Underarm Care Pure White Secret Cream Enriched Formula
พระเอกในไลน์ underarm ของ OP เลยแหละตัวนี้ เราซื้อมาใช้ก่อนที่ vanilla จะส่งมาให้ลอง ใจร้อน เห็นละอยากได้เลยรีบไปสอยมาก่อน
สำหรับตัวครีมนี้เป็นตัวแรกที่เราได้ใช้ก่อนตัวอื่นๆอย่าง gentle wash กับ toning essence เลยค่ะ

แพ็กเกจหลอดบีบแบบครีมทั่วไป
เนื้อครีมขาวขุ้นมาก สีที่เห็นขาวขุ่นขุ้น แต่เนื้อไม่ได้ข้นหนืดนะคะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

แรกๆที่ใช่บีบมาซะเยอะ ต้องทาถูอยู่นานกว่าครีมขาวๆจะซึม 5555
ไม่ต้องทาเยอะค่ะ ทาเยอะไปมันจะรำคาญหน่อย จะต้องยกจุกกุแร้ผึ่งลมนิดนึง
ทาปริมาณที่พอดี สักพักพอมันซึมก็ไม่รู้สึกเหนอะละ

เราใช้เจ้าครีมตัวนี้ทาหลังอาบน้ำตอนกลางคืนค่ะ
(หลังจากที่เราล้างด้วย gentle wash และเช็ดด้วย toning essence แล้วนะ)
บางทีถ้าอาบน้ำตอนเช้าหรือตอนกลางวันแล้วไม่ได้ไปไหนก็จะทาตัวนี้ด้วยค่ะ

ต้องบอกว่าชอบมากกกกกกกกก
เป็นครีมทารักแร้ที่เราชอบสุดแล้ว
ต้องบอกก่อนว่ารักแร้เราแพ้ง่าย ใช้อะไรนิดหน่อยก็คัน ผื่นขึ้น ใช้มาเยอะคือคันแทบจะทุกตัว
แต่อันนี้คือไม่แพ้เลย ไม่คันสักนิด

ผลลัพธ์ที่ได้น่าพอใจมาก
ไม่ได้อวย แต่ดีจริง เราว่ามันขาวขึ้น ไม่ได้ขาวแบบข๊าวววเลย แต่มันดีขึ้นกว่าเดิมจริงๆ มันจะค่อยๆดีขึ้น ผิวจะค่อยๆปรับ
รักแร้นุ่มขึ้นมากด้วย ลูบดูนิ่มๆอ่ะ
ไม่ค่อยสะดุดหนังไก่ (นี่คือเราทำเลเซอร์ขนด้วย หลังๆขนไม่ขึ้นแล้ว มันอาจจะเกี่ยวเนื่องกัน)

เราใช้ทั้งสามตัวในไลน์ underarm ไม่ได้ใช้สามตัวพร้อมกันทุกวัน
แต่สำหรับครีม เราทาทุกวันเลย

เรื่องคุมกลิ่น ช่วยได้ในระดับนึง ไม่ได้มาก ใช้ชีวิตแบบไม่โลดโผน อยู่ห้องแอร์ไม่มีเหงื่องี้พอได้ค่ะ
แต่ถ้าออกกำลังกายอาจจะเอาไม่อยู่สำหรับใครที่กลิ่นเหงื่อเยอะหน่อย
ส่วนตัวคิดว่ายังแทน deodorant ที่ใช้อยู่ไม่ได้

ถ้าหมดมีซื้อต่อแน่นอน!
อย่าเพิ่งเลิกผลิตไปก่อนแล้วกัน ไม่งั้นหล่องห้ายยยย (ร้องไห้ TT)

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ผิวขาวใส | ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม | ลดจุดด่างดำ


• Shopped at :
• ร้านค้าของแบรนด์
• Reviewed when :
• กำลังจะใช้หมดในไม่ช้า
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1597503107
• Review link :
• Click to open

Underarm Care Pure White Secret Toning Essence
สำหรับตัวนี้ บ้างก็อาจจะเรียกเค้าว่าโทนเนอร์ บ้างก็เรียกว่าเอสเซ้นส์
ตัวผลิตภัณฑ์คือเนื้อน้ำใสๆ เหลวๆค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ

ตัวขวดเนี่ย จะเป็นหัวปั๊ม ใช้งานง่าย แม้มือเราจะไม่ว่างจับก็ตาม 555
เพราะแค่เปิดฝามา เราก็สามารถกดตัวเอสเซ้นส์ออกมาได้แล้ว โดยวางสำลีไว้ด้านบน แล้วกดลงไปค่ะ
เรากดประมาณ 3 ปั๊ม และทุกครั้งที่กด เราจะขยับสำลี เพื่อให้ตัวผลิตภัณฑ์โดนสำลีแบบทั่วถึง ตอนเช้ด-ถูจะได้แบบวงกว้าง

หลังจากที่ใช้ gentle wash ในไลน์เดียวกันล้างเสร็จ เช็ดตัวให้แห้งปุ้บ เราก็จะใช้เช็ดด้วยตัวนี้ต่อเลย
เราจะเช็ดย้อนขึ้นไป เป็นการเปิดรูขุมขน จากนั้นก็เช็ดลงมาเพื่อปิดรูขุมขนค่ะ
เราใช้สำลี 1 แผ่น เช็ดจุ้กกุแร้ด้านละข้าง

เพื่อนบอกว่าใช้แล้วมีคราบติดสำลีมาด้วย คราบดำๆ
เราเลยลองถูดู ถูแรงยังไงก็ไม่มี แต่เจ็บแทน 555 (ไม่แน่ใจว่าอันนี้เพื่อนอาจจะล้างทำความสะอาดไม่หมดตั้งแต่แรกรึป่าว)

โทนเนอร์ชุ่มชื้นมากค่ะ แต่ในขณะเดียวกันก็ซึมไว
หลังเช็ดรักแร้ไม่แห้งตึง ช่วยทำให้ผิวรักแร้และบริเวณรอบๆชุ่มชื้น
แถมยังรู้สึกว่ารักแร้สะอาดขึ้นไปอีก
อ่อนโยนดีด้วย ผิวเราไม่แพ้เลย
ผิวรักแร้เนียนขึ้นมานิดนึงค่ะ ลูบแล้วสบายใจ

แนะนำนิดนึงสำหรับการใช้สำลีกับเจ้า Toning Essence ตัวนี้
กดปั๊มปริมาณที่พอดี ถ้าใช้เยอะไปเราว่ามันรู้สึกเฉอะแฉะ แถมยังเปลืองไปอีก
กดมาน้อยก็จะถูไม่สมูธ เพิ่มการเสียดสี
กะแบบพอดีๆ 2 ถึง 3 ปั๊มนี่โอเคเลย

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความรู้สึกสดชื่น | ให้ความชุ่มชื้น | ผิวขาวใส | ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม | ลดจุดด่างดำ


• Shopped at :
• ได้รับตัวอย่างทดลองใช้
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1597465794
• Review link :
• Click to open

Underarm Care Pure White Secret Gentle Wash
อารมณ์แบบโฟมล้างหน้า แต่เปลี่ยนจากหน้ามาเป็นรักแร้
ตัวแพ็กเกจเค้านี่คือดูใช่โฟมล้างหน้าเลยนะ ถ้าไม่ทันได้มองดูดีๆ ระวังหยิบผิดกันนะคะ แฮ่

เนื้อขาวๆสีอ่อนๆ มีเม็ดสครับสีชมพูด้วย แต่สครับใส่มาไม่ได้มาก และไม่ได้หยาบ
ไม่ได้รุ้สึกถึงขั้นว่าหลอดนี้เค้าเป็นสครับ แค่เป็นโฟมที่มีเม็ดบีทส์กรุบๆ
บางทีที่ขัดๆแทบจะไม่รู้สึกถึงเม็ดสครับเลย
ด้วยความที่เนื้อเค้าไม่หยาบ ไม่แรงนี่แหละ เลยสามารถใช้ได้ทุกวัน

หลังจากถุกสบู่ถูทั่วตัวเสร็จ ล้างน้ำแล้ว เราจะใช้ตัว gentle wash ตัวนี้ต่อ
สำหรับตัวโฟมถ้าไม่ลืมนะ เราใช้ทุกครังที่อาบน้ำตอนกลางคืนค่ะ
(ไม่ต้องขัดทั้งเช้าทั้งเย็นนะ จะเป็นการรบกวนผิวเกินไป ให้จุกกุแร้เราได้พักบ้างค่ะ)
ถ้ามีเวลาก็จะพยายามถูนานหน่อย ข้างละกี่นาทีว่าไป จะฮัมเพลงจนจบท่อน จบเพลง หรือจะจับเวลาก็ได้ค่ะ
ส่วนตัวถ้าไม่รีบ เราจะถูข้างละ 1 นาที ถูวนเป็นวงกลม เริ่มจากเบาๆก่อน หากอยากให้สครับช่วยผลัดเซลล์ก็เพิ่มความหนักของมือไปอีก
อ่อนโยนดีค่ะ ลองใช้ 5 วันติดก็ไม่ระคายเคืองเลย
เพราะสครับที่ใส่มาไม่บาดผิว
ให้ความรู้สึกสะอาดดี ทำความสะอาดโรลออนสติ้ก แบบที่ติดทนๆ ตอนเย็นมันจะเหนียวๆหน่อยอ่ะ ล้างได้หมดจดจริงๆค่ะ
หลังใช้ต่อเนื่อง รักแร้จะลื่นๆ ดูเนียนๆขึ้น

เรื่องความสะอาด จะรู้สึกได้ทันทีหลังใช้ ทุกครั้งเลย
ในส่วนของผิวเนียน อย่างที่บอกค่ะว่าเค้าอ่อนโยน ไม่ฮาร์ดคอรื มันเลยอาจจะใช้เวลา ไม่ได้เห็นผลในครั้งสองครั้ง ผ่านไปสักพัก เราสังเกตว่ามันดีขึ้นนะ
ยังไงส่วนตัวเราก็อยากแนะนำให้ทำแบบเบาๆ แต่เพิ่มเวลาให้นานขึ้น และใช้อย่างสม่ำเสมอค่ะ

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความรู้สึกสดชื่น | ให้ความชุ่มชื้น | ผิวขาวใส | ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม


• Shopped at :
• ได้รับตัวอย่างทดลองใช้
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1597465194
• Review link :
• Click to open

บอกเลยว่านี่เป็นรีวิวจากสาวก Vichy mineral 89 ที่แท้ทรู
ใช้มาสองปีกว่า หมดไปกี่ขวดก็ไม่ได้นับ

Vichy mineral 89 ส่วนประกอบสำคัญของเค้าก็คือ น้ำแร่ที่มีแร่ธาตุเจ้มมมจ้นนน ส่วนเลข 89 นี่ไม่ได้มาเล่นๆนะคะ มันหมายถึงความเข้มข้นของน้ำแร่ในเซรั่ม 89% นั่นเองค่ะ
นอกจากเซรั่มขวดนี้จะมีน้ำแร่เข้มข้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ ไฮยารูลอนสกัดจากธรรมชาติที่มาช่วยเรื่องของความชุ่มชื้นนั่นเองค่ะ

สำหรับใครที่กลัวแพ้นะคะ ลองดูนี่ คือเราจะบอกว่า Vichy mineral 89
ไม่มีน้ำหอม
ไม่เติมสี
ไม่มีแอลกอฮอล์
ไม่มีพาราเบน
ไม่มีซิลิโคน

พูดถึงแพ็กเกจเนี่ย เราชอบนะ เป็นขวดแก้วจริงจัง มันดูไม่ก๊องแก๊ง ขวดสีสวย มีการไล่สี หยิบจับใช้งานง่าย แค่ปั๊มออกมาก็ได้แล้ว มีฝาปิดกันสิ่งสกปรก แต่ขอติตรงฝาครอบนี่แหละ เวลาพกใส่กระเป๋าหลุดง่ายมาก #หายเก่ง 5555
เนื้อสัมผัสคือเป็นเนื้อเจล เมื่อทาแล้วแรกๆจะรู้สึกเปียกๆ มีความหนึบๆบนผิวเหมือนที่เราทาสกินแคร์ทั่วไปค่ะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีคือซึมลงผิวหน้าหมดเลย ไม่ทิ้งความเหนอะ

เราใช้เค้าทุกเช้าและเย็นเลยค่ะ ปั๊มเดียวเอาอยู่

หลงรักเซรั่มใสขวดนี้ตรงที่เป็นพรีเซรั่มที่เปิดผิวได้ดีมาก บางวันเราทาหลังโทนเนอร์ บางวันเราใช้เค้าในขั้นตอนแรกเลย ช่วยให้การเติมสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไปยิ่งดีขึ้นไปอีก
เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ในเช้าที่เร่งรีบ เพราะซึมไวมากแต่ให้ความชุ่มชื้นมากเช่นกัน ลงปุ้บต่อกันแดดและเมกอัพได้เลย ไม่ต้องรอเซตรอซึมนาน
เป็นบูสเตอร์ให้ผิวในวันที่ผิวล้าๆ ด้วยความที่เค้าเป็นเจล มันจะมีความเย็นในตัวอยู่แล้ว หากใครต้องการความเย็น เอาไปแช่เย็น พอเอามาทาปุ้บคือผิวตื่นเลย

ส่วนตัวนะคะ หลังจากที่ได้ใช้ Vichy mineral 89 เรารู็สึกว่าหน้าเรามีความชุ่มชื้นมากขึ้น เป็นความชุ่มชื้นใต้ผิวที่ยาวนานนะ
พอผิวมีความชุ่มชื้นมากพอ เรารู้สึกว่ามันนุ่ม เด้งดี
ช่วยปลอบประโลมผิว มันเหมาะมากแล้วที่จะพกไปด้วยทุกที่ ขึ้นเขาลงห้วยพา Vichy mineral 89 ไปด้วยเถอะ
อีกอย่างที่สำคัญเลยคือ รู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้นมาก เจอฝุ่นเจอน้ำแปลกๆ ไม่ค่อยแพ้แล้ว

พอผิวดีก็จะช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดหน้า

บอกตามตรงว่าใช้ตอนแรกคิดว่าเค้าเฉยๆ แต่พอวันนึงที่ไม่ได้พกเค้าไปต่างจังหวัดด้วย เพราะคิดว่าไม่จำเป็น ไม่ใช้ก็ได้ คือรู้เลยว่าไม่ได้! เราจะขาดเค้าไม่ได้!
มีความใช้ต่อเนื่อง ความซื้อซ้ำและความตุน!

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ยกกระชับผิว | ไม่ระคายเคือง


• Shopped at :
• บิวตี้สโตร์ (เช่น อีฟแอนด์บอย, เซโฟร่า, บิวเทรี่ยม)
• Reviewed when :
• กำลังใช้ซ้ำ
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1576808804
• Review link :
• Click to open

บอกเลยว่านี่เป็นรีวิวจากสาวก Vichy mineral 89 ที่แท้ทรู
ใช้มาสองปีกว่า หมดไปกี่ขวดก็ไม่ได้นับ

Vichy mineral 89 ส่วนประกอบสำคัญของเค้าก็คือ น้ำแร่ที่มีแร่ธาตุเจ้มมมจ้นนน ส่วนเลข 89 นี่ไม่ได้มาเล่นๆนะคะ มันหมายถึงความเข้มข้นของน้ำแร่ในเซรั่ม 89% นั่นเองค่ะ
นอกจากเซรั่มขวดนี้จะมีน้ำแร่เข้มข้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ ไฮยารูลอนสกัดจากธรรมชาติที่มาช่วยเรื่องของความชุ่มชื้นนั่นเองค่ะ

สำหรับใครที่กลัวแพ้นะคะ ลองดูนี่ คือเราจะบอกว่า Vichy mineral 89
ไม่มีน้ำหอม
ไม่เติมสี
ไม่มีแอลกอฮอล์
ไม่มีพาราเบน
ไม่มีซิลิโคน

พูดถึงแพ็กเกจเนี่ย เราชอบนะ เป็นขวดแก้วจริงจัง มันดูไม่ก๊องแก๊ง ขวดสีสวย มีการไล่สี หยิบจับใช้งานง่าย แค่ปั๊มออกมาก็ได้แล้ว มีฝาปิดกันสิ่งสกปรก แต่ขอติตรงฝาครอบนี่แหละ เวลาพกใส่กระเป๋าหลุดง่ายมาก #หายเก่ง 5555
เนื้อสัมผัสคือเป็นเนื้อเจล เมื่อทาแล้วแรกๆจะรู้สึกเปียกๆ มีความหนึบๆบนผิวเหมือนที่เราทาสกินแคร์ทั่วไปค่ะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีคือซึมลงผิวหน้าหมดเลย ไม่ทิ้งความเหนอะ

เราใช้เค้าทุกเช้าและเย็นเลยค่ะ ปั๊มเดียวเอาอยู่

หลงรักเซรั่มใสขวดนี้ตรงที่เป็นพรีเซรั่มที่เปิดผิวได้ดีมาก บางวันเราทาหลังโทนเนอร์ บางวันเราใช้เค้าในขั้นตอนแรกเลย ช่วยให้การเติมสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไปยิ่งดีขึ้นไปอีก
เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ในเช้าที่เร่งรีบ เพราะซึมไวมากแต่ให้ความชุ่มชื้นมากเช่นกัน ลงปุ้บต่อกันแดดและเมกอัพได้เลย ไม่ต้องรอเซตรอซึมนาน
เป็นบูสเตอร์ให้ผิวในวันที่ผิวล้าๆ ด้วยความที่เค้าเป็นเจล มันจะมีความเย็นในตัวอยู่แล้ว หากใครต้องการความเย็น เอาไปแช่เย็น พอเอามาทาปุ้บคือผิวตื่นเลย

ส่วนตัวนะคะ หลังจากที่ได้ใช้ Vichy mineral 89 เรารู็สึกว่าหน้าเรามีความชุ่มชื้นมากขึ้น เป็นความชุ่มชื้นใต้ผิวที่ยาวนานนะ
พอผิวมีความชุ่มชื้นมากพอ เรารู้สึกว่ามันนุ่ม เด้งดี
ช่วยปลอบประโลมผิว มันเหมาะมากแล้วที่จะพกไปด้วยทุกที่ ขึ้นเขาลงห้วยพา Vichy mineral 89 ไปด้วยเถอะ
อีกอย่างที่สำคัญเลยคือ รู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้นมาก เจอฝุ่นเจอน้ำแปลกๆ ไม่ค่อยแพ้แล้ว

พอผิวดีก็จะช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดหน้า

บอกตามตรงว่าใช้ตอนแรกคิดว่าเค้าเฉยๆ แต่พอวันนึงที่ไม่ได้พกเค้าไปต่างจังหวัดด้วย เพราะคิดว่าไม่จำเป็น ไม่ใช้ก็ได้ คือรู้เลยว่าไม่ได้! เราจะขาดเค้าไม่ได้!
มีความใช้ต่อเนื่อง ความซื้อซ้ำและความตุน!

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ยกกระชับผิว | ไม่ระคายเคือง


• Shopped at :
• บิวตี้สโตร์ (เช่น อีฟแอนด์บอย, เซโฟร่า, บิวเทรี่ยม)
• Reviewed when :
• กำลังใช้ซ้ำ
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1575859738
• Review link :
• Click to open

ปกติชอบล้างมือดด้วยน้ำเปล่ามากกว่า แต่มีติดบ้านไว้ มักจะใช้หลังล้างจาน เพราะมีมือกลิ่น สำหรับกลิ่นคิเรอิหอมมาก หอมจนฉุน เราจะใช้นิดเดียวเพราะไม่ชอบกลิ่นมันติดมือนาน กลิ่นแรงไป และพอล้างเสร็จรู้สึกมือมันฝืดๆเอี๊ยดๆ
เรื่องกำจัดกลิ่นอื่นๆบนมือ ทำได้ดี ความสะอาดก็ดีมาก
แฟนเราใช้เยอะ เขาชอบ เวลาเค้าล้างมือเสร็จมานั่งข้างๆก็ได้กลิ่นติดมา บางทีก็ฉุนเกินไป เราเลยไม่ค่อยปลื้มกลิ่นเท่าไหร่

• Overall rating :
• 3


• Benefit received :
• ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม


• Shopped at :
• ไฮเปอร์มาร์ท (เช่น โลตัส, บิ๊กซี)
• Reviewed when :
• กำลังใช้ซ้ำ
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1571111408
• Review link :
• Click to open

เนื้อสีขาวออกชมพูอ่อนๆนิดๆ ผิวสองสีทาได้ไม่วอก ผิวจะดูสว่างขึ้นนิดนึง (เพราะเราไม่ได้ทาเยอะนะ) เกลี่ยง่ายดี เนื้อเค้าค่อนข้างเหลว ซึมดี ค่อนข้างไว ไม่หนึบติดผิวนาน ไม่ได้รู้สึกว่าเค้าคุมมัน แต่หน้าก็ไม่ได้เยิ้มเพราะตัวนี้

• Overall rating :
• 3


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ทาง่าย / เกลี่ยง่าย | ไม่เหนียวเหนอะหนะ | กันแดด | ล้างออกง่าย


• Shopped at :
• ได้รับตัวอย่างทดลองใช้
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1571111184
• Review link :
• Click to open

ด้วยชื่อเสียงของยูเซอรีนก็เรียกได้ว่าเป็นเวชสำอางที่เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผิวแพ้ง่ายอยู่แล้ว

Eucerin UltraSensitive Soothing Care ก็เช่นกัน ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดูแลผิวแพ้ง่าย เพราะไม่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ผิวระคายเคืองอย่างพวก สี น้ำหอม และแอลกอฮอล์ สำหรับคนที่มีผิวแข็งแรงก็ใช้ได้ค่ะ มันจะยิ่งเป็นเกราะป้องกันผิวไปได้อีก



Eucerin UltraSensitive Soothing Care เป็นเนื้อครีมสีขาว แต่ผิวสัมผัสให้ความรู้สึกเหมือนเป็นกึ่งๆอิมัลชัน ความเข้มข้นไม่ได้มาก ดังนั้นจึงไม่รู้สึกถึงความหนืดเหนียวของเนื้อผลิตภัณฑ์

ไม่ได้มีการผสมน้ำหอมลงไป กลิ่นเลยจะเป็นลักษณะของเวชสำอางทั่วไป ที่ไม่ได้มีความหอม แต่ก็ไม่ได้เหม็น เราจะรู้สึกถึงกลิ่นอ่อนๆจางๆค่ะ

บรรจุมาในขวดหัวป๊ม เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เรียกว่า Anti-contamination Air-Free packaging ซึ่งสามารถป้องกันสิ่งปนเปื้อนและแบคทีเรียได้ หากสังเกตตรงรูของขวดดีๆ จะเหมือนมีอะไรมาอุดอยู่ นั่นไม่ใช่ครีมค้างเกรอะกรังนะคะ แฮ่!

ครีมตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งเช้าทั้งเย็นเลยค่ะ ใช้เดี่ยวๆได้ หรือจะใช้ร่วมกับเซรั่มตัวอื่นก็ได้เหมือนกันค่ะ

เนื้อครีมไม่ได้ซึมไวหายไปทันที แต่ถือว่าการซึมเข้าผิวของเขาก็ทำได้ดีเลย รอให้เซตตัวลงผิวไม่เกินห้านาทีค่ะ ไม่ทิ้งความมัน ไม่รู้สึกเหนอะ ไม่เกิดคราบขาวบนหน้า ถึงแม้จะมีเนื้อสีขาว หน้าก็ไม่วอก ลอยนะคะ

สิ่งที่ชอบมากๆในครีมตัวนี้คือ ชุ่มชื้นมากๆ แม้เราจะทาแค่ตัวเดียวก่อนนอน และนอนในห้องแอร์ หน้าไม่ลอก ตื่นมายังคงความชุ่มชื้น เอาอยู่แน่นอนค่ะ

สำหรับเราแล้ว ไม่มีสิวอุดตันขึ้นค่ะ ไม่เกิดการแพ้ด้วยนะคะ ก็แหงหล่ะ เขามาทำเพื่อผิวแพ้ง่าย จะให้มาแพ้ได้ไง

สกินแคร์ตัวนี้อาจจะดูเป็นมอยเจอไรเซอร์ง่ายๆ แต่จริงแล้ว ช่วยดูแลผิวเราได้เป็นอย่างดีที่เดียวค่ะ

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ไม่ระคายเคือง


• Shopped at :
• อื่น ๆ
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1537232661
• Review link :
• Click to open

Concept Anti-Melasma Cream เป็นครีมทาฝ้าจากคอนเซ็ปท์ ที่ได้รับการรับรองประสิทธิภาพจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง จากสถาบัน Spincontrol Asia
ปกติครีมทาฝ้าทั่วไปมักจะทำให้หน้าบาง เพราะต้องทำให้บริเวณที่ดำขาวขึ้น ผลัดเซลล์หน้าเราออกไป หน้าก็จะบางลง แต่ครีมตัวนี้ เขาเคลมมาว่าไม่ทำให้หน้าบาง และไม่ทำร้ายผิวหน้าของสาวๆเลยค่ะ
เพราะเขามีส่วนผสมที่ปลอดภัย และใช้ได้ผลจริงจากการทดลองใช้โดยสาวเอเชีย โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรับรองผล

ครีมทาฝ้าคอนเซ็ปท์ ตัวนี้เนี่ย มี Alpha-Arbutin 1.2% ที่เป็นตัวช่วยให้ฝ้าต่างๆจางลงใน 3 สัปดาห์ และยังมี Vitamin B3, Seed extract และ Cogongrass extract สามตัวนี้มาช่วยเรื่องของความชุ่มชื้นอีกด้วย

บรรจุภัณฑ์: ครีมทาฝ้าคอนเซ็ปต์มาในหลอดเล็กๆยาวๆ ตัวหลอดสีขาว ฝาสีแดง มีน้ำหนักเบาค่ะ ไม่หนัก ไม่เทอะทะ พกพาสะดวก เปิดฝาออกมาและใช้วิธีบีบออกจากหลอด ก็ดีนะคะ ค่อยๆบีบออกมา สิ่งสกปรกจากภายนอกจะได้ไม่เข้าไปสะสมกับตัวครีมภายในค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์: เป็นเนื้อครีม ที่มีสีขาวขุ่น เนื้อครีมมีความเข้มข้นในระดับนึง แต่ไม่หนัก ไม่ได้เหนียวเหนอะ ซึมไว ตัดเรื่องความรำคาญความหนึบไปได้เลยค่ะ
กลิ่นผลิตภัณฑ์: มีกลิ่นอ่อนๆ ไม่มีน้ำหอม ไม่ฉุนเตะจมูก กลิ่นแนวเวชสำอางทั่วไปเลยค่ะ

จริงๆส่วนตัวเนี่ย ยังไม่ได้มีปัญหาเรื่องของฝ้า แต่ที่ยังอยากลองใช้ เพราะเราก็คิดว่าถึงไม่มีก็ใช้ได้ ด้วยส่วนผสมของเขา มันไม่ได้แก้แค่ฝ้าเท่านั้น จากที่ฝึกษามา Abutin และมีวิตามิน บีสามที่มาจากธรรมชาติ ยังช่วยเรื่องจุดด่างดำ ทำให้ขาวกระจ่างใสขึ้นโดยไม่ส่งผลเสียกับหน้าด้วย

นอกจากนั้นยังเป็นการป้องกันไว้ก่อนด้วยค่ะ (ป้องกันไว้ดีกว่ามาแก้ไขนะคะสาวๆ)

วิธีใช้ของเราคือ
หลังล้างหน้าตอนกลางคืน เราจะทาบางๆให้ทั่วทั้งบริเวณใบหน้า ค่อยใช้นิ้วมือเกลี่ย นวดๆวนๆให้ครีมซึม
ส่วนในตอนเช้า เราจะเน้นแต้มเฉพาะจุด เช่นที่มีรอยดำ หรือจุเสี่ยงเกิดเฝ้าอย่างเช่นตรงโหนกแก้ม
อาจจะวอร์มครีมก่อนหรือไม่ก็ได้ เพราะเนื้อเขาไม่ได้เหนียวเหนอะ

หลังใช้ติดต่อกันเป็นเวลากว่าสามสัปดาห์

อย่างแรกเลยคือจุดด่างดำจางลงเยอะเลยค่ะ ถ้าเป็นจุดฝ้า-กระ เราคิดว่าคงจางไวได้ผลไม่ต่างกัน
อย่างที่สองคือผิวหน้าดูไบรทืขึ้น สว่างขึ้น เป็นเพราะตัวอาบูติน ที่ช่วยให้สีผิวหน้ากระจ่างใส
และอย่างที่สาม ได้เพิ่มมาก็คือผิวมีควมชุ่มชื้น ใช้แล้วหน้าไม่แห้งไม่ลอก เพราะเขามีวิตามินบี3
แถมอีกนิดนึง ไม่รู้สึกเลยว่าหน้าบาง ชั้นผิวยังคงเดิม โดนแดดได้ปกติ ไม่แสบไม่ร้อน (แต่ยังไงก็ต้องทากันแดดป้องกันนะคะ)

เราเป็นคนนึงที่ผิวแพ้ง่าย คอนเฟิร์มเลยว่าผิวแพ้ง่ายใช้ได้แน่นอนค่ะ

คนเราอาจจะคิดว่าอายุยังไม่เยอะ ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมพวกนี้ก็ได้ แต่จริงๆ เรายังมีความเสี่ยงในด้านอื่นที่ไม่เกี่ยวกับอายุนะคะ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม ฮอร์โมนเปลี่ยน โดดแดดบ่อยๆโดยไม่ป้องกัน เครื่องสำอางทำร้ายผิวหน้าสะสม หรืออาจจะมีโรคประจำตัวที่ส่งผลก็ได้

Concept Anti-Melasma Cream หาซื้อไม่ยากเลย
ห้างสรรพสินค้า ร้านขายยาใกล้บ้านก็มีนะ
ราคาเอื้อมถึง ขนาด 12 กรัม อยู่ที่ 290 บาท และขนาด 24 กรัม เพียง 450 บาทเท่านั้น
รู้อย่างนี้แล้วอย่ารอช้า รีบพุงไปตำให้ไวเลยค่ะ

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ผิวขาวใส | ไม่ระคายเคือง | ลดจุดด่างดำ | ลดกระ ฝ้า


• Shopped at :
• ร้านขายยาหรือร้านผลิตภัณฑ์ความงาม
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1534918269
• Review link :
• Click to open

สวัสดีสาวๆวนิลลา ทุกคนค่ะ

วันนี้ขอมานำเหนอรีวิว Lancome Teint Idole Ultra Wear
ออกตัวก่อนเลยว่าเราเป็นคนที่มีผิวผสม คือมีทั้งส่วนมันและส่วนแห้งในหน้าเดียวกัน ทีโซนมัน ยูโซนแห้ง ส่วนที่มันก็มั๊นมันเลยนะคะ บางวันเยิ้มเชียว ปัญหาผิวอีกอย่างนึงคือมีรอยดำจากสิว และสีผิวไม่สม่ำเสมอค่ะ (แอบเครียด)

Package: ปกติแล้วเป็นขวดแก้วยาวทรงเหลี่ยม หัวปั๊ม มีความหะรูหะรา (หรูหรา) แค่จับก็รู้สึกสวย (เว่อร์ไปค่ะ ฮ่าา)
Texture: หรือเนื้อรองพื้นที่เราบีบมาจากหลอด เนื้อสัมผัสมีความนุ่ม ลองใช้นิ้วเกลี่ยๆถูๆดู เนื้อเขาจะลื่นๆ เหลวนิดนึงค่ะ ไม่ได้ไหลเหมือนน้ำ แต่ก็ไม่ได้หนืดจนฝืดอะไร
Scent: กลิ่นหอมดีนะคะเราว่า ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมแรง ไม่มีกลิ่นแอลกออฮอล์ระคายจมูก

หลังจากได้ลองใช้และออกไปตะลอนๆที่ต่างๆมา เราก็อยากมาแชร์ผลลัพธ์การใช้รองพื้นลังโคมตัวนี้

1.) เนื้อรองพื้น เกลี่ยง่าย ตัวนี้ขอให้คะแนน 10 เต็มเลยค่ะ ไม่ว่าจะลงรองพื้นด้วยมือ แปรง หรือฟองน้ำ ก็ได้หมด
2.) ฟินิชลุคที่ได้ มีความแมตต์ แต่ไม่ด้าน ยังคงความเงาให้ผิวเล็กน้อย ดูผิวสวยขึ้น ไม่ได้ดูโบ้ะ
3.) ความปกปิด ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับ medium coverage หากลงเลเยอร์เดียว
ไม่ได้ปกปิดทุกอย่างเว่อวังเหมือนฉาบปูน แต่ก็กลบรอยอะไรได้พอสมควร ถ้าบิ๊วด์เพิ่มก็ให้ความปกปิดเพิ่มไปอีก คือเราบิ๊วด์ได้โดยไม่เป็นคราบเลย อันนี้คือดีงาม
4.) ความคุมมัน-กันเหงื่อ ระหว่างวันใต้ผิวเราผลิตน้ำมันออกมาปกติ พอเราซับเหงื่ออกแล้ว รองพื้นยังอยู่ หน้าก็กลับมาผ่องเหมือนเดิม
5.) ความติดทน ข้อนี้สำคัญเลย ตามที่เคลมไว้คือ 24 ชม. ไอ่เราก็ไม่กล้าพิสูจน์ขนาดน้านนน 555 แต่จากการที่ตะลอนๆ ทั้งวัน รวมๆเวลาที่รองพื้นอยู่บนหน้าแล้ว 8 ชม. ไม่มีหลุดไม่ลอก ไม่เป็นคราบ ข้อนี้ผ่าน!

และจากการทดสอบเรื่องของความกันน้ำ ทาที่มือแล้วนำไปล้าง น้ำจะเกาะบนผิวเหมือนใบบัวเลยค่ะ ซับน้ำออก รองพื้นยังอยู่

รองพื้นมีการออกซิไดซ์ของรอง พวกบ่ายๆก็ดรอปจริง แต่สำหรับเราเราว่ามันไม่ได้ดรอปจนหมองแบบโดนของ ยังคงดูนัว ดูนวล ถือว่ายังดีอยู่ค่ะ

อย่างที่ทาง Lancome กล่าวไว้ #MakeUpIsMyPower เมคอัพทำให้เราดูมีพลังขึ้นจริงๆค่ะ
ขอสรุปว่ารองพื้น Lancome Teint Idole Ultra Wear เป็นรองพื้นที่สาวๆทุกคนต้องมี๊ (เสียงสู๊งงง)

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | เป็นธรรมชาติ | เนื้อแมทท์ | ปกปิด | ติดทนนาน | กันแดด


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1531119721
• Review link :
• Click to open