสวย ติดทนนาน มีกลิ่นหอมช็อกโกแลตด้วย ซื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• สีสวย | เขียนง่าย | ติดทนนาน


• Shopped at :
• อินเตอร์เน็ต
• Reviewed when :
• กำลังใช้ซ้ำ
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1433921153
• Review link :
• Click to open

ใช้เบอร์ 1 ใช้กับแปรง ติดทนนาน ไม่หมอง ไม่เป็นคราบ เนียนเด้งตลอดวัน

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ผิวขาวใส | เป็นธรรมชาติ | เนื้อแมทท์ | ติดทนนาน


• Shopped at :
• ร้านขายยาหรือร้านผลิตภัณฑ์ความงาม
• Reviewed when :
• กำลังใช้ซ้ำ
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1433920835
• Review link :
• Click to open