รีวิว Twelve Plus Miracle CC Jewelry Powder

4

@@ สภาพผิวผู้รีวิว @@
- ผิวขาวอันเดอร์โทนเหลือง ประมาณ MAC - NC20
- ผิวมันปานกลาง
- มีรอยกระและรอยสิวเล็กน้อย
- รูขุมขนกว้าง

*** ทดลองโดยทาแป้งหลังจากทาครีมบำรุงและกันแดด ไม่ได้ลงเบสหรือรองพื้นใดๆก่อน ***

#สีแป้ง#
เบอร์ C1 เนื้อแป้งขาวสว่างพอสมควร คนผิวขาวๆแบบอาหมวยใช้ได้สบาย โทนสีออกเหลืองนวลกำลังดี จริงๆแล้วก็มีโทนชมพูเจืออยู่นิดๆนะไม่ได้เหลืองเพียวๆซะทีเดียว ส่วนตัวเแล้วเราผิวเหลืองมากและกลัวแป้งโทนชมพูเป็นที่สุดเพราะใช้แล้วหน้าเทาทุกที แต่สีแป้ง C1 แม้จะมีโทนชมพูเจืออยู่นิดๆ ก็ถือว่าโอเคไม่ทำให้หน้าเทาและอมแดงระหว่างวันค่ะ ส่วนเบอร์ C2 คล้ำกว่า C1 แค่นิดเดียวและมีโทนสีเหลืองเจือชมพูนิดๆคล้ายกัน สำหรับคนสีผิวค่อนไปทางคล้ำเราว่ามองผ่านแป้งรุ่นนี้ไปได้เลยค่ะ .. สีที่เราเลือกมาคือ C1 ความขาวพอดีกับสีผิวเรา หลังทาเสร็จใหม่ๆจะดูสว่างๆผ่องๆหน่อยแต่ไม่้ลอยวอก โดยปกติถ้าเราใช้แค่แป้งผสมรองพื้น ต่อให้ตัวแพงแค่ไหน ระหว่างวันหน้าจะดูหมองคล้ำง่าย แต่แป้งรุ่นนี้หลังจากครึ่งวันผ่านไปสีดรอปลงมาแค่จิ๊ดเดียว .. พอทิ้งไว้จนถึงค่ำๆ สีก็ดรอปลงมาอีกจิ๊ดดดดนึง ส่องกระจกดูหน้ายังผ่องเด้งใช้ได้ทีเดียวเลยล่ะ ทั้งวันสีดรอปลงไปประมาณไม่ถึง 10% ซึ่งถือว่าดรอปน้อยมากสำหรับเรา สีแป้งหลังจาก oxidation แล้วสีแป้งแทบไม่เปลี่ยนสีเลย ... ที่ทางแบรนด์เคลมว่า "ไม่ดรอป ไม่หมอง" เราให้คะแนนเต็มและรู้สึกประทับใจคุณสมบัตินี้มากค่ะ

#เนื้อแป้ง#
เป็นเนื้อแมท เนื้อแป้งไม่ถึงกับละเอียดมาก แต่ทาแล้วเนียนกริบสุดๆ เรื่องความเนียนก็เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจและให้คะแนนเต็มเช่นกัน มันไม่ได้เนียนใสแบบดูบางเบาเป็นธรรมชาตินะคะ คือดูเนียนแบบรู้ว่าทาแป้งมามากกว่า แต่ก็ไม่ได้หนาเตอะจนเหมือนโบกมา ถ้าให้เปรียบเทียบคือรุ่นนี้จะหนากว่า Mistine : Pur Gold นิดนึง แต่จะบางเบากว่า Cute Press : Evory Snow ค่ะ แนะนำว่าเวลาทาให้เอาพัฟแตะแป้งแค่ทีละนิดเดียวและค่อยๆตบทั่วหน้า จะทำให้ดูเนียนและไม่ดูหนาเตอะ และจากที่ทดลองใช้พัฟและแปรงในการทา เราว่าใช้พัฟตบสวยกว่าค่ะ ใช้แปรงแล้วเนียนสู้พัฟไม่ได้เลย ... ส่วนเรื่องการปกปิดถือว่าพอใช้ได้ สามารถปิดรูขุมขนและรอยกระเล็กๆได้ดี แต่ถ้ารอยสิวที่เข้มชัดขึ้นมาหน่อยก็จะยังพอเห็นอยู่บ้าง

#คุมมัน & ติดทน#
หลังผ่านไปประมาณ 2-3 ชม. ก็เริ่มมีน้ำมันออกจากหน้าแล้ว แต่เนื่องจากเราผิวมันแค่ปานกลาง ตอนที่น้ำมันออกเลยดูไม่เยิ้ม แต่ผิวจะดูเหมือนฉ่ำดิวอี้ขึ้นมา ถ้าคนที่ผิวมันมากคิดว่าแป้งคุมมันไม่อยู่แน่ๆค่ะ .. หลังจากที่น้ำมันออกจากหน้า แป้งก็ยังคงติดทนอยู่ ยกเว้นตรงจมูกที่ผิวมันมากกว่าบริเวณอื่น แป้งก็จะดูหายไปเยอะกว่า ... มาถึงข้อเสียที่ทำให้แป้งรุ่นนี้อดได้คะแนนเต็มจากเรา คือ หลังจากน้ำมันบนใบหน้าออกมา มันทำให้เนื้อแป้งดูลอยๆออกมาจากผิว ไม่ได้กลืนลงไปกับผิวซะทีเดียว ตอนใช้ Mistine : Pur Gold ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ก็ค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมเป็นแบบนี้ เพราะจากที่เคยใช้แป้งที่ราคาสูงหน่อยอย่างพวก Shu / Givenchy / Chanel ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย แต่โดยรวมแล้วเมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ดีๆด้านอื่น เราก็ยังถือว่าแป้งรุ่นนี้ถูกใจเรามากพอสมควร และคุ้มค่าแก่การซื้อมาใช้ค่ะ