ลืมทาอะไรก็ได้ แต่ห้ามลืมทาครีมกันแดด!! ครีมกันแดดเป็นไอเท็มที่เราขาดไม่ได้ และยกให้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผิว เพราะแดดเมืองไทยมันร้อนซะเหลือเกิน การทาครีมกันแดดถือเป็นสร้างเกราะป้องกันผิวที่ดีที่สุดค่ะ เพราะฉะนั้นการเลือกครีมกันแดดดีๆสักตัวสำคัญไม่ใช่น้อยเลยนะคะ

เราได้ลองใช้ Lancome UV Expert Tone Up Milk Rosy Bloom ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ตัวนี้เป็นสูตรใหม่ Rosy Bloom ซึ่งก่อนหน้านี้เราใช้กันแดดของ Lancome อยู่แล้วแต่เป็นรุ่น BB Complete สำหรับรุ่นใหม่นี้ เราว่ามันพิเศษตรงที่ เนื้อเบาเกลี่ยง่าย ทางแบรนด์เครมว่าหลังทาสามารถอัพสีผิวให้สว่างขึ้นได้ และประสิทธิภาพการกันแดดยังเริ่ดเหมือนเดิม เลยต้องพิสูจน์กันหน่อยค่า

เนื้อสัมผัส/กลิ่น
เนื้อมีความเป็นครีมแต่ไม่หนัก รู้สึกเหมือนเป็นนื้อครีมที่คล้ายมูสหน่อยๆ สีครีมอมชมพูเล็กน้อย มีความข้นพอสมควรแต่ไม่หนืด กระจายตัวได้ดี วนครีมลงบนผิวสักพักก็ซึมลงผิวหมด สำหรับกลิ่น เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายดอกไม้ หอมกำลังดีไม่ฉุนค่ะ ถ้าใครแพ้น้ำหอมต้องลองเทสที่ข้อพับดูก่อนนะคะ

ความรู้สึกหลังลองใช้
อย่างแรกที่รู้สึกคือ หลังทาแล้วผิวใสขึ้นจริง ไม่ได้ขาวแต่ดูกระจ่างใส เหมือนเราลงเมคอัพเบสค่ะ ผิวมีความโกลวแบบธรรมชาติ หลังทาผิวจะฉ่ำๆแบบมีไฮไลท์นิดๆ ช่วยพรางรูขุมขนของเราช่วงหน้าแก้มได้ดี ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นระดับนึง คุณสมบัติคล้ายเมคอัพเบส เรื่องการพรางจุดบกพร่องและรอยดำเราว่ายังไม่เท่าไหร่ ถ้าใครเน้นปกปิดมากๆตัวนี้อาจจะยังไม่โดน เพราะเค้าเน้นงานผิวใสแบบธรรมชาติมากกว่า แต่ผิวไบรท์เราว่าทำได้ดีทีเดียว สาวคนไหนชอบงานผิวจะต้องเลิฟตัวนี้ ส่วนประสิทธิภาพการกันแดด Lancome ทำได้ดีอยู่แล้ว SPF50+ PA++++ ใส่มาเยอะป้องกันทั้งมลภาวะและแสงแดงได้ดีมากค่ะ

ครีมตัวนี้จะมีความมันนิดๆ หลังทาไม่ได้ซึมลงบนผิวทันทีแบบหายวับไปเลยนะคะ ต้องให้เวลาเค้าหน่อย เราเป็นคนผิวมันมากช่วงทีโซน หลังทาตัวนี้ เราเปลือยหน้าสัก 2 นาทีถึงเริ่มแต่งหน้าต่อค่ะ ในวันสบายๆเราลงตัวนี้แค่ตัวเดียวแล้วทาแป้งต่อเลย ไม่ได้ใช้รองพื้นตาม ได้งานผิวธรรมชาติ ถ้าใครไม่เน้นปกปิดเราว่าลงตัวนี้ตัวเดียวได้สบาย ผิวไบรท์ขึ้นแถมกันแดดได้ด้วย สวยแบบประหยัดเวลาค่ะ อีกอย่างที่ชอบคือใช้แล้วไม่เป็นคราบขาว แต่งหน้าต่อได้ไม่พังค่ะ ภาพรวมตัวนี้เราให้ 4.5/5 คะแนน หักนิดนึงตรงที่หลังทาผิวยังไม่ค่อยอมชมพูเท่าไหร่ อยากให้ทาแล้วไบรท์แบบอมชมพูกว่านี้อีกนิดค่า ที่เหลือเราว่าโอเคมาก เป็นกันแดดที่ครบจบให้หลอดเดียว กันแดดได้ดีแถมผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ตลอดค่ะ

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ทาง่าย / เกลี่ยง่าย | ไม่เหนียวเหนอะหนะ | กันน้ำ | ไม่ระคายเคือง | กันแดด | กลิ่นหอม | ล้างออกง่าย


• Shopped at :
• เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1558773714
• Review link :
• Click to open

ANESSA PERFECT UV SUNSCREEN SKINCARE MILK กันแดดขวดทองในตำนาน! เราเริ่มใช้ตัวนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วค่ะ เมื่อก่อนยังไม่เข้าไทยต้องซื้อจากญี่ปุ่น ใครไปญี่ปุ่นต้องโดนตัวนี้กลับมาแน่นอน เพราะเป็นไอเท็มตัวท๊อปที่โด่งดังเรื่องกันแดดมาก หลังจากแบรนด์เอาเข้ามาขายที่ไทย ตัวนี้ก็ทวีความดังเข้าไปอีก เรียกได้ว่าเป็นกันแดดที่มีคนรีวิวและพูดถึงเยอะที่สุดตัวนึงเลยค่ะ

เหตุผลที่เราใช้ตัวนี้มาอย่างยาวนานและยกให้เป็นกันแดดในดวงใจ เพราะเราเป็นคนผิวมัน+เป็นสิวง่ายค่ะ ไม่ค่อยถูกกับกันแดดเนื้อครีมเพราะยิ่งทายิ่งเหนียว ถ้าเนื้อหนักมากๆระหว่างวันจะเป็นคราบ อีกอย่างคือทำให้เป็นสิวค่ะ หลังได้ลองใช้ตัวนี้ก็ติดใจ ใช้มาตลอดจนถึงตอนนี้ รวมระยะเวลา 6 ปีแล้วค่ะที่ไม่เปลี่ยนใจ

เนื้อผลิตภัณฑ์/กลิ่น
เนื้อเจ้าขวดสีทองตัวนี้เป็นแบบน้ำนม มีความเหลวแบบน้ำนมตามชื่อเลยค่ะ สีขาวแบบเดียวกับน้ำนมเช่นกัน เป็นเนื้อแบบน้ำที่บางเบา ไม่มีความหนืดใดๆเลย เกลี่ยง่ายมาก ซึมลงผิวทันทีหลังเกลี่ยค่ะ กระจายตัวได้ดีมากทำให้ไม่เปลือง เวลาใช้บีบออกมาแค่นิดเดียวเกลี่ยได้ทั่วหน้าเลยค่ะ สำหรับเรื่องกลิ่น เป็นกลิ่นกลางๆไม่หอมและไม่ฉุน เราใช้มานานเลยชินกลิ่นไปแล้วค่า

ความรู้สึกหลังใช้
เรื่องกันแดดตรงนี้ชนะเลิศค่ะ เพราะค่า SPF และ PA สูงมาก (SPF50+ PA++++) แดดบ้านเราต้องเจอแบบนี้ค่ะถึงจะเอาอยู่ ยิ่งเราเป็นคนที่มีกระบนหน้า ยิ่งต้องเลือกแบบประสิทธิภาพสูงๆแบบนี้ค่ะ ป้องกันฝ้าและกระไม่ให้เป็นมากกว่าเดิมได้ และที่ชนะเลิศอีกอย่างคือการกันน้ำและกันเหงื่อ ทาไปเล่นน้ำไปทะเลก็รอด ป้องกันผิวไหม้และอาการแสบแดงจากแดดได้ดี สามารถทาได้ทุกวันหรือใช้ในวันที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งหนักๆก็ได้เช่นกันค่ะ อีกอย่างคือใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวตัวเลย ขวดเดียวครอบคลุมไม่ต้องซื้อหลายตัวให้เปลืองเงิน เราแพ้ง่ายแต่ใช้ตัวนี้แล้วไม่แพ้ สำหรับสูตรนี้แบรนด์เค้าใส่สารบำรุงผิวมาด้วยนะคะ กันแดดและบำรุงในตัว เหมาะกับทุกสภาพผิว จะผิวมันหรือผิวแห้งก็เอาอยู่ค่ะ

สรุป/แนะนำ
สำหรับสาวผิวมันไม่ต้องกังวล ตัวนี้ตอบโจทย์มาก เราผิวมันมากใช้แล้วสบายผิว ไม่มันเพิ่มระหว่างวัน ไม่เหนอะหนะ ลุยน้ำลุยแดดหนักๆได้สบาย เป็นอีกตัวที่ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ค่ะ แนะนำสำหรับใครที่กลัวใช้แล้วสิวขึ้น หลังใช้แค่ล้างหน้าให้สะอาดเท่านี้ก็พอแล้วค่ะ เราให้คะแนนตัวนี้ 5/5 ไม่รู้จะหักตรงไหนดี เพราะใช้แล้วชอบมากกก เป็นกันแดดลูกรักตลอดกาลค่ะ

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความชุ่มชื้น | ทาง่าย / เกลี่ยง่าย | ไม่เหนียวเหนอะหนะ | กันน้ำ | ไม่ระคายเคือง | กันแดด | ล้างออกง่าย


• Shopped at :
• ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
• Reviewed when :
• กำลังใช้ซ้ำ
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1554443221
• Review link :
• Click to open

ใครผมลีบแบนบ้าง ยกมือขึ้นนน! เราเป็นคนนึงที่ประสบปัญหานี้ เพราะมีปัญหาผมลีบแบนช่วงหนังศรีษะและแห้งฟูมากช่วงปลายผม เคยหาทางออกอยู่หลายวิธีแต่ก็ยังไม่พอใจ อยากจะไปดัดผมยกโคนแต่ราคาก็แพงแสนแพง เลยลองเปลี่ยนวิธีใกล้ตัวง่ายๆ ด้วยการหาแชมพูที่ช่วยแก้ปัญหานี่ได้ จนได้มาเจอแชมพูสูตร MICELLAR OXYGEN ของโดฟค่ะ หลังลองใช้รู้สึกพอใจมาก ไม่รีวิวไม่ได้แล้วค่าาา

เริ่มกันที่ เนื้อผลิตภัณฑ์และกลิ่น
ครั้งแรกที่เห็นแอบตกใจเหมือนกัน แชมพูอะไรใสเบอร์นี้ บีบแชมพูลงบนมือนี่เห็นลายมือชัดแจ๋ว 5555 เป็นสีใสที่มีเหลือบสีฟ้าอ่อนนิดๆ ให้ความรู้สึกสะอาดตั้งแต่ยังไม่ได้สระ เนื้อแชมพูมีความหนืดกำลังดีไม่ข้นและไม่เหลวจนเกินไปค่ะ สำหรับกลิ่นขอบอกว่าหอมมากกกก กลิ่นหอมสะอาด หอมแบบสดชื่นค่ะ เป็นกลิ่นที่เฟรซมาก รู้สึกสดชื่นทั้งตอนสระและหลังสระค่ะ

ผลลัพธ์หลังใช้
ส่วนตัวเราใช้แล้วชอบค่ะ เพราะใช้แล้วเห็นผลตามคำเครมของแบรนด์ สิ่งที่รู้สึกได้อันดับแรกคือ สระแล้วสะอาดสบายหนังศรีษะ ช่วยขจัดความมันและสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจดค่ะ เราเป็นคนที่ขี้เกียจสระผมมาก หลังใช้ตัวนี้เข้าวันที่ 3 ก็ยังไหวอยู่ค่ะ สำหรับเรื่องการเพิ่มวอลลุ่ม ตรงนี้ทำได้ดีพอสมควร ช่วยยกโคนผมขึ้นได้ดี ผมมีความเด้งเล็กน้อยไม่ลีบแบน อีกข้อที่ไม่ได้คาดหวังไว้แต่กลับชอบมากคือ ผมนุ่มและช่วยลดการชี้ฟูได้ดีมาก ก่อนหน้านี้เรามีปัญหาผมชี้ฟูหลังสระ เหมือนไฟฟ้าสถิตทำให้จัดทรงค่อนข้างยากค่ะ แต่ตัวนี้ช่วยให้ผมฟูน้อยลงมาก จัดทรงง่าย ผมดูดีได้โดยไม่ต้องพึ่งไดร์เลยค่ะ ได้ผมสวยเด้งเป็นแบบธรมมชาติ ที่สำคัญใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ ไม่มีสิวขึ้นบริเวณกรอบหน้า เลิฟมาก

ความแตกต่างเมื่อเทียบกับแชมพูสูตรอื่นที่เคยใช้
สำหรับแชมพูตัวอื่นที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ หลังสระแล้วผมจะชี้ฟูเป็นสิงโตค่ะ แต่โดฟช่วยแก้ตรงนี้ให้เราได้จริง อีกอย่างคือผมนุ่มกว่าเดิมมาก ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น จัดทรงง่าย ช่วยลดเวลาเรื่องผมไปได้เยอะเลยค่ะ ส่วนเรื่องวอลลุ่มทำได้ดีกว่าเช่นกัน โดฟช่วยยกโคนผมให้ไม่ลีบแบน ได้ผมสุขภาพดีมีวอลลุ่มมากกว่าเดิมค่ะ

ภาพรวมหลังได้ลองใช้
สูตรนี้โดฟทำออกมาได้ดีค่ะ "ไมเซล่า ออกซิเจน" น่าจะเป็นสูตรที่เราชอบที่สุดในบรรดาแชมพูของโดฟทั้งหมด สาวๆที่อยากได้ผมเด้งมีวอลลุ่มแบบธรรมชาติ ต้องถูกใจสูตรนี้แน่ๆ เพราะใช้แล้วสบายหัวมากกก เติมออกซิเจนให้ทั้งหนังศรีษะและเส้นผม ผมนิ่มไม่ชี้ฟูอีกต่อไป เราลองใช้ตัวเดียวแบบไม่ลงครีมนวด ผลก็ดีเหมือนเดิม ถ้าได้ใช้คู่ทั้งครีมนวดและทรีตเมนท์ ผลลัพธ์ X10 แน่นอนค่ะ

คะแนนภาพรวมเราให้ 4.5/5 คะแนน ขอหักนิดเดียว กลิ่นติดผมน้อยไปนิดนึงค่ะ อยากให้กลิ่นหอมๆของโดฟ ติดทนได้นานขึ้นอีกหน่อย สำหรับเรื่องอื่นสอบผ่านทั้งหมดค่ะ ใช้แล้วผมมีวอลลุ่มตั้งแต่โคนจดปลายที่สำคัญนุ่มมากไม่ชี้ฟู "ถ้าสาวๆอยากสัมผัสความรู้สึกผมสวยเด้งได้..แบบไม่ง้อไดร์" ลองสูตรนี้ดูนะคะ อาจจะติดใจแบบเรา ^_^

• Overall rating :
• 5


• Benefit received :
• ให้ความรู้สึกสดชื่น | ให้ความชุ่มชื้น | ช่วยบำรุง | นุ่มลื่น | ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม


• Shopped at :
• ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
• Reviewed when :
• หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
• Review link :
• https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1554046396
• Review link :
• Click to open